แฟ้มคดี

ถือเป็นคดีสะเทือนขวัญ ที่สร้างความหวาดผวาให้กับประชาชนเป็นอย่างยิ่ง

สำหรับเหตุคนร้ายลงมือฆ่าโหด 2 หนุ่มสาว ที่มีอาชีพเก็บของเก่าย่าน อ.ธัญบุรี ด้วยการเชือดคอและใช้สายไฟมัดมือไพล่หลังเหยื่อ

และยังไม่ทันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะคลี่คลายคดี

ก็กลับมาเจอศพที่ 3 ที่ถูกฆ่าปาดคอมัดมือไพล่หลังเหมือนกัน

ส่อให้เห็นว่าเป็นฝีมือฆาตกรคนเดียวกัน ที่ลงมือต่อเนื่อง

ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเร่งตามล่าคนร้ายรายนี้ให้ได้ก่อนที่จะลงมืออีกครั้ง

ผวาฆาตกรต่อเนื่อง 3 ศพ

เหตุระทึกขวัญครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเช้าตรู่วันที่ 4 ต.ค. เมื่อ ร.ต.อ.ธีรเดช สังสีแก้ว ร้อยเวรสอบสวนสภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ รับแจ้งเหตุมีผู้พบศพชายหญิงรวม 2 ศพ โดยศพผู้ชายถูกทิ้งระหว่างช่องทางด่วนและทางคู่ขนานถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า ส่วนศพผู้หญิงถูกทิ้งอยู่ในคลองหน้าสถาบันธัญญารักษ์ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี

จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย ทราบชื่อภายหลังว่า นายศุภร หรือเอ็ม โคกกราน อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78/1 หมู่ 1 ต.บางคลาน อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี อาชีพเก็บของเก่า

สภาพศพถูกมัดมือไพล่หลังทั้งสองข้าง มัดด้วยสายไฟ สวมกางเกงสีน้ำเงิน ไม่สวมเสื้อ ตามร่างกายพบบาดแผลที่ศีรษะ ถูกตีด้วยของแข็งเป็นแผลยาวประมาณ 10 เซนติเมตร ลำคอถูกแทงด้วยของมีคมยาวประมาณ 10 เซนติเมตร ที่กำแพงทางด่วนพบเลือดกระเด็น ตามลำตัวยังพบรอยถูกลากกับพื้น

ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร ในร่องคลองพบศพผู้หญิงอีก 1 ราย ทราบชื่อภายหลังว่า น.ส.สุภาพรรณ หรือ หรอ คงอยู่ดี อายุ 38 ปี พักอาศัยอยู่ที่ริมคลองหนึ่ง หลังสถาบันธัญญารักษ์ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นอนคว่ำหน้าอยู่ในน้ำ สภาพศพสวมเสื้อแขนสั้นสีม่วง นุ่งกางเกงสีน้ำเงิน

เจ้าหน้าที่นำศพขึ้นมาตรวจสอบพบตามร่างกายมีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคม ที่หน้าท้อง 1 แผล กลางหน้าอก 1 แผล ราวนมซ้าย 1 แผล มือทั้ง 2 ข้างถูกมัดด้วยผ้าจนแน่น ตาทั้งสองข้างถูกมัดปิดไว้

สอบถามนายสมยศ มีบ่อทรัพย์ อายุ 61 ปี ที่มีอาชีพเก็บของเก่าขาย และอาศัยอยู่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ เผยว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 3 ต.ค. ตนและผู้ตายนั่งดื่มสุราอยู่ด้วยกัน จากนั้นก็แยกย้ายกันกลับ จากนั้นหลานก็วิ่งมาบอกว่าเอ็มถูกตี จึงออกตามหาแต่ไม่เจอ

จนกระทั่งถึงเช้ามาตามหาอีกครั้ง ก็พบว่าถูกฆ่าตายและนำศพมาทิ้งไว้ จึงวาน จยย.วินให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ

ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดก็พบภาพชายต้องสงสัย ขี่จักรยานเข้ามาร่วมวงสุรา ก่อนมีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน เบื้องต้นคือนายบัง ที่เป็นคนเก็บของเก่าเช่นกัน

โดยสาเหตุที่ลงมือโหดครั้งนี้น่าจะเกิดจากเมาสุรา จนเกิดความขัดแย้งส่วนตัว หรือเป็นเรื่องทะเลาะกันจากปัญหายาเสพติด

พร้อมขออนุมัติหมายจับชายในวงจรปิดจากศาลจังหวัดธัญบุรี

ล่าตัวฆาตกรโหดมาให้ได้

เฉลิมเกียรติลุยจี้คดี
3
แต่ก่อนจับตัวคนร้ายได้ก็เกิดเหตุสยองซ้ำอีก ผ่านไปเพียงวันเดียว ในช่วงเช้าวันที่ 6 ต.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ก็รับแจ้งเหตุพบศพชายถูกฆ่าตายทิ้งไว้ที่ใต้สะพานยกระดับรังสิต มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ใกล้สถาบันธัญญารักษ์ ม.1 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี

บริเวณใกล้เคียงกับที่พบศพชายหญิงก่อนหน้านี้

เมื่อตรวจสอบพบเป็นศพของนายเสถียร ศรชัย อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70/1 ม.7 ต.พราหมณี อ.เมือง จ.นครนายก อาชีพเก็บของเก่าขายเช่นกัน

สภาพศพนอนคว่ำหน้าคุดคู้ตะแคงขวา ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ ถูกมัดมือไพล่หลัง และมัดเท้าด้วยสายไฟสีดำ สภาพศพพบบาดแผลถูกของมีคมเข้าที่คอ เป็นแผลฉกรรจ์เกือบขาด และยังมีบาดแผลถูกแทงเข้าที่ท้องและก้นกบซ้ายแห่งละ 1 แผล

ใกล้กันพบข้าวของเครื่องมือเครื่องใช้และเศษของเก่ากองอยู่กระจัดกระจาย แพทย์สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมง

โดยพยานที่พบศพแจ้งว่า ช่วงเช้าตรู่มาหาปลาบริเวณริมคลองที่เกิดเหตุ สังเกตว่ามีคนนอนอยู่ จึงเดินเข้าไปดู ก็พบคนถูกฆ่าปาดคอ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ

ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วเจ้าหน้าที่ค่อนข้างมั่นใจว่าคนร้ายเป็นคนเดียวกับที่ลงมือฆ่าไป 2 ศพก่อนหน้านี้

ฝีมือฆาตกรต่อเนื่องนั่นเอง!??

เมื่อเรื่องลุกลามบานปลาย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ก็ลงมาคุมคดีด้วยตัวเอง โดยเดินทางตรวจสอบสำนวนและจี้คดีที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์

พร้อมเปิดเผยว่า ทั้ง 3 ศพเชื่อว่าเป็นฝีมือคนร้ายคนเดียวกัน ที่ลงมือก่อเหตุขณะนั่งดื่มสุราด้วยกัน โดยอาจเกี่ยวข้องกับยาเสพติดด้วย และผู้ตายคนสุดท้ายเป็นสามีของพยานในคดีแรก

“คดีนี้ถือเป็นคดีที่มีความโหดร้ายทารุณ และกระทบกระเทือนต่อจิตใจของผู้คนในสังคมเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องรีบดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน ติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนหากทราบเบาะแสหรือพบเห็นคนร้ายให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ หรือแจ้งที่ 191” พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติระบุ

หิ้วหนุ่มต้องสงสัยเค้นสอบ

1
ทั้งนี้ จากการสอบพยานที่เป็นสาวประเภท 2 ให้การว่า เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 5 ต.ค.ขณะทำงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง มีผู้ชายสวมเสื้อแขนสั้นสีน้ำเงิน สวมกางเกงลายดอก รองเท้าแตะ ซึ่งคล้ายคลึงกับบุคคลเดียวกันในกล้องวงจรปิด เดินเข้ามาหา พร้อมพูดสำเนียงต่างด้าวว่าขอมีเพศสัมพันธ์ด้วย ด้วยความตกใจจึงบอกปฏิเสธและวิ่งหนีออกมา
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แยกย้ายกันตามล่าคนร้ายที่คาดว่าจะหลบหนีอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งได้ตัวผู้ต้องสงสัยมาให้พยานชี้ตัว แต่กลับไม่ใช่คนร้าย จึงต้องปล่อยตัวไป
นอกจากนี้ตำรวจและเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เทศกิจเทศบาลนครรังสิต ได้ลงพื้นที่จัดระเบียบพื้นที่สาธารณะ บริเวณที่มีคนเร่ร่อนพักอาศัยอยู่ตามใต้สะพานและพื้นถนนย่านตลาดรังสิต
โดยเจ้าหน้าที่ได้หลักฐานอีกชิ้นเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่พบชายต้องสงสัย คาดว่าเป็นคนร้ายปั่นจักรยานผ่านไปที่หน้าห้างศูนย์การค้าเซียร์รังสิต ต.คูคต อ.ลำลูกกา ติดกับเขตดอนเมือง ของกทม. แต่จุดดังกล่าวมีตรอกซอกซอยเยอะ จึงยังไม่สามารถจับทิศทางได้
นอกจากนี้คนร้ายยังไม่มีโทรศัพท์มือถือ จึงไม่สามารถตรวจจับสัญญาณได้
อีกด้านหนึ่งนอกจากปูพรมค้นหาแล้ว เจ้าหน้าที่ยังเปิดเผยภาพและคลิปวิดีโอชายต้องสงสัย เพื่อขอให้ชาวบ้านและพลเมืองดีที่เห็นเบาะแสได้แจ้งข้อมูลเข้ามา
ต่อมาในช่วงเย็นวันที่ 7 ต.ค. ตำรวจภูธรภาค 1 และสน.บางซื่อ นำกำลังจับกุมนายจิมมี่ อายุ 20 ปี ชาวเมียนมา ที่เป็นชายต้องสงสัย ขณะนอนหลับอยู่ในสวนหย่อมย่านจตุจักร
ซึ่งจากการสอบสวนนายจิมมี่ เป็นชายคนเดียวในวงจรปิด ที่ตำรวจตามตัวอยู่ แต่ไม่ได้เป็นคนลงมือฆ่าทั้ง 3 ศพ
อย่างไรก็ตามพบว่าตามลำตัวและหัวเข่ามีบาดแผลคล้ายถูกของ มีคม และมีคราบเลือดติดอยู่ในเสื้อผ้า
อยู่ระหว่างการตรวจคราบเลือดของผู้ต้องสงสัยว่าตรงกับเหยื่อหรือไม่ รวมทั้งดีเอ็นเอที่ติดกับสายไฟที่มัดศพว่าตรงกันหรือไม่
หากผลสอบออกมาชัดเมื่อใด ฆาตกรตัวจริงหนีไม่พ้นแน่นอน

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน