เกาะติดตร.ล่าโจรทมิฬ ทุบฝรั่ง–ชิงเงิน2คดีซ้อน

จากสมุยจนมุมนนทบุรี : คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ตร.ล่าโจรทมิฬทุบฝรั่ง–ชิงเงิน2คดีซ้อน : 3วันแห่งการไล่ล่า ในที่สุดนายสมชาย ด้วงลาย คนร้ายชิงทรัพย์และทำร้ายนักท่องเที่ยวต่างชาติบนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ก็จนมุมตำรวจที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งใน ซ.งามวงศ์วาน 25 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี สูญสิ้นอิสรภาพตามเพื่อนร่วมแก๊งที่ถูกจับตัวไปก่อนหน้าแล้ว

นายพรศิลป์(ยืนกลาง) จนมุมรายแรก

ปฐมบทแห่งการติดตามจับตัวคนร้ายระยะทางไกลเกือบ 800 กิโลเมตร เริ่มจาก เมื่อวันที่ 18 ต.ค. พ.ต.อ.ธงชนะ หาญกิตติกาญนา ผกก.สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย รับแจ้งจากโรงแรมแซนดัล วู้ด ลักชัวรี่ วิลล่า ตั้งอยู่บนยอดเขาหมาแหงน ม.4 ต.มะเร็ต ว่ามีคนร้ายเป็น ชายไทย 2 คนเข้าไปก่อเหตุชิงทรัพย์ นักท่องเที่ยวภายในห้องพัก และใช้อาวุธทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะหลบหนีไปพร้อมกับทรัพย์สินเป็นเงินสด

หลังรับแจ้งจึงสั่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันปราบปราม ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ

ผู้เสียหายคือ นายไมเคิล อาโนลด์ ฮาน อายุ 47 ปี นักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน พร้อมกับภรรยา ให้การว่า เพิ่งมาท่องเที่ยวประเทศไทยพร้อมกับครอบครัวเมื่อวันที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา ก่อนจะเดินทางมาท่องเที่ยวที่เกาะสมุย และจะเดินทางกลับในวันที่ 2 พ.ย.

สอบปากคำผู้เสียหาย

ขณะที่พักในโรงแรมช่วงเกิดเหตุเวลาประมาณ 06.50 น. ขณะกำลังนอนหลับอยู่ได้ยินเสียงกระจกแตกจึงตกใจตื่นขึ้นมา ก่อนจะเดินมาสำรวจว่าเป็นเสียงจากไหน ต่อมาได้เห็นชายไทยวัยกลางคน สูงประมาณ 158 เซนติเมตร ใส่ผ้าปิดปาก นุ่งกางเกงขาสั้น ถือขวานเป็นอาวุธเข้ามาทางหน้าต่างห้องน้ำ แล้วพูดภาษาอังกฤษแปลเป็นไทยว่า “ให้เอาเงินมา” ก่อนจะเข้าไปคว้าเอากระเป๋าสีเงินไปพร้อมกับทรัพย์สินภายในเป็นสร้อยคอเครื่องประดับที่ไม่ได้มีมูลค่าอะไร

นายไมเคิลยังเล่าอีกว่า เมื่อเห็นคนร้ายหยิบเอากระเป๋าจึงเข้าไปแย่งและมีการต่อสู้กัน คนร้ายได้ใช้ขวานฟันเข้าที่บริเวณหลังหู แขนข้างซ้าย และนิ้วก้อยเท้าข้างขวา จนได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะมีคนร้ายอีกคนเป็นชายไทย สูงประมาณ 180 เซนติเมตร เข้ามาช่วยเหลือคนร้ายรายแรกและพากันวิ่งหลบหนีไป หลังเกิดเหตุได้แจ้งให้ทางโรงแรมทราบและไปทำแผลที่โรงพยาบาล

เจ้าหน้าที่รีบกระจายกำลังออกสืบหาเบาะแสคนร้าย พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในโรงแรมและรอบบริเวณ กระทั่งพบผู้ต้องสงสัยคือ นายพรศิลป์ หรือปิ หรือยาว อาจสุรินทร์ อายุ 36 ปี ชาวจ.อุดรธานี และนายสมชาย ด้วงลาย อายุ 38 ปี ทั้งคู่มีอาชีพขายของหาบเร่ริมชายหาดเฉวง

หลังรู้ตัวคนร้ายชัดเจนตำรวจจึงตามไปจับนายพรศิลป์ได้คาบ้านเช่าไม่มีเลขที่ ซอยป่าจาก ม.6 ต.บ่อผุด พร้อมทรัพย์สินของผู้เสียหายบางส่วน

สอบสวนนายพรศิลป์รับสารภาพว่า ร่วมกับนายสมชายที่หลบหนีไปได้ขี่รถจักรยานยนต์ขึ้นมาบนเขาหมาแหงนและนำไปจอดแอบไว้ริมทางหลังวิลล่า พอเห็นว่าปลอดคนจึงเดินเข้ามาตามถนนของโรงแรมดูลาดเลาจนพบห้องพักของผู้เสียหาย

เมื่อสบโอกาสช่วงปลอดคน นายสมชายใช้ขวานไปทุบกระจกห้องน้ำมุดตัวเข้าไปเปิดประตูห้องให้นายพรศิลป์ตามเข้าไปข้างใน แต่ระหว่างนั้นเจ้าของห้องตื่นขึ้นมา จนเกิดการต่อสู้กันและพากันหลบหนีออกมาจากที่เกิดเหตุ ก่อนจะแยกย้ายกันหนี

ขณะที่เจ้าหน้าที่กระจายกำลังกันตามล่าตัวนายสมชาย ช่วงค่ำวันเดียวกันก็ได้รับแจ้งเหตุลักทรัพย์สินของครอบครัวชาวอังกฤษในห้องพักของโรงแรมชีวาสมุย พื้นที่หาดละไม ต.มะเร็ต โดยคนร้ายได้ทรัพย์สินเป็นเงินสด 400 ปอนด์ เงินสดไทย 16,000 บาท และ ยังทำให้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บด้วย

กล้องวงจรปิดของโรงแรมดังกล่าวจับภาพคนร้ายไว้ได้ชัดเจน พบว่าคือนายสมชาย คนร้ายที่ตำรวจกำลังตามล่าตัวอยู่

นายสมชายผู้ต้องหา

พฤติกรรมของนายสมชายนับว่าเหิมเกริมไม่เกรงกลัวกฎหมาย รวมถึงตำรวจที่แทบจะปิดเกาะสมุยไล่ล่าตัวอยู่ พบประวัติเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาข่มขืนนักท่องเที่ยว คดียาเสพติด คดีลักทรัพย์ และคดีอาวุธปืน

แต่สุดท้ายนายสมชายก็เล็ดลอดสายตาเจ้าหน้าที่ไปได้ โดยแต่งกายปกปิดอำพรางตัว ขี่รถจักรยานยนต์หนีลงเรือเฟอร์รี่ออกจากเกาะสมุยในช่วงเช้ามืดวันที่ 29 ต.ค.

นาทีจนมุม

สภ.บ่อผุด, บก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และบช.ภาค 8 สนธิกำลังกันตามล่าตัว กระทั่งจนมุมขณะกบดานอยู่กับเมียในอพาร์ตเมนต์ย่านนนทบุรีในที่สุด

คดีนี้เป็นอีกหนึ่งคำยืนยันที่ว่า “ภายใต้ดวงอาทิตย์นี้ ไม่มีสิ่งใดที่ตำรวจไทยทำไม่ได้…”

สิทธิพงษ์ เจริญใจ

ภาพ/ข่าว