คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

วินัย บุญมีพิสุทธิ์

นพรัตน์ คุ้มศรี

เรื่อง/ภาพ

เหตุการณ์สุนัขพิตบูลกัดคนยังมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งผู้เชี่ยวชาญสุนัขต่างพยายามให้ความรู้ถึงวิธีดูแล ที่ถูกต้องกับคนเลี้ยง แต่ดูเหมือนจะ ไร้ผล

ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 เม.ย.บุตรสาว นางศรีนวล (ขอสงวนนามสกุล) ชาว ต.น้ำโจ้ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ร้องเรียนผ่านสื่อสังคมออนไลน์ “Lampang city” ระบุว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา นางศรีนวลกำลังจะเดินทางไปงานบวชพี่ชาย แต่เดินผ่านหน้าบ้านที่อยู่เยื้องๆ กัน ซึ่งประตูบ้านไม่ได้ปิด จึงถูกหมาพิตบูล 3 ตัววิ่งกระโจนรุมกัดอย่างทารุณเกือบเอาชีวิตไม่รอด

หญิงสาวระบุว่าถ้าตอนนั้นไม่มีคนมาช่วยป่านนี้คงไม่มีแม่แล้ว หลังเกิดเหตุลูกชายของเจ้าของหมาก็ตามไปด้วย จนกระทั่งแม่ออกจากร.พ.ก็ได้คุยกับเจ้าของหมาว่าจะช่วยเหลือยังไง จะให้ค่าทำขวัญเท่าไหร่ แต่เจ้าของหมาไม่ยอมชดใช้ บอกให้เราไปฟ้องเอาจะไปคุยกันในศาล จะรอหมายศาลมาบ้าน ซึ่งที่บ้านค่อนข้างมีฐานะยากจน หนูมีแม่เพียงแค่คนเดียว ไม่มีพ่อ

ขณะที่นางศรีนวลเผยอาการว่า มีบาดแผลปากฉีก เนื้อหลุด แก้ม แขน รอบศีรษะ ข้อศอกและนิ้วโป้งซ้าย นอกจากนี้ถูกกัดบริเวณท้ายทอยบริเวณลำคอและมือ หมอต้องเย็บบาดแผลรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 70 เข็ม ตอนนอนพักรักษาตัวที่ร.พ.ศูนย์ลำปาง ซึ่งเจ้าของสุนัขก็มาเยี่ยมอยู่บ้าง แต่พอกลับมาพักที่บ้านก็ไม่มาเยี่ยมหรือช่วยเหลือ ไม่ยอมมาเจรจา บอกให้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายที่ศาลเอง

“ทุกวันนี้ยังต้องเดินทางไปล้างแผล รักษาตัวที่ร.พ.ศูนย์ลำปาง และร.พ.เกาะคาอย่างต่อเนื่อง เพราะแผลยังไม่หาย ต้องลาป่วย หยุดงาน และขาดรายได้ ตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย.จนถึงทุกวันนี้ อาหารก็ทานได้แต่น้ำข้าวต้มเท่านั้น เพราะบริเวณปากมีแผลฉีกขาดจนปากห้อย รวมทั้งศีรษะ แขนขวา ข้อศอก นิ้วโป้งซ้าย หมอก็เย็บแผลให้ โดยมีลูกสาวคอยดูแลอาการตลอดเวลา” นางศรีนวลกล่าว

หลังเป็นข่าวออกตามสื่อต่างๆ ในที่สุดเมื่อวันที่ 19 เม.ย. พ.ต.ต.กฤตเมธ ทาคำ สารวัตร (สอบสวน) สภ.แม่ทะ จ.ลำปาง ได้เรียกเจ้าของ สุนัขพันธุ์พิตบูล และนางศรีนวล ผู้บาดเจ็บมาพูดคุยทำความตกลงเรียกค่ารักษาพยาบาลและค่าทำขวัญ จนสามารถตกลงกันได้ โดยเจ้าของสุนัขพิตบูลยินยอมจ่ายเงินค่าทำขวัญให้ 3 หมื่นบาท ขณะที่นางศรีนวลพร้อมยุติเรื่องฟ้องร้องทั้งหมด

หลังตกลงกันได้พร้อมเจ้าของสุนัขรับปากว่าจะย้ายพิตบูลทั้ง 3 ตัวไปเลี้ยงที่อื่น ตร.จึงปรับเงิน 1 พันบาทกับเจ้าของพิตบูล ฐานไม่ดูแลสัตว์เลี้ยงให้ดี จนไปทำร้ายผู้อื่น ก่อนทั้งสองฝ่ายจะแยกย้ายกันกลับไป

อีกเหตุเกิดขึ้นเมื่อ 17 เม.ย. ก็มีข่าวว่าสุนัขพันธุ์พิตบูลกัดเจ้าของได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดภายในหมู่บ้านพฤกษา 96 บ้านเลขที่ 28/101 หมู่ที่ 6 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

น.ส.เจนจิรา คงขน อายุ 23 ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่สุนัขสายพันธุ์อเมริกันพิตบูล เทอร์เรีย เพศผู้ อายุ 2 ปี ชื่อเจ้าปาเกียว ซึ่งนายอานนท์ ทั่งพิมพ์ อายุ 26 ปี แฟนหนุ่มเป็นคนเลี้ยงกำลังกินข้าวอยู่

ตนเกิดความเอ็นดูจึงเอามือไปลูบหัว แต่ถูกสุนัขหันมากัดได้รับบาดเจ็บ เมื่อแฟนตนเห็นจึงนำสุนัขไปปล่อยนอกตัวบ้านแต่ยังอยู่ภายในรั้วบ้าน

กระทั่งเมื่อช่วงเวลา 16.00 น. ตนกับแฟนจะออกไปนอกบ้าน พอเจ้าปาเกียวเห็นก็วิ่งเข้ามากัดตน แฟนจึงเอาตัวเข้าขวางเลยถูกกัดได้รับบาดเจ็บที่ขาทั้งสองข้าง “เจ้าปาเกียวกัดไม่ยอมปล่อย แฟนของตนเองได้เรียกให้เพื่อนบ้านมาช่วยเหลือ สุดท้ายต้องตัดสินใจใช้มีดแทงจนเจ้าปาเกียวยอมปล่อย หลังจากนั้นก็ได้เรียกกู้ภัยเข้ามาช่วยยิงยาสลบและนำตัวไป

“ปกติแล้วเจ้าปาเกียวถูกเลี้ยงเป็นอย่างดี นอนในห้องนอนด้วยกัน เปิดแอร์ให้ และไม่เคยมีพฤติกรรมที่ดุร้าย ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าวันเกิดเหตุทำไมเจ้าปาเกียวถึงได้ดุร้ายมากัดคนซึ่งเป็นเจ้าของได้ และเวลานี้ก็ได้ให้กู้ภัยหมาแมวนำตัวไปเลี้ยงไว้ก่อน เพราะกลัวว่าจะมากัดเพื่อนบ้านได้รับบาดเจ็บอีก”

เจ้าปาเกียวถูกนำส่งไปรักษาที่ร.พ.สัตว์ทองหล่อ เพื่อผ่าตัดเย็บบาดแผลและทำหมัน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญระบุพฤติกรรมการเลี้ยงมีอิทธิพลถึง 90% โดยเฉพาะการเลี้ยงแบบตามใจ ทำให้ไม่ได้ฝึกวินัย ทำให้สุนัขเข้าใจว่าเป็นจ่าฝูง เมื่อไม่พอใจก็จะข่มขู่ ก้าวร้าว

ด้านนายนพดล ดวงแก้ว (ครูหนึ่ง) นักปรับพฤติกรรมการเลี้ยงสุนัข กล่าวว่า ครอบครัวของเจ้าของไม่พร้อมจะรับปาเกียวกลับไปดูแล จึงแนะนำให้หาบ้านใหม่ให้สุนัข และให้เจ้าของไปเยี่ยมได้ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

“ส่วนตัวมองว่าปาเกียวเป็นสุนัขที่ดี จากลักษณะสายพันธุ์ และเรียนรู้เร็ว ซึ่งผมทราบข้อมูลจากเจ้าของทั้งสองว่าเขามีปัญหาเรื่องการหวงอาหาร น่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้กัดเจ้าของ ซึ่งเรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดกับเจ้าปาเกียวเป็นตัวแรก หากใครที่กำลังคิดจะเลี้ยงสุนัข โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ก็อยากให้พิจารณาเรื่องความพร้อมก่อน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของพื้นที่ เวลา และค่าใช้จ่าย เพื่อสุขภาพที่ดีของสุนัข และลดปัญหาสุนัขจรจัดในอนาคต” ครูหนึ่งกล่าว

คงไม่ใช่ครั้งสุดท้าย หากยังไม่คิดให้ดี ก่อนจะเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ดุ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน