คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

วันชัย พูลเพิ่มพันธ์

ยุวนิต สังวาลพานิช

เรื่อง/ภาพ

การคลี่คลายคดีฆาตกรรม กล้องวงจรปิดเข้ามามีส่วนสำคัญ ไม่จำเป็นว่าจะต้องบันทึกภาพเหตุ การณ์ขณะเกิดเหตุไว้ได้ แต่ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถปะติด ปะต่อเรื่องราว ลำดับเหตุการณ์ จนนำมาสู่การจับกุมคนร้ายได้

ล่าสุดก็คดีฆ่าผู้ใหญ่ยุทธ นายคำรณ พ้นภัย อายุ 57 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 ต.บางแขม อ.เมือง จ.นครปฐม

ย้อนไปเมื่อเวลา 16.40 น. วันที่ 23 พ.ค. ร.ต.อ.ธนาคม จันทร์ชาวนา รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครปฐม รับแจ้งเหตุยิงกันมี ผู้เสียชีวิต บริเวณริมถนนเพชรเกษม ม.2 ต.หนองดินแดง จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.อนุพันธ์ จันทร์พฤกษ์ รองผบก. พ.ต.อ.ไชยา สุนทรกิจ รองผบก.สส.บช.ภาค 7 พ.ต.อ.ไพฑูรย์ พิทักษ์ธรรม ผกก.เมืองนครปฐม พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ กล้วยไม้ รองผกก. (สอบสวน) ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่พฐ. แพทย์ร.พ.นครปฐม เจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์โตโยต้า คัมรี่ สีเทา ทะเบียน กบ 6050 ชลบุรี จอดอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่หันหน้าเข้าเมืองนครปฐม บริเวณกระจกประตูด้านคนขับพบรอยกระสุนปืน 1 นัด บริเวณที่นั่งคนขับพบศพ นายคำรณ หรือผู้ใหญ่ยุทธ พ้นภัย อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/5 ม.8 ต.บางแขม อ.เมือง จ.นครปฐม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.บางแขม

สภาพศพสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวลายสกอต สีฟ้า นุ่งกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ นอนคว่ำฟุบหน้าอยู่ที่เบาะซ้ายด้านข้างคนขับ ที่เอวข้างขวามีอาวุธปืนขนาด 11 ม.ม. เหน็บอยู่ ตรวจพบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. ที่ลำตัวข้างขวา 1 นัด ลิ้นปี่ 2 นัด และใต้ ราวนมขวา 2 นัด รวม 5 นัด มือขวากำสร้อยพระที่สวมใส่ไว้แน่น ในรถพบปลอกกระสุนปืน 9 ม.ม. ตกอยู่ 1 ปลอก คาดเป็นของคนร้าย

สอบสวนพยานที่ผ่านมาเห็นเหตุการณ์ทราบว่า ขณะขี่รถจักรยานยนต์ผ่านจุดที่เกิดเหตุ เห็นผู้ตายจอดรถเปิดกระจกคุยกับชายคนหนึ่ง โดยมีรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน จอดประกบอยู่ เมื่อพยานขี่รถจักรยานยนต์เลยมาไม่ไกลได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด จากนั้นรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ขับเร่งเครื่องแซงรถจักรยานยนต์ของพยานหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

ด้านญาติผู้ตายให้การว่า ก่อนเสียชีวิต ผู้ตายขับรถไปหาหลานไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุ เพื่อชวนไปเป็นเพื่อนนั่งรถไปทำธุระที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในวันที่ 24 พ.ค. เมื่อขับรถออกจากบ้านหลานมาถึงจุดที่เกิดเหตุจึงถูกดักยิง

พล.ต.ต.อิทธิพลเผยว่า เท่าที่ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุในเบื้องต้นแล้ว คาดว่าผู้ตายและคนร้ายอาจรู้จักกัน เพราะลักษณะเป็นการจอดรถคุยกัน แต่ไม่สามารถตกลงอะไรบางอย่างได้ จึงใช้อาวุธปืนจ่อยิงระยะประชิด โดย เบื้องต้นเรื่องหนี้สินการพนันอาจเป็นสาเหตุในการสังหาร หรืออาจมีเรื่องลึกกว่านี้ ขณะนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนสืบหาข่าวในพื้นที่ว่าผู้ตายมีเรื่องขัดแย้งกับใครหรือไม่ พร้อมตรวจสอบเส้นทางหลบหนีของคนร้ายเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี

ชุดสืบสวนไล่ตรวจสอบหาปมสังหาร โดยไม่ตัดประเด็นอะไรทิ้งทั้งเรื่องธุรกิจน้ำดื่ม เรื่องนิสัยชอบเล่นได้เสีย เรื่องชู้สาว หรือแม้แต่เรื่องความขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น เนื่องจากผู้ตายใกล้จะเกษียณในตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน และมีแผนที่จะลาออกให้ลูกสาวขึ้นสืบทอดตำแหน่งแทน รวมทั้งเร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามถนนใกล้กับจุดเกิดเหตุ และตามเส้นทาง

คดีนี้ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ถึงกับลงมาควบคุมการติดตามสืบสวนด้วยตนเอง เพียงวันเดียวก็ได้ภาพวงจรปิดรถคนร้ายซึ่งที่จริงแล้วไม่ใช่โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ แต่เป็นรถมิตซูบิชิ รุ่น ปาเจโร่สปอร์ต สีดำ ป้ายแดง

พอได้ข้อมูลเด็ดว่ารถคนร้ายเป็นปาเจโร่สปอร์ต ป้ายแดง จากคดีที่คิดว่าจะยากก็ง่ายดายเสียอย่างนั้น เพราะเมื่อไล่ตรวจภาพวงจรปิดตามไป ก็เห็นรถดังกล่าวขับไปจอดที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.บางแขม นั่นเอง ประกอบกับการสืบสวนในทางลับ ได้ข้อมูลตรงกันว่า เจ้าของรถมีปัญหาทะเลาะรุนแรงกับผู้ตาย ขนาดเคยกล่าวอาฆาตกันเอาไว้

เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 จ.นครปฐม พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต. สมเกียรติ แสงสินศร รอง ผบช.ภาค 7 ก็ร่วมกันแถลงผลจับกุม นายกฤษดา ศรีเปรม อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/1 หมู่ 1 ต.บางแขม อ.เมือง จ.นครปฐม มีอาชีพเลี้ยงวัว ปล่อยเงินกู้ และเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บางแขม พร้อมของกลางรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่สปอร์ต สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ณ 1490 กทม. เป็นยานพาหนะที่ใช้ก่อเหตุฆ่าผู้ใหญ่ยุทธ

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เปิดเผยว่า นายกฤษดาให้การรับสารภาพว่าเคยเป็นลูกน้องของผู้ตายมาก่อน แต่ภายหลังมีเรื่องผิดใจกัน โดยก่อนเกิดเหตุขับรถออกจากบ้านไปรับลูกชาย 2 คน ที่โรงเรียนขณะนั้นเจอรถผู้ตายจอดอยู่ริมถนน

จึงจอดประกบข้างแล้วเดินลงไปพูดคุย แต่คุยกันไม่รู้เรื่อง เจ้าตัวอ้างว่าเห็นนายคำรณกำลังเอี้ยวตัวคิดว่าจะชักปืนออกมาจะยิง จึงชักปืนยิงใส่ 5 นัดซ้อน แล้วขับรถพาลูกกลับบ้าน เก็บเสื้อผ้าขับรถออกจากบ้าน ส่วนอาวุธปืนโยนทิ้งระหว่างทาง จนกระทั่งถูกจับกุม

อีกคดีที่วงจรปิดช่วยคลี่คลายได้อย่างรวดเร็ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน