อุทาหรณ์ไม่สนิทอย่าเล่น!!? ฉุนล้อหัวล้าน–ดวลปืนสนั่น
ผช.ผญบ.ดับ–ส.อบต.โคม่า : คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
อุทาหรณ์ไม่สนิทอย่าเล่น!!? – การพูดล้อเล่นล้อเลียนถึงปมด้อยของคนอื่น โดยเฉพาะเรื่องหัวล้าน–หัวเถิก หากไม่สนิทสนมเป็นเพื่อนเกลอมักจบลงด้วยการวิวาทกัน
ยิ่งคำล้อเลียนหลุดออกจากปากคู่อริที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด คงไม่ต้องจินตนาการว่าเหตุการณ์จะลุกลามบานปลายไปขนาดไหน
ย้อนกลับไปเมื่อเวลาตีสี่ วันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.คณากร ดลเกศสิริ สว.สอบสวน สภ.เมืองตรัง รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันมีผู้บาดเจ็บบริเวณอ่างเก็บน้ำ หมู่ที่ 4 ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมพ.ต.ท.ประเสริฐ ส่งแสง รอง ผกก.สส. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่สายตรวจ
ที่เกิดเหตุอยู่กลางถนนไม่ห่างจากอ่างเก็บ น้ำ พบรอยเลือดกระจายไปเปรอะทั่ว มีอาวุธปืนขนาด ขนาด .357 และ .38 รวมถึงโทรศัพท์มือถือตกอยู่ และหลักฐานอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อว่านายเชิดชัย เพ็งลำ อายุ 45 ปี สมาชิกสภา อบต. หมู่ที่ 4 ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง กับนายสมหมาย สุวรรณวร อายุ 52 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4 ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง ทั้งคู่ถูกยิงด้วยอาวุธปืนตามลำตัวคนละหลายนัด อาการสาหัส ชาวบ้านที่เห็นเหตุการ์ช่วยพาส่งรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์ตรังไปก่อนหน้าแล้ว
แต่นายสมหมายทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตระหว่างแพทย์พยายามรักษาบาดแผล ส่วนนายเชิดชัยยังอยู่ในอาการโคม่า
สอบสวนทราบว่า นายเชิดชัยและนายสมหมายมีเรื่องระหองระแหงกันมานาน แต่ด้วยความฝ่ายหนึ่งมีตำแหน่งเป็นสมาชิก อบต. ส่วนอีกฝ่ายเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เมื่อหมู่บ้านจัดประเพณีลอยกระทงที่บริเวณอ่างเก็บน้ำที่เกิดเหตุทั้งคู่จึง ต้องมาช่วยงาน
หลังงานผ่านไปด้วยดีท่ามกลางรอยยิ้มของชาวบ้านที่มาลอยเคราะห์ลอยทุกข์โศก และสิ่งอัปมงคลไปกับกระทง รวมถึงเป็นการสักการะพระแม่คงคา
เมื่อผู้ร่วมงานทยอยกันกลับบ้านพัก คงเหลือเพียงชาวบ้านอาสาสมัคร สมาชิกสภา อบต. และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ประมาณ 10 คน ได้นั่งรวมกลุ่มตั้งวงดื่มสุรากันต่อ
เวลาผ่านไปสักพักใหญ่ เมื่อสุรายิ่งพร่องไปเท่าไหร่คำพูดจากที่เคยฟังรื่นหู ก็เริ่มมีวาจาระคายหูออกมา
กระทั่งนายเชิดชัยได้ล้อเลียนนายสมหมายด้วย คำว่า “ไอ้หัวล้าน” สร้างความไม่พอใจให้อีกฝ่ายเป็นอย่างมาก ถึงขั้นเกือบพะบู๊กันกลางวงสุรา จนบรรดาเพื่อนๆ ต้องพากันห้ามปรามจึงสงบลงได้ในที่สุด
ก่อนที่ทั้งนายเชิดชัยและนายสมหมายจะแยกย้ายกันเดินกลับบ้านพักกันคนละทาง
แต่ผ่านไปเพียงไม่กี่นาทีก็เกิดเสียงปืนดัง ขึ้นชนิดหูดับตับไหม้ หลังสิ้นเสียงปืนชาวบ้านพากันออกไปดูทางต้นเสียง ก็พบร่างของนายเชิดชัยและนายสมหมายนอนจมกองเลือดอยู่ไม่ห่างกัน จึงช่วยพาส่งรักษาที่โรงพยาบาล
พ.ต.ท.ประเสริฐ เผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถแจ้งข้อกล่าวหากับนายเชิดชัยได้ เพราะร่างกายยังไม่สามารถรับรู้ หรือให้การใดๆ ได้ คงต้องรอให้อาการดีขึ้นก่อน จึงให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เข้าไปแจ้งข้อกล่าวหากับนายเชิดชัยให้รับทราบ
โดยเตรียมแจ้งข้อกล่าวหากับนายเชิดชัยในการ บันทึกสำนวนไว้แล้ว คือ ฆ่าคนตายโดยเจตนา พกพาอาวุธไปในที่สาธารณะ ในหมู่บ้าน โดยไม่ได้รับอนุญาต และมีอาวุธไว้ในครอบครอง ขณะที่นายสมหมายที่เสียชีวิตก็ต้องโดนตั้งข้อหาพยายามฆ่า พกพาอาวุธไปในที่สาธารณะ ในหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร และมีอาวุธไว้ในครอบครอง ด้วย
ส่วนผลการสอบพยาน ขณะนี้เสร็จสิ้นแล้ว ทราบว่าคู่กรณีที่ก่อเหตุดวลปืนในงานลอยกระทงของหมู่บ้าน ทราบว่าทั้งสองคนเป็นไม้เบื่อไม้เบากันมานาน ซึ่งชาวบ้านก็ทราบกันดีทั้งหมู่บ้าน
แต่สาเหตุที่มีการดวลปืนขึ้นในคืนนั้น คาดว่าเกิดจากการดื่มสุราจนมึนเมา ขาดสติ และเมื่อนายสมหมายถูกนายเชิดชัยล้อเลียนว่า ไอ้หัวล้าน จึงโกรธจัดควบคุมสติไม่อยู่ จึงมีการโต้เถียงกันขึ้นอย่างรุนแรง และเป็นที่มาขอการชักปืนประจำกายออกมาดวลกันกลางถนนในหมู่บ้าน
จนในที่สุดนายสมหมายต้องถูกพญามัจจุราช กระชากวิญญาณไป ส่วนนายเชิดชัยก็เจ็บหนักอยู่ในขั้นตรีทูต หากรอดชีวิตได้และรักษาตัวจนหายดีก็ไม่แคล้วต้องเข้าไปใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ หลังมุ้งสายบัวไปอีกหลายปี
เพียงเพราะพลั้งปากล้อเลียนปมด้อยอีกฝ่ายด้วยฤทธิ์ของน้ำเปลี่ยนนิสัย