คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ชาญพงษ์ บุญอุทิศ

พิรยุทธ นิ่มนนท์

สมศักดิ์ ชฎารัตน์

เรื่อง/ภาพ

การกวดขันวินัยจราจรของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย บ้านเมืองเท่านั้น แต่จุดประสงค์หลัก เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้กระทำผิดเอง รวมถึงบุคคลที่สาม ซึ่งไม่รู้อีโหน่อีเหน่ด้วย

แต่ด้วยความคึกคะนองของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ที่พอสุราเข้าปากก็เหิมเกริม ปาระเบิดป่วนโรงพักกลางเมืองกรุง เพราะไม่พอใจที่เพื่อนถูกจับข้อหาเมาขับเท่านั้น

เหตุระทึกกลางนครหลวงครั้งนี้เกิดขึ้นในเวลา 00.10 น. วันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมา เมื่อจู่ๆ เกิดเสียงระเบิดดังกึกก้องขึ้นหน้าสน.ห้วยขวาง แขวงและเขตดินแดง กรุงเทพฯ

ร.ต.อ.ศรุต คำละออ รองสว.(สอบสวน) สน.ห้วยขวาง ที่ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวรอยู่ จึงรีบนำกำลังออกไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและตำรวจเกือบทั้งโรงพัก

ที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนประชาสงเคราะห์ ซอย 32 ด้านหน้าโรงพัก ยังมีกลุ่มควันคละคลุ้งทั่วบริเวณ

ไม่กี่นาทีต่อมา พ.ต.อ.อาคม จันทนลาช รอง ผบก.อก.บก.น.1 รรท.ผกก.สน.ห้วยขวาง ก็รุดมาถึงที่เกิดเหตุทันทีหลังทราบเหตุ

เมื่อเจ้าหน้าที่กระจายกำลังออกตรวจพื้นที่โดยรอบ พบเศษวัสดุพลาสติก แตกกระจาย ชิ้นส่วนมีสีม่วงและสีส้ม ลักษณะคล้ายขวดน้ำยาทำความสะอาดห้องน้ำ จึงประสานเจ้าหน้าที่พฐ. เก็บรวบรวมชิ้นส่วนต่างๆ ไว้เป็นหลักฐานเพื่อนำไปตรวจดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือคนร้ายและสารประกอบระเบิด

ด้วยความอุกอาจของผู้ก่อเหตุ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น., พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบก.สส.บช.น.จึงต้องลงมานำทีมสืบสวนด้วยตัวเอง

กระทั่งพบเบาะแสสำคัญเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด พบผู้ก่อเหตุเป็นชายวัยรุ่น 3 คน อายุประมาณ 20 ปี ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ

คนขับใส่เสื้อลายพรางทหารคาบบุหรี่ที่เพิ่งจุดสูบอยู่คาปาก ขี่ซ้อนสามมาจากถนนประชาสงเคราะห์ เข้ามาภายในซอย 32 ผ่านหน้าสน.ห้วยขวาง

จังหวะนั้นคนซ้อนท้ายโยนวัตถุลงริมถนนแล้วรีบขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ก่อนเกิดระเบิดขึ้น

เบื้องต้นสันนิษฐานว่า ผู้ก่อเหตุไม่น่าจะตั้งใจก่อเหตุประสงค์ต่อชีวิต

เนื่องจากจังหวะนั้นมีตำรวจยืนอยู่ด้านหน้าสถานี 2 นาย ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

รวมทั้งตัวระเบิดเองนั้นไม่มีสะเก็ด หรือ สารชนิดทำลายล้าง ประกอบกับคนร้ายไม่ได้อำพรางใบหน้า คาดเป็นความคึกคะนองของกลุ่มวัยรุ่น

คาดสาเหตุอาจไม่พอใจการทำงานของสน.ห้วยขวาง เพราะก่อนหน้านี้มีการจับกุมอย่างหนัก ทั้งยาเสพติดและกลุ่มเด็กแว้น อาจทำให้กลุ่มวัยรุ่นไม่พอใจ

เจ้าหน้าที่ใช้เวลาสืบสวนอยู่ 2 วัน เพราะพื้นที่ สน.ห้วยขวาง มีผู้คนมากหน้าหลายตาวนเวียนมาอาศัยเข้าออกจำนวนมาก และยังมีคนนอกพื้นที่แวะเวียนมาเป็นครั้งคราวอีกไม่น้อย

แต่คนร้ายก็ไม่อาจหนีเงื้อมมือของกฎหมายไปได้ ในที่สุดก็ทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นวัยรุ่นที่วนเวียนอยู่ในพื้นที่ จึงนำกำลังไปจับกุม นายทศพล หรือ ต้า สิงห์ลา อายุ 27 ปี คนขับรถจยย. และ นายณัฐพงษ์ หรือ โจ วงสว่าง อายุ 21 ปี คนซ้อน ที่รัชดาชิตี้คอนโดฯ ซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 7 ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ เขตห้วยขวาง

ส่วนมือปาบึ้มคือนายเอกชัย หรือแก๊ป วงศ์หาจักร อายุ 20 ปี จับกุมที่บ้านพักในพื้นที่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

พร้อมของกลาง เสื้อกางเกงในวัน ก่อเหตุ รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เอ็มเอสเอ็กซ์ 125 สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ประทัดขนาดเล็กหรือระเบิดปิงปองอีก 20 ลูก

นายแก๊ปสารภาพว่า ทำไปด้วยความคึกคะนอง เนื่องจากนายโจที่เป็นเพื่อนสนิท ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ห้วยขวาง จับกุมข้อหาเมาแล้วขับในวันสงกรานต์ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา

จนเมื่อวันที่ 23 เม.ย. ดื่มสุราจนมึนเมา เกิดความคิดแก้เผ็ดตำรวจแทนเพื่อน จึงทำระเบิดขวดโดยใช้ประทัดใส่ในขวดน้ำยาล้างห้องน้ำ แล้วไปหานายโจที่ห้อง พบว่ามีนายต้าอยู่ด้วยจึงชวนกันไปก่อเหตุ

เมื่อผ่านหน้า สน.ห้วยขวาง จึงใช้ไฟจากบุหรี่จุดชนวนระเบิดแล้วหย่อนทิ้งลงข้างถนน จนระเบิดดังกล่าว

พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า สาเหตุเกิดจากความคึกคะนองของทั้ง 3 คน ไม่มีเจตนาสร้างความเสียหายหรือประสงค์ต่อชีวิตผู้ใด แค่ทำให้เกิดเสียงดังเท่านั้น โดยวัตถุที่ใช้ในการประกอบก็หาได้ไม่ยากโดยวิธีการก็เป็นหลักการง่ายๆ

อยากฝากไปยังประชาชนว่า อย่ากระทำการดังกล่าว เนื่องจากมีโทษตามมาตรา 221 ซึ่งมีโทษจำคุกถึง 7 ปี และความผิดเกี่ยวกับพ.ร.บ.อาวุธปืน อีก 10 ปี ซึ่งเป็นโทษที่หนักไม่คุ้ม กับผลที่ตามมา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน