ปิดคดีโจรจี้แบงก์ระยอง สวมงอบควงปืนบุกเดี่ยว โอตี๋สารภาพใช้หนี้พนัน : สดจากสนามข่าว

ปิดคดีโจรจี้แบงก์ระยอง สวมงอบควงปืนบุกเดี่ยว โอตี๋สารภาพใช้หนี้พนัน : สดจากสนามข่าว – “ตอนที่ก่อเหตุในใจผมคิดอยู่อย่างเดียวว่าถ้าใครขวางผมยิงแน่” คำให้การชวนตกใจจากปากของคนร้ายจี้ชิงทรัพย์ในธนาคารธนชาต สาขาระยอง โชคดีที่เหตุการณ์ในวันนั้นไม่มีผู้บาดเจ็บหรือ เสียชีวิต

ย้อนไปเมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 11 มี.ค. ร.ต.ท.ธนวัตร จันทเสน ร้อยเวร สภ.เมืองระยอง ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกปล้นธนาคารธนชาต สาขาระยอง ริม ถ.สุขุมวิท ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง จึงไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ฐาปนะ คลอสุวรรณ ผกก.สภ.เมืองระยอง พ.ต.ท.โกศล เกิดมณี รอง ผกก.สส. กำลังตำรวจสายสืบ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุซึ่งพบว่ามีคนมามุงกันเต็มหน้าธนาคาร จึงเข้าไปตรวจสอบ พบพนักงานทั้งชายหญิงยังอยู่ในอาการตื่นตระหนก สอบสวนเบื้องต้นได้ข้อมูลว่า คนร้ายสวมงอบแบบชาวนา ใส่แว่นดำ ใส่เสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงวอร์มขายาวสีเขียวคาดขาว และใส่รองเท้าผ้าใบสีเทา รูปร่างท้วม สูงประมาณ 170 ซ.ม.

พฤติกรรมคนร้ายทำทีเป็นลูกค้า ก่อนชักปืนปรี่เข้าไปที่เคาน์เตอร์ พนักงานรีบวิ่งหลบ ก่อนที่คนร้ายจะกระโดดข้ามเคาน์เตอร์ เปิดลิ้นชักแล้วเอาเงินจากลิ้นชัก วิ่งหนีออกประตูหน้าไปขึ้นรถยนต์เก๋งสีบรอนซ์ ขับหนีไปตามเส้นทางสุขุมวิทมุ่งหน้าเข้าไปทางร.พ. ระยอง ส่วนจำนวนเงินที่ได้ไปประมาณ 90,000 บาท

กลายเป็นธรรมเนียมไปเสียแล้ว ที่เมื่อเกิดเหตุอุกฉกรรจ์ขึ้นกับร้านทองหรือธนาคารในพื้นที่ ผกก.โรงพักจะต้องถูกตั้งกรรมการสอบสวนว่าปล่อยปละละเลยในการป้องกันเหตุหรือไม่ พล.ต.ต.ฉลอง สุขจันทร์ ผบก.ภ.จว.ระยอง จึงออกคำสั่งให้ พ.ต.อ. ฐาปนะ คลอสุวรรณ ผกก.สภ.เมืองระยอง ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง

พ.ต.อ.วรวุฒิ ชัยเจริญ รอง ผบก.ภ.จว.ระยอง ถูกแต่งตั้งให้มารักษาการ ผกก.สภ.เมืองระยอง และรับหน้าที่นำการสืบสวนติดตามคนร้าย จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบเร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด โดยเฉพาะข้อมูลยานพาหนะที่คนร้ายใช้ และเส้นทางการหลบหนี จนได้ข้อมูลคนร้าย

กระทั่งเมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 19 มี.ค. พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ฉลอง สุขจันทร์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายโชคอนันต์ โอศิริ อายุ 38 ปี หรือฉายา โอตี๋ พนักงานขับรถเช่าบริษัทแห่งหนึ่งใน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง มาแถลงข่าวที่บริเวณหน้า สภ.เมืองระยอง พร้อมรถเก๋งโตโยต้า อัลติส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กอ-7820 ระยอง อาวุธปืนขนาด .38 กระสุนปืนจำนวน 10 นัด รวมถึงรถยนต์กระบะสี่ประตูสีขาว ยี่ห้อเชฟโรเลต ทะเบียน กต-6598 ระยอง ซึ่งเป็นรถของคนร้ายที่กำลังขับกลับบ้านเกิดที่ จ.พิษณุโลก แต่มาถูกจับกุมตัวก่อน

นายโชคอนันต์ให้การว่า ที่ลงมือก่อเหตุเพราะเป็นหนี้นอกระบบ จำเป็นต้องทำโดยไม่มีการวางแผน ที่เลือกธนาคารธนชาตเพราะไม่มี รปภ. โดยนั่งรอในรถเก๋งซึ่งเป็นรถของบริษัท กระทั่งตำรวจออกจากธนาคารจึงลงมือก่อเหตุ ตอนนั้นคิดว่าถ้ามีใครขวางก็ต้องยิง โชคดีที่ไม่มีใครเข้ามาจึงรีบวิ่งขึ้นรถ สาเหตุที่ขึ้นประตูหลังเพื่อหลอกให้เข้าใจผิดว่ามามากกว่าหนึ่งคน ขณะก่อเหตุคิดอย่างเดียวว่าไม่มีอะไรจะเสีย ใครขวางยิงแน่

หลังจากนั้นก็ขับรถออกไป โดยขับไปทาง อ.บ้านค่าย จ.ระยอง วนรถอยู่ในละแวกดังกล่าวอยู่หลายรอบ ก่อนจะขับกลับมาแล้วมุ่งหน้าไปที่ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เพื่อนำรถที่ก่อเหตุไปคืนที่บริษัท แล้วก็ขับรถกระบะส่วนตัวกลับมาที่บ้านพัก พร้อมทั้งนำเงินที่ปล้นมาได้มาใส่ตู้รับฝากเงินของธนาคารแห่งหนึ่งเพื่อเข้าบัญชีตัวเอง ก่อนจะมีการโอนเงินข้ามไปอีกบัญชีซึ่งก็เป็นบัญชีของตนเอง หลังจากนั้นก็กดเงินออกมานำเงินไปใช้หนี้สิน และใช้จ่ายจนหมดเกลี้ยง จนกระทั่งมาถูกจับกุมตัว

หลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าวตำรวจคุมนายโชคอนันต์ไปทำแผนฯ ที่ธนาคาร ก่อนจะควบคุมตัวไปดำเนินคดีในข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน โดยอำพรางตัวเพื่อไม่ให้จำหน้าได้ ใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ยิงปืนโดยไม่มีเหตุอันควร

พฤติการณ์การก่อเหตุของคนร้ายเป็นสิ่งที่ ตร.ต้องนำมาถอดบทเรียนว่าเจ้าหน้าที่มีช่องโหว่ตรงไหน เพื่อเป็นแนวทางวางแผนป้องกันเหตุกันต่อไป