ตามดส.ทลายแก๊งยาบ้า ยึด1.2ล้านเม็ด-ซุกรถตู้

เครือข่ายพ่อค้าเมียนมา : คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ตามดส.ทลายแก๊งยาบ้า – เส้นทางการเดินเข้าสู่ วงการค้ายาเสพติดของแต่ละคนล้วนมีที่มาที่ไปแตกต่างกัน หลายรายเริ่มต้นด้วยการเป็นผู้เสพ ก่อนพัฒนาขึ้นเป็นเด็กเดินยา สุดท้ายก็ผันตัวเองขึ้นมาเป็นเอเยนต์ค้ายา แต่ก็มีอีกหลายรายที่ไม่ได้ติดยา แต่ก็กระโดดเข้าสู่เส้นทางนี้เพราะผลประโยชน์มหาศาล

ย้อนไปเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. นายวิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รองผบช.น. พ.ต.อ.จิร กฤต จารุนภัทร์ ผกก.ดส. พ.ต.ท.วิทวัส บูรณะ รอง ผกก.ดส. พ.ต.ท.เนติ รุ่งฟ้าแสงอรุณ สว.กก.ดส. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายสุริยา คิมนาลักษณ์ อายุ 38 ปี นายนิเวศน์ วิริยา อายุ 22 ปี น.ส.อ้อยใจ นามเสนาะ อายุ 41 ปี

พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. นำแถลง

หลังทั้งหมดตกเป็นผู้ ต้องหาคดีครอบครองยาบ้า พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมตแอมเฟตามีน (ยาบ้า) ซุกซ่อนอยู่ในถุงพลาสติกใบใหญ่ลายการ์ตูน จำนวน 4 ห่อใหญ่ ภายในมียาบ้าบรรจุอยู่ในห่อกระดาษสีเหลือง ประทับตรา 999 และแอปเปิ้ล สีน้ำเงิน รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ 1,200,000 เม็ด โดยจับกุมและตรวจยึดยาบ้าทั้งหมดได้ที่บริเวณหน้าโกดังสินค้าเลขที่ 25/29 หมู่ 14 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

ตรวจรถตู้

พ.ต.อ.จิรกฤต เปิดเผยที่มาที่ไปของคดีดังกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อ วันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส.) สามารถจับกุม นายอาทิตย์ ชื่นตา พร้อมของกลางยาไอซ์ 150 กิโลกรัม ต่อมาเมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สอบสวนขยายผล จับกุม นายกิติพงษ์ หรือ โม ขจัดภัย พร้อมของกลางยาไอซ์ 132 ก.ก. และยาเคตามีน 5 ก.ก.

จากนั้นสืบสวนขยายผลเครือข่าย ยาเสพติดดังกล่าวและเฝ้าติดตามพฤติกรรมร่วมกับเจ้าหน้าที่ป.ป.ส. ทราบว่าเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าวมาจากชายแดนทางภาคเหนือ โดยมี นายสุริยา คิมนาลักษณ์ อายุ 38 ปี นายนิเวศน์ วิริยา อายุ 22 ปี น.ส.อ้อยใจ นามเสนาะ อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้เป็นคนนำยาเสพติดดังกล่าวมาจำหน่าย

นาทีค้นรถตู้

โดยคนรับผิดชอบแต่ละ ขั้นตอนจะ ไม่มีใครทราบ แต่ทุกขั้นตอนจะมีนายมิน อ่อง ชาวพม่า เป็นผู้สั่งการ นายสายันต์ เป็นผู้ลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือ สั่งการให้ทั้ง 3 คนนำยาเสพติดไปขาย และนายเสกสรร เป็นผู้เช่าโกดังสินค้าต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งทั้ง 2 คนไหวตัวทันหลบหนีไปก่อนที่ เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจค้นจับกุม

ขณะที่นายนิเวศน์จะเป็น ผู้นำยาเสพติดไปขาย โดยให้นายสุริยาและน.ส.อ้อยใจ ออกไปนำรถของลูกค้าขับมาที่โกดัง เพื่อซุกซ่อนยาเสพติดเพื่อตัดตอนไม่ให้ลูกค้ารู้ที่ซ่อนยาเสพติด หลังซุกซ่อนยาเสร็จก็จะขับไปส่งให้ลูกค้าเอาไปจำหน่ายยาเสพติดย่านปริมณฑล และกทม.

ตรวจยึดยานรก

หลังได้ข้อมูลตำรวจจึง นำกำลังเข้าตรวจค้นที่โกดังสินค้าเลขที่ 25/29 หมู่ 14 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ก่อนสามารถตรวจยึดยาเสพติดจำนวน 1.2 ล้านเม็ด ที่ซุกซ่อนอยู่ใต้พื้นเบาะรถตู้ 2 คันที่ถูกดัดแปลงเป็นช่องใส่ยาเสพติด

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ายาบ้าดังกล่าวเป็นของตนจริง โดยทั้ง 3 คนได้รับค่าจ้างในการจัดส่งยาเสพติดให้ครั้งละ 50,000 บาท ทำมาแล้วประมาณ 3-4 ครั้ง จากการสืบสวนยังพบว่าผู้ต้องหาดังกล่าวได้ติดต่อสื่อสารกับนายมินอ่อง ในแต่ละขั้นตอนเพื่อรับคำสั่งว่าจะให้ขนส่งยาไปถึงที่ไหน ตลอดจนการจำหน่ายเสพติดจะให้ดำเนินการอย่างไร

ของกลางส่วนหนึ่ง

นายนิเวศน์สารภาพอีกว่า สาเหตุที่เดินเข้าสู่วงการยาเสพติดเพราะการพนัน โดยตนถูกนายมินอ่องชักชวนมาค้ายาเสพติดดังกล่าว หลังไปพบกันที่บ่อนพนันฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากตนเล่นพนันเสียจำนวนมากจึงตัดสินใจมาทำงานรับจ้างขนเสพติดดังกล่าว เพื่อแลกเงินเล่นการพนัน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้แจ้งข้อหาร่วมกัน มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมตแอม เฟตามีน(ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนบช.ปส. ดำเนินคดีต่อไป

สราวุฒิ ศรีเพ็ชรสัย

เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน