อุทาหรณ์โจ๋ริเล่นกับปืน
ละเมิดกฎความปลอดภัย
จ่อหน้าเพื่อน-เปรี้ยงดับ
คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
อุทาหรณ์โจ๋ริเล่นกับปืน ละเมิดกฎความปลอดภัย จ่อหน้าเพื่อน-เปรี้ยงดับ – กฎแห่งความปลอดภัยการใช้อาวุธปืนนั้นมีอยู่หลายข้อ แต่มี 2 ข้อที่สำคัญ คือ เมื่อจับปืนทุกครั้งให้พึงระลึกเสมอว่าปืนทุกกระบอกมีกระสุนบรรจุอยู่ และอย่าเล็งปืนไปที่บุคคล สิ่งมีชีวิต หรือสิ่งของมีค่า ถ้าไม่ต้องการยิง
การปฏิบัติตามกฎแห่งความปลอดภัยอย่างเคร่งครัดเท่านั้น ที่จะช่วยให้ผู้ครอบครองอาวุธปืนไม่ต้องย้ายนิวาสถานไปอยู่ในคุกเพราะทำปืนลั่นใส่ผู้อื่น หรือโชคร้ายสุดๆ อาจไปนอนในวัดก่อนวัยอันควร หากทำปืนลั่นใส่ตัวเอง
แต่หากอาวุธปืนไปอยู่ในมือของเด็กวัยรุ่น ลองได้จับต้องไม่แคล้วต้องหยิบขึ้นมาเล็ง กลายเป็นเหตุสยองมานักต่อนัก
ย้อนไปเมื่อเวลา 04.35 น. วันที่ 12 ก.พ. พ.ต.ท.อาคม โฉมศรี สารวัตร (สืบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี นำกำลังฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่สายตรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานภูธรจังหวัดกาญจนบุรี และแพทย์เวรโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา เข้าตรวจสอบภายในห้องเช่าแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ภายหลังได้รับแจ้งเหตุร้าย มีผู้ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเสียชีวิตภายในห้องเช่า
ที่เกิดเหตุเป็นห้องเช่าชั้นเดียว ปลูกติดกันกว่า 20 ห้อง ซึ่งห้องที่เกิดเหตุประตูห้องถูกเปิดทิ้งไว้ ภายในห้องพบศพของ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ สภาพถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาด เข้าที่บริเวณโหนกแก้มซ้าย กระสุนทะลุออกด้านหลังศีรษะ 1 นัด
จากการสอบถามเจ้าของห้องที่เกิดเหตุ ทราบว่า ช่วงเกิดเหตุตนกำลังนอนหลับอยู่ในห้องนอน จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด และได้ยินเสียงน้องชายตะโกนเรียกด้วยความตกใจ จึงรีบวิ่งออกมาดู พบน้องชายตนกำลังนั่งอยู่ข้างศพของนายธาริณ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท ส่วนที่หน้าห้องเช่าเห็นวัยรุ่น 3-4 คนรีบขับจักรยานยนต์ออกไปอย่างรวดเร็ว
ด้าน นายณัฐ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี น้องชายของเจ้าของห้อง กล่าวว่า ตนและผู้เสียชีวิตกำลังนั่งเล่นเกมกันอยู่ภายในห้อง จากนั้นมีกลุ่มเพื่อนของตนขับรถจักรยานยนต์มาหาที่ห้อง โดยมี นายม่อน (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ได้ชักปืนไทยประดิษฐ์ที่พกติดตัวออกมาโชว์กลุ่มเพื่อน ก่อนจะนำมาจ่อที่หน้าของผู้ตาย จากนั้นปืนเกิดลั่น กระสุนปืนพุ่งเข้าใส่ที่หน้าของผู้ตายอย่างจัง จนร่างล้มหงายหลังลงกับพื้น
นายณัฐกล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุขณะที่ตนกำลังอยู่ในอาการตกตะลึง นายม่อนซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุพร้อมด้วยกลุ่มเพื่อนที่มาด้วยกันรีบวิ่งหนีไปขึ้นรถจักรยานยนต์และขับหนีออกไปอย่างรวดเร็ว ส่วนตนรีบตะโกนเรียกพี่สาวและโทรศัพท์แจ้ง 1669 เพื่อให้ส่งรถพยาบาลมารับตัวผู้ตาย แต่เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงพบว่าเสียชีวิตไปแล้ว
ต่อมา พ.ต.อ.ภูวดิท คงเพ็ชร ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี เดินทางมาร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุและสอบปากคำพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำทำให้ทราบตัวผู้ที่ลงมือก่อเหตุแล้ว คือ นายม่อน อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับผู้เสียชีวิต ซึ่งพยานที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า นายม่อนขับรถมาพร้อมเพื่อน 3-4 คน เมื่อเวลาประมาณ 04.20 น. พร้อมนำปืนไทยประดิษฐ์ที่พกมาโชว์เพื่อน ก่อนปืนจะเกิดลั่นเข้าใส่ที่ใบหน้าผู้ตายดังกล่าว
กระทั่งเวลา 06.45 น. นายม่อนได้เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมรับสารภาพว่า เป็นคนยิงผู้ตายจนเสียชีวิตจริง แต่เป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากปืนลั่น ไม่ได้มีเจตนาจะฆ่าผู้ตายแต่อย่างใด หลังเกิดเหตุได้นำปืนไปโยนทิ้งบริเวณสะพานสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ใกล้กับวัดเทวสังฆาราม
หลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นกับนายม่อน ก่อนนำตัวส่งสถานพินิจฯ พร้อมจัดชุดประดาน้ำลงงมค้นหาอาวุธปืนของกลาง เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีต่อไป
มีอาวุธปืนก็ต้องเรียนรู้กฎแห่งความปลอดภัย มิฉะนั้นอาจเป็นเช่นเหตุสลดข้างต้น
ยุทธศักดิ์ สุขเจริญ
ศุภมาศ จงสกุล
เกตุแก้ว จงเจริญ
เรื่อง/ภาพ