ย้อน2ผลงานทาสยาบ้า

จับหนุ่มคลั่งแทงฆ่าพ่อ

อีกคดีลูกชายฟันแม่ดับ

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว – เหตุที่ทำให้ยาบ้าเป็นอันตรายมากกว่า ยาเสพติดชนิดอื่นๆ มาจากส่วนผสม ที่เกิดมาจากการนำสารเคมีมาผสมกันไม่ได้มีสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติ เช่น ฝิ่น-เฮโรอีน มันจึงออกฤทธิ์ตรงเข้าสู่ระบบประสาทและสมองได้อย่างรวดเร็ว การเสพติดก็รวดเร็วเช่นกัน

ความร้ายกาจของยาบ้าอีกอย่างคือมันออกฤทธิ์ทำลายสมอง ทำให้เมื่อเสพติดเป็นเวลานาน จะทำให้ทาสยาบ้ามีอาการประสาทหลอน ควบคุมตัวเองไม่ได้ ถึงขั้นคลั่งก่อเหตุทำร้ายคนในครอบครัวเป็นข่าวมานักต่อนัก

2 คดีสยองต่อไปนี้ก็เป็นผลงานของทาสยาบ้าที่คลั่งทำร้ายบุพการีจนบาดเจ็บเสียชีวิต

ที่เกิดเหตุลูกฆ่าแม่

คดีแรกเกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 7 ก.พ. พ.ต.อ.เศรษฐณัณข์ ทิมวัฒน์ ผกก.สภ.คลองหลวง นำกำลังพร้อมด้วย พ.ต.ท.ณฐณัษฐ์ สัมภัณสิทธิ์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.สามารถ เปาจีน สว.สส. พ.ต.ต.สิรภพ บัวหลวง สว.สส. พ.ต.ต. วัชรพงษ์ เทียนประถัมภ์ กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ฝ่ายสืบสวน และ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญเข้าระงับเหตุลูกชายคลั่งยาทำร้ายพ่อกับแม่ ภายในชุมชนวัดคุณหญิงส้มจีน ม.14 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

ชุมชนวัดคุณหญิงส้มจีน

ที่เกิดเหตุภายในบ้านพบนายธำรงศักดิ์ ปาริชาตบริบูรณ์ อายุ 66 ปี ถูกแทงด้วยอาวุธมีดที่ลำตัวหลายแห่ง นอนจมกองเลือดอยู่บริเวณห้องครัว เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย ทราบชื่อ นางจริวรรณ ปาริชาตบริบูรณ์ อายุ 59 ปี เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งโรงพยาบาลการุณเวช

ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อ นายศราวุธ หรือ อ๊อด ปาริชาตบริบูรณ์ อายุ 42 ปี เป็นลูกชายของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ นั่งฟังเพลงอยู่ในห้องนอนเหมือนไม่มีเหตุอะไรเกิดขึ้น

ศพนายธำรงศักดิ์ ปาริชาตบริบูรณ์

สอบสวนนายสมศักดิ์ ภาคีขาว อายุ 63 ปี อาของผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า หลานชายติดยาและเป็นแบบนี้ประจำ ส่วนบ้านหลังนี้อยู่ด้วยกัน 3 คน มีพ่อ แม่ และลูกช่วงค่ำที่ผ่านมาหลานชายมีอาการคลุ้มคลั่ง ก่อนจะเกิดปากเสียงกับคนในครอบครัวเสียงดัง และมีการเหวี่ยงสิ่งของภายในบ้านทิ้ง จากนั้นมีเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากแม่ของผู้ก่อเหตุที่ได้รับบาดเจ็บจากการโดนทำร้ายร่างกายแขนหัก และถูกของมีคมที่แขน ญาติจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนที่เพื่อนบ้านจะช่วยเหลือนำตัวส่ง ร.พ.การุณเวช โดยผู้ก่อเหตุล็อกบ้าน ทุกทาง

หลังได้ข้อมูล เจ้าหน้าที่พยายามเจรจา แต่เจ้าตัวพูดจาไม่รู้เรื่อง เมื่อแอบดูทางบานเกล็ดเห็นว่านายศราวุธนำอาวุธมีดไปวางไว้บนโต๊ะภายในห้อง และนั่งสูบบุหรี่มีลักษณะท่าทางเคร่งเครียดกังวล จึงจัด เจ้าหน้าที่เจรจากับนายศราวุธ ใช้เวลาเจรจาประมาณ 40 นาที รู้สึกผ่อนคลายจึงขอมอบตัว และเปิดประตูออกมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ตรวจสอบภายในห้องพบอาวุธมีดวางอยู่บนโต๊ะจำนวน 2 เล่ม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยึดไว้

นายศราวุธให้การว่า ตนไม่พอใจพ่อที่ไปแจ้งตำรวจมาที่บ้าน หลังตนเปิดเพลงเสียงดัง จนเกิดปากเสียงกัน โดยพ่อคว้ามีดมาทำร้ายตนก่อน ส่วนแม่ก็เข้ามาช่วยเหลือ ตนจึงถีบแม่จนแขนหัก ก่อนที่จะใช้อาวุธมีดแทงพ่อไปสองครั้งจนแน่นิ่ง จากนั้นตนก็จะเข้าไปเปิดเพลงในห้อง

ขณะที่อีกคดีเกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 9 ก.พ. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าเรือ รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกาย มีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 339/1 ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่มูลนิธิขุนรัตนาวุธและแพทย์เวรโรงพยาบาลมะการักษ์

ชันสูตรศพ น.ส.โสภี พูลสมบัติ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว ภายในห้องนอนพบศพ น.ส.โสภี พูลสมบัติ อายุ 54 ปี อยู่ข้างเตียง สภาพศพถูกอาวุธมีดแทงเข้าที่ลำตัวและฟันที่บริเวณใบหน้าและศีรษะหลายแผล ภายในห้องมีคราบเลือดกระจัดกระจายเต็มห้อง ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายอเนก เคลือบสุวรรณ อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นลูกชาย

โดยหลังจากก่อเหตุ นายอเนก ซึ่งอยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง พยายามวิ่งออกจากตัวบ้าน เพื่อไปขึ้นรถขับหลบหนี แต่ก็ถูกชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมตัวเอาไว้ได้ในที่สุด

สอบถามเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวอาศัยอยู่ด้วยกันเพียง 2 คน โดยนายอเนกนั้นมีพฤติกรรมติดยาบ้า และมักจะก่อเหตุด่าทอ ทำร้ายร่างกายผู้เป็นแม่อยู่หลายครั้ง โดยวันเกิดเหตุ ช่วงประมาณ 22.30 นาฬิกา เพื่อนบ้านได้ยินเสียงนายอเนกด่าทอผู้เป็นแม่ และได้ยินเสียงทุบทำลายข้าวของหลายครั้ง ก่อนจะได้ยินเสียงของ น.ส.โสภีร้องขอความช่วยเหลือ คล้ายว่าถูกทำร้าย จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เมื่อตำรวจสายตรวจมาถึงพบนายอเนกอยู่ที่บริเวณหน้าบ้าน เมื่อเห็น เจ้าหน้าที่ตำรวจ นายอเนกพยายามวิ่งหลบหนีไปขึ้นรถยนต์ที่อยู่หน้าบ้าน แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้านตามจับกุมตัวเอาไว้ได้ ก่อนที่จะเข้าไปตรวจสอบภายในบ้านและพบศพของ น.ส.โสภี สันนิษฐานว่านายอเนกอาจจะเกิดอาการคลุ้มคลั่งและประสาทหลอนจากการเสพยาบ้า ทุบทำลายข้าวของและทำร้ายร่างกายผู้เป็นแม่ ก่อนใช้มีดฟันและแทง ผู้เป็นแม่จนเสียชีวิตดังกล่าว

2 คดีสลดที่ล้วนเป็นผลงานของยาบ้า ที่ยังระบาดอยู่ทั่วทุกหัวระแหง

นพรัตน์ คุ้มศรี

เกตุแก้ว จงเจริญ

เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน