ผ่าคดีฆ่าสยองบางบัวทอง สาวพาผัวใหม่เชือดผัวเก่า
อ้างไม่ตั้งใจ-ถูกทำร้ายก่อน : คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
ผ่าคดีฆ่าสยองบางบัวทอง สาวพาผัวใหม่เชือดผัวเก่า อ้างไม่ตั้งใจ-ถูกทำร้ายก่อน – พิษรักแรงแค้น เป็นอีกปมที่ก่อให้เกิดเหตุอาชญากรรม แต่คงไม่มีคดีไหนที่จะ ซับซ้อนสับสนถึงรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล 3 คน ได้เท่าเหตุสยองล่าสุด
เมื่อเช้าตรู่วันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา ร.ต.อ. ศุภลักษณ์ พรมวงษ์ รอง สว.สอบสวน สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี รับแจ้งเกิดเหตุฆาตกรรมขึ้นภายในอาคารเอื้ออาทร 1 อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
ตร.เค้นสอบปากคำ
หลังรับแจ้งเหตุจึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ก่อนรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมพล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.สิรภพ อนุศิริ ผกก.สภ.บางบัวทอง พ.ต.ท.พฤฒ จรูญศาสน์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.สมุทร เกตุยา รอง ผกก.สอบสวน พ.ต.ท.วรทัศน์ วัฒนชัยนันท์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ณัฐยุทธ แก้วปาน สว.สส. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่สายตรวจ เจ้าหน้าที่พฐ. แพทย์นิติเวช สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุอยู่ภายในห้องพักห้องหนึ่งในโครงการดังกล่าว ภาพแรกที่เจ้าหน้าที่เห็นก็คือทั้งห้องเต็มไปด้วยรอยเลือดที่สาดกระจาย ส่วนกลางห้องมีร่างไร้ลมหายใจของนาย ณัฐพงษ์ หรือนัฐ พุ่มเปีย อายุ 26 ปี นอนหงายจมกองเลือด
นายณัฐพงษ์ พุ่มเปีย ผู้ตาย
ส่งศพให้แพทย์ชันสูตร
แพทย์ชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นพบบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีคม ที่ลำคอด้านซ้าย 2 แผล
สอบสวนนายณัฐวุฒิ ปั้นแตง อายุ 21 ปี เพื่อนผู้ตายที่อยู่ในห้องที่เกิดเหตุให้การว่า ขณะที่กำลังนอนพักผ่อนอยู่ในห้อง มี น.ส. อุมาพร หรือ เจน นวลเอี่ยม อายุ 26 ปี ภรรยาเก่าผู้ตายมาเคาะประตูห้องเรียก
เมื่อผู้ตายลุกมาเปิดประตู ก็พบอดีตเมียรักไม่ได้มาตามลำพัง แต่ยังมีนายวีระพงษ์ หรือยุ่น วถิตธรรมศานต์ อายุ 32 ปี อาศัยอยู่ย่านบางแค กรุงเทพฯ สามีใหม่ของฝ่ายหญิง พร้อมเพื่อนอีกคนยืนรออยู่หน้าห้อง
ทันทีที่เห็นนายนัฐ นายยุ่นก็ตรงเข้าใช้อาวุธมีดที่พกมากะซวกไม่ยั้ง จนนายนัฐทรุดลง จมกองเลือด จากนั้นทั้งหมดพากันหลบหนีไป
น.ส.อุมาพร นวลเอี่ยม – นายวีระพงษ์ วถิตธรรมศานต์
ด้านน้าสาวของผู้ตาย เผยว่า หลานชายและน.ส.เจนอยู่กินด้วยกันจนมีลูก 3 คน ต่อมาทั้งคู่ได้เลิกรากันไป 4-5 เดือน โดยฝ่ายหญิงหันไปคบหาอยู่กินกับนายยุ่น
แต่น.ส.เจนก็ยังไปมาหาสู่กับหลานชายเป็นประจำ เวลาที่มีปัญหาถูกผัวใหม่ตบตีทำร้ายร่างกาย ที่ผ่านมาพยายามเตือนให้เลิกติดต่อกัน แต่หลานชายยังรักผูกพัน เนื่องจากคบหากันมาตั้งแต่สมัยเรียน
หลังได้เบาะแส เจ้าหน้าที่รวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดนนทบุรี และกระจายกำลังกันติดตามตัวกลุ่มคนร้าย จนตามจับตัวนายยุ่นและน.ส.เจนได้ขณะกบดานอยู่แถวย่านถนนพระราม 3 ในช่วงเย็นวันที่ 2 ธ.ค. ในสภาพที่น.ส.เจนมีรอยถูกทำร้ายที่เบ้าตาขวาจนเขียวช้ำเห็นได้ชัด
คุมตัวส่งฝากขัง
ส่วนเพื่อนอีกคนที่ร่วมก่อเหตุคือ นาย ฉัตรชัย หรือ นัด ยอดแสงสี อายุ 30 ปี ถูกตำรวจบก.ภ.จว.ชลบุรี ตามไปตะครุบตัวได้ขณะหนีไปซ่อนในพื้นที่เมืองพัทยาในช่วงค่ำวันเดียวกัน
แต่เมื่อสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหา กลับได้ข้อมูลเป็นอีกทาง
ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ให้การรับสารภาพตรงกันว่า ก่อเกิดเหตุ นายยุ่น น.ส.เจน และนายนัด ขับขี่รถ จยย.ซ้อน 3 ไปที่ห้องเกิดเหตุ เพื่อที่จะไปทวงโทรศัพท์ของน.ส.เจนคืนจากนายณัฐพงษ์ ผู้ตาย เมื่อไปถึงห้องที่เกิดเหตุ นายยุ่นสามีใหม่กับนายนัฐสามีเก่า มีปากเสียงกันอย่างรุนแรงถึงขั้นชกต่อยกัน
ก่อนที่นายนัดจะเข้าไปช่วยรุมทำร้ายนายนัฐ และใช้อาวุธมีดแทงไปที่บริเวณลำคอ และไหปลาร้า จนนายนัฐล้มฟุบลงจมกองเลือดจากนั้นทั้งหมดหลบหนีไป โดยไม่คิดว่าจะทำให้ถึงตาย
พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี แถลงจับแก๊งโหด
หลังข่าวการเสียชีวิตของนายนัฐกระจายออกไป จึงแยกย้ายกันหลบหนีกระทั่งถูกตามจับได้ดังกล่าว
ขณะที่น.ส.เจนกล่าวทั้งน้ำตาขอความเป็นธรรมว่า ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องจริงตามข่าวที่ออกไป คนตาย ทำอะไรตนไว้มากโดยที่คนอื่นไม่รู้ ร่องรอยการถูกทำร้ายที่ใบหน้าถูกผู้เสียชีวิตทำร้ายมาก่อนหน้านี้ แม่และน้าคนตายรู้ดีว่าตนโดนทำร้ายอย่างไรบ้าง วันเกิดเหตุตั้งใจจะไปเอาของ ไม่ได้ตั้งใจจะไปฆ่า เพราะคนตายก็เป็นพ่อของลูก
แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม เมื่อร่วมกันก่อเหตุรุนแรงจนมีคนเสียชีวิต ทั้ง 3 คน ไม่แคล้วต้องเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในคุกอีกหลายปี
