ปิดคดีโจรมือใหม่หัดปล้น

ควงปืนบุกเดี่ยวจี้ร้านทอง

ตกใจเสียงเตือนถึงฉี่ราด

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ปิดคดีโจรมือใหม่หัดปล้นควงปืนบุกเดี่ยวจี้ร้านทอง : สภาพเศรษฐกิจทุกวันนี้มีแต่ทรงกับทรุด ยิ่งเจอวิกฤตโรคโควิด-19 ถล่มโลกซ้ำเติมเข้าไปอีก หลายคนอับจนหนทางสุดท้ายยอมกลายเป็นโจรมือใหม่ เดือดร้อนเจ้าหน้าที่ต้องไล่จับกันไม่หวาดไม่ไหว

เช่นคดีที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 มี.ค. ร.ต.อ.วิชิต รัตนธรรมโม รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายพยายามจี้ชิงทรัพย์ร้านทองเยาวราช สาขาตรัง หมู่ 2 ถนนตรัง-ปะเหลียน ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองตรัง และฝ่ายสืบสวน ภ.จว.ตรัง

ปิดคดีโจรมือใหม่หัดปล้นควงปืนบุกเดี่ยวจี้ร้านทอง

ที่เกิดเหตุตั้งอยู่ตรงข้ามห้างเทสโก้โลตัส สาขาตรัง พบพนักงานอยู่ในอาการตื่นตกใจ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายเป็นชาย 1 ราย ขี่รถจยย.ฮอนด้าคลิก สีแดงดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเป็นยานพาหนะ มาจอดก่อนเดินเข้ามาในร้าน








Advertisement

คนร้ายอายุประมาณ 20-25 ปี รูปร่างสูงสมส่วน สวมเสื้อแจ๊กเกตสีดำ กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ สวมหมวกกันน็อก และสวมแมสก์ปิดบังใบหน้า ก่อนเดินเข้ามาในร้าน จากนั้นได้ชักปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์แบบหักลำออกมาขู่พนักงาน ทำให้พนักงานตกใจวิ่งเข้าไปด้านหลังร้าน และกดสัญญาณเตือนภัยที่เป็นเสียงหวอ ซึ่งเป็นสัญญาณที่เชื่อมต่อระหว่างร้านกับโรงพัก จนเสียงดังสนั่น ทำให้คนร้ายตกใจจนฉี่ราดกางเกง ก่อนรีบวิ่งออกจากร้านและลื่นล้มลง ก่อนจะขี่รถจยย.หลบหนีไปโดยไม่ทันได้ทรัพย์สิน

ปิดคดีโจรมือใหม่หัดปล้นควงปืนบุกเดี่ยวจี้ร้านทอง

จากการสอบถามพนักงานร้านทองที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ตอนเกิดเหตุคนร้ายก็เข้าร้านปกติ แต่ที่ผิดสังเกตคือใส่หมวก ใส่ แมสก์มา ตอนแรกก็ไม่คิดอะไรเพราะเขามีการเปิดแมสก์มาช่วงหนึ่ง ทำให้เรารู้สึกว่าน่าจะไม่ใช่คนร้าย จนคนร้ายชักปืนขู่แล้วพูดว่า “ให้หยิบของออกมา” แต่จู่ๆ คนร้ายก็ตกใจเสียงสัญญาณเตือนที่พนักงานร้านติดกันกดเตือน และตนได้ไปกดอีกรอบหนึ่ง เมื่อคนร้ายได้ยินเสียงหวอก็ได้วิ่งหนีลื่นล้ม ออกไป

ขณะที่พนักงานร้านไอคอนไอทีซึ่งอยู่ติดกัน เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุก็เห็นแต่ไม่แน่ใจว่าเป็นโจรหรือลูกค้า ไม่กล้าโวยวาย แต่เมื่อเห็นเอาปืนออกมาก็ตกใจ พนักงานฝั่งร้านทองก็กรีดร้องพอดี ตนจึงรีบวิ่งไปกดเสียงเตือน ส่วนทางร้านทองก็กดเพื่อแจ้งไปยังโรงพัก คนร้ายตกใจเสียงเตือนวิ่งออกไป ตนคิดว่าโจรรายนี้เป็นโจรสมัครเล่น เหตุการณ์นี้ตนก็รู้สึกตกใจเพราะที่ผ่านก็เคยเห็นข่าวแบบนี้มา เบื้องต้นตำรวจได้เร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ไล่เช็กภาพจากกล้องวงจรปิด จนได้ข้อมูลจนสามารถระบุได้ว่าคือคนร้ายนายนฤนาท (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดตรัง ออกหมายจับ ที่ 99/2563 ลงวันที่ 11 มี.ค.2563 ในข้อหาว่า “พยายามชิงทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืน, โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”

กระทั่งวันที่ 12 มี.ค. พ.ต.อ.สานิตย์ พลเพชร ผกก.สภ.เมืองตรัง พร้อมด้วย พ.ต.ท.อพิเชฐ จิตอักษร หน.ชปส.ภ.จว.ตรัง, ร.ต.อ.ศิวกรณ์ แป้นไทย รอง หน.ชปส.ภ.จว.ตรัง ชุดสืบสวน สภ.เมืองตรัง บก.รน. (ตำรวจน้ำตรัง) และ กอ.รมน.จว.ตรัง ร่วมกันรับมอบตัวนายนฤนาท ผู้ต้องหา

ปิดคดีโจรมือใหม่หัดปล้นควงปืนบุกเดี่ยวจี้ร้านทอง

จากการสอบสวน นายนฤนาทให้การรับสาภาพว่า ตนประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป ขณะที่แฟนสาวทำงานรับจ้างอยู่ภายในร้านน้ำชา-กาแฟ ก่อนหน้าประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจ เงินไม่เพียงพอใช้จ่าย จึงเกิดเรื่องทะเลาะกับแฟนสาว มีปากเสียงกันบ่อยครั้ง จนเกิดปัญหาครอบครัว

นายนฤนาทให้การต่อว่า ประกอบกับสงสารแฟนสาว คิดว่าไม่อยากให้ลำบาก ด้วยความโมโหและอยากประชด เนื่องจากหาทางออกไม่ได้ สุดท้ายตนจึงตัดสินใจด้วยอารมณ์ชั่ววูบ นำอาวุธปืนผิดกฎหมายไปลงมือก่อเหตุ

แต่ด้วยความตกใจเสียงสัญญาณเตือนภัย และหวาดกลัว จึงตัดสินใจหลบหนีออกมาจากร้านทอง ก่อนนำรถไปทิ้งไว้ พอรู้ตัวว่าถูกออกหมายจับก็เลยตัดสินใจเข้ามอบตัว

อย่างไรก็ตาม ตลอดการสอบสวนผู้ต้องหาอยู่ในอาการร่ำไห้ตลอดเวลา และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ข้อหาชิงทรัพย์มีโทษ จำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 10 ปี และปรับหนึ่งหมื่นถึงสองหมื่นบาท

ภายหลังสอบสวน ตำรวจคุมตัวนายนฤนาทไปทำแผนประกอบ คำรับสารภาพในช่วงเย็นวันเดียวกัน ก่อนนำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

หมดอนาคตไปอีกราย แม้จะไม่ใช่ทั้งหมด แต่ส่วนหนึ่งก็เป็น ผลพวงจากพิษเศรษฐกิจ และคงไม่ใช่โจรมือใหม่รายสุดท้ายเป็นแน่

พีระพล จันฝาก

เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน