คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

วัชรากร นามสีฐาน

ทนงศักดิ์ ศุภการ

เรื่อง/ภาพ

เป็นคุณจะรู้สึกอย่างไร หากจู่ๆ มีเพื่อนมาทวงถามเรื่องเงินที่ให้ยืมไป ทั้งที่ จำได้ว่าในชีวิตยังไม่เคยยืมเงินใครเลย ถ้าเป็นสมัยก่อนก็คงงงซิครับ!! แต่สมัยนี้ ไม่ต้องคิดมาก หมายความว่าบัญชี เฟซบุ๊กของเราโดนแฮ็กเกอร์เจาะระบบเข้าให้แล้ว

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 12 พ.ค. นางศศิมาพร เชาว์มานะเดช อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82 หมู่บ้านเกาะแก้ว หมู่ 11 ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พา ด.ญ.ชญาดา เชาว์มานะเดช หรือ น้องตั้งใจ อายุ 11 ขวบ ลูกสาวนักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนรุ่งอรุณวิทยา ปากช่อง เด็กอัจฉริยะพูดได้ 10 ภาษา ทั้งยังเป็น ผู้สื่อข่าวและพิธีกรเยาวชน รายการสุขสโมสร ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 แฟมิลี่

เข้าพบ พ.ต.ท.ชูสิทธิ์ หล่อแสง รอง ผกก.สส. สภ.ปากช่อง เพื่อแจ้งความให้ช่วยติดตามตัวคนร้าย ที่ก่อเหตุแฮ็กข้อมูลจากเฟซบุ๊กของน้องตั้งใจ แล้วนำไปหลอกลวงกลุ่มเพื่อนทางเฟซบุ๊ก ว่ากำลังเดือดร้อนต้องการใช้เงิน ขอยืมเงินจำนวนเงินตั้งแต่ 500-2,000 บาท เป็นจำนวนหลายราย

นางศศิมาพรนำภาพจากหน้าจอมือถือที่เพื่อนๆ ในกลุ่ม เฟซบุ๊กที่ถูกขอยืมเงินส่งมาให้ดู รวมถึงหมายเลขบัญชีทางธนาคารที่คนร้ายใช้ในการให้โอนเงินให้ มาให้เจ้าหน้าที่ไว้เป็นหลักฐานติดตามตัวคนร้าย

นางศศิมาพรระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ครอบครัวและลูกสาวเสื่อมเสียชื่อเสียง ตนสมัครเฟซบุ๊กไว้ให้น้องตั้งใจ เอาไว้ใช้ทำงานข่าว และงานด้านการกุศลต่างๆ โดยใช้ชื่อ “ชญาดา เชาว์มานะเดช น้องตั้งใจ” แต่เมื่อต้นเดือนพ.ค.ที่ ผ่านมา เคยโดนแฮ็กเฟซไปแล้วครั้งหนึ่ง ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 พ.ค. เฟซบุ๊กของน้องตั้งใจ จู่ๆ ก็ใช้ไม่ได้โดยไม่ทราบสาเหตุ

จากนั้นไม่นานก็มีเพื่อนในกลุ่มเฟซโทร.มาสอบถามเรื่องที่ขอยืมเงิน บางคนแคปภาพหน้าจอส่งมาให้ดูทางไลน์ พร้อมสอบถามถึงเรื่องดังกล่าว ซึ่งตนก็ตอบกลับไปว่าที่มีเฟซไปขอยืมเงินนั้นไม่เป็นความจริง เพราะน้องตั้งใจ ก็มีเงินของตัวเองที่ได้มาจากการจัดรายการ และรายได้จากอื่นๆ ฝากในบัญชีของธนาคารไม่เดือดร้อนขนาดนั้น และพยายามแจ้งเตือนไม่ให้หลงเชื่อไปตามสื่อต่างๆ แล้ว วันนี้จึงพาน้องตั้งใจมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้

พ.ต.ท.ชูสิทธิ์เผยว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา นางธัญดา ประจวง หรือดาว กล้วยน้ำว้า นักธุรกิจที่มีชื่อเสียงในสังคมคณะกรรมการองค์กรต่างๆ มากมาย ก็เพิ่งเข้ามาแจ้งความว่ามีผู้ถูกแฮ็กข้อมูลจากเฟซ แล้วนำไปหลอกลวงผู้อื่นเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ ยืมเงิน ขอรับบริจาค รายละ 2,000 บาท ถือว่าการหากินลักษณะนี้ถือเป็นภัยต่อสังคม ผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และมอบหมายให้ตำรวจชุดสืบสวนออกหาข่าวติดตามคนกลุ่มนี้มาดำเนินคดีให้ได้

นอกจาก 2 รายข้างต้นแล้ว เหยื่อของแฮ็กเกอร์โจรไร้จรรยาบรรณพวกนี้ยังมีอีกมากมาย ไม่เว้นแม้ข้าราชการระดับผู้ว่าราชการจังหวัดก็โดนกันมาแล้ว โดยเมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ จวนผู้ว่าราชการ จ.ชุมพร นายณรงค์ พลละเอียดผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่าตัวเองเพิ่งจะตกเป็นเหยื่อของแฮ็กเกอร์มาสดๆ ร้อนๆ

นายณรงค์เผยเรื่องราวว่า ตั้งแต่เมื่อวานตลอดจนถึงเวลานี้ มีเพื่อนๆ หลายคนในเฟซบุ๊ก โทรศัพท์มา สอบถามเรื่องเงินที่ตนจะขอยืม ว่าเป็นจริงหรือไม่ ทำเอาตนเองรู้สึกงงกับคำถาม หลังจากได้พูดคุยรายละเอียดจึงทราบว่า มีผู้ปลอมเฟซบุ๊กของตนและ อินบล็อกเข้าไปทักในข้อ ความส่วนตัวในรายชื่อเพื่อนๆ และพยายามคุยให้เชื่ออย่างสนิทใจว่าเป็นตนเอง ก่อนจะเปิดประเด็นขอยืมเงิน

มีหลายคนได้แจ้งมาว่าได้ถูกบุคคลดังกล่าวยืมเงิน จำนวนรายละ 4-5 หมื่นบาท หลายสิบรายโดยให้โอนผ่านบัญชีของธนาคารกรุงไทย แต่โชคดีที่เพื่อนๆ โทร.มาถามตนเสียก่อนจึงรู้ความจริงไม่ถูกหลอก

นายณรงค์กล่าวต่อว่า ขณะนี้ตนเองได้โพสต์แจ้งเตือนเพื่อนๆ ในกลุ่มเฟซบุ๊ก ว่าเฟซบุ๊กได้ถูกแก๊งสิบแปดมงกุฎปลอมโดยจะใช้ภาพของนายณรงค์ ที่เป็นภาพเดียวกันกับ เฟซบุ๊กจริงของตน จึงขอให้พี่น้องประชาชน อย่าได้หลงเชื่ออย่างเด็ดขาด ตนเองจะไม่ยืมเงินใครอย่างเด็ดขาด เพราะไม่มีความเดือดร้อน ถึงขั้นต้องยืมเงิน อย่าหลงเชื่อและโอนเงินโดย เด็ดขาด พร้อมกันนี้ได้แจ้งความไว้โดยให้ทางพนักงานสอบสวน สืบสวนจังหวัดชุมพร ให้ดำเนินการสืบหาตัวบุคคลดังกล่าวมาดำเนินคดีแล้วด้วย

“ผมขอฝากเตือนประชาชนทั่วไป ให้เปลี่ยนรหัสผ่านเฟซบุ๊ก บ่อยๆ และอย่าหลงเชื่อ แล้วให้สังเกตพวกนี้จะปลอมเฟซบุ๊กคนอื่นก็มีเรื่องเดียวคือยืมเงิน จึงช่วยเป็นหูเป็นตาให้กันและกัน เพื่อจับกุมบุคคลพวกนี้ออกไปจากสังคม” นายณรงค์กล่าว

มีความรู้ความสามารถแต่นำไปใช้ในทางที่ผิด ก็เดือดร้อนตำรวจอีกตามเคย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน