เกาะติดตร.ตรังปิดคดีโหด
ยิงเสี่ยวังวิเศษดับคาบ้าน!
จับยกทีม-ปมหักซื้อไม้ยาง
คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
เกาะติดตร.ตรังปิดคดีโหด ยิงเสี่ยวังวิเศษดับคาบ้าน! : แม้เวลาจะผ่านไปนานเกือบเดือน แต่ตำรวจไทยยุคผบ.ตร.ชื่อ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ไม่เคยหยุดที่จะตามล่า จับแก๊งมือปืนเหี้ยมก่อเหตุอุกอาจบุกจ่อยิงเสี่ยรับซื้อไม้ยางพาราดับสยองคาบ้านพักใน อ.วังวิเศษ จ.ตรัง จนจับตัวการและมือลั่นไกมาดำเนินคดีได้ในที่สุด
คดีนี้ย้อนกลับไปเมื่อกลางดึกวันที่ 10 มี.ค. ร.ต.อ.สุกิจ สงเทพ ร้อยเวร สภ.เขาวิเศษ รับแจ้งเหตุมีคนโดนยิงเสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 56 ม.10 ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง
หลังรับแจ้งได้รายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น จากนั้นรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม พล.ต.ต.ถาวร แสงฤทธิ์ ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.สิทธินันท์ สังฆพันธ์ รองผบก.ภ.จว.ตรัง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนกก.สส.บก.ภ.จว.ตรัง และสภ.วังวิเศษ เจ้าหน้าที่ พฐ. แพทย์เวรนิติเวช ร.พ.วังวิเศษ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างภักดีตรัง จุดนาวง และจุดวังวิเศษ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียวขนาดใหญ่ และเป็นลานรับซื้อ ไม้ยางพาราและผลปาล์มน้ำมัน บริเวณโถงหน้าบ้านตั้งโต๊ะนั่งทานข้าว พบศพนายสุชาติ คงเพ็ง อายุ 32 ปี เป็นเจ้าของบ้าน และเป็นเถ้าแก่รับซื้อไม้ยางพาราและปาล์มน้ำมัน นั่งสิ้นลมหายใจอยู่บนเก้าอี้
Advertisement
สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าลำตัวรวม 9 รู
นายวัชรินทร์ หรือดำ แก้วกล่ำ
เบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายนั่งกินแตงโมกับครอบครัว ทั้งภรรยา ลูกชายวัย 12 ปี และลูกพี่ลูกน้อง กันอยู่ 5 คน
ทันใดนั้นมีคนร้าย 1 คน สวมหมวกไอ้โม่ง ใส่เสื้อแขนยาว เดินเข้ามาและใช้อาวุธปืนลูกซองเบอร์ 12 กระหน่ำยิงนายสุชาติ เสียชีวิตทันที ส่วนคนอื่นไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด แต่ทางด้านภรรยาผู้ตายช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนเป็นลมหมดสติไป ต้องรีบนำส่งร.พ.วังวิเศษ ทันที
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งสาเหตุเถ้าแก่หนุ่มถูกคำสั่งตาย จากปมขัดแย้งเรื่องธุรกิจรับซื้อไม้ยางพาราและไม้ต้นปาล์มน้ำมัน
นายอนุ ยี่หวันนี
เพราะพบเบาะแสว่า แม้ผู้ตายจะไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับผู้รับซื้อรายอื่น แต่ชาวบ้านและเกษตรกรนิยมติดต่อขายไม้ให้ผู้ตาย เนื่องจากรับซื้อโดยไม่กดราคา อาจเป็นเหตุสร้างความไม่พอใจให้คู่แข่งทางธุรกิจ
เหตุอุกอาจครั้งนี้ผ่านไปได้ 6 วัน เจ้าหน้าที่อีกชุดจับกุม นายปราโมทย์ หรือ บอล ชูจันทร์ อายุ 30 ปี ภูมิลำเนาอยู่ ม.14 ต.เขาวิเศษ ที่สนามบินดอนเมือง เพราะเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดีพรากผู้เยาว์
นอกจากคดีพรากผู้เยาว์แล้ว นายปราโมทย์ยังต้องสงสัยเป็นผู้ว่าจ้างให้สังหารนายสุชาติ เนื่องจากประกอบอาชีพรับซื้อไม้ยางพาราและไม้ต้นปาล์มน้ำมันเช่นเดียวกัน รวมถึงเคยมีเรื่องขัดแย้งกันในเชิงธุรกิจ
เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวกลับ จ.ตรัง ดำเนินคดีข้อหาพรากผู้เยาว์ก่อน พร้อมสืบสวนสอบสวนในเชิงลึก เพื่อหาหลักฐานในคดีจ้างวานฆ่าให้แน่นหนามามัดตัวให้ดิ้นไม่หลุด
เพียงไม่นานก็พบหลักฐานว่า กลุ่มก่อเหตุ มีด้วยกัน 3 คน และ นายปราโมทย์ ก็คือหนึ่งในนั้น และเชื่อมโยงไปถึงเพื่อนอีก 2 คน คือ นายวัชรินทร์ หรือ ดำ แก้วกล่ำ อายุ 31 ปี ชาวต.นาท่ามเหนือ อ.เมือง จ.ตรัง และ นายอนุ ยี่หวันนิ อายุ 34 ปี ชาวต.วังคีรี อ.ห้วยยอด จ.ตรัง
นายปราโมทย์ หรือบอล ชูจันทร์
เจ้าหน้าที่จึงตามไปจับนายวัชรินทร์ได้เป็นรายที่สอง ก่อนคุมตัวทั้งคู่แยกสอบปากคำ ขณะเจ้าหน้าที่อีกชุดก็แยกย้ายไปกดดันญาตินายอนุ จนยอมเข้ามอบตัวในวันที่ 9 เม.ย.
พล.ต.ต.ถาวรเผยว่า หลังจากที่ได้จับกุมกลุ่มผู้ต้องหาคดีฆ่านายสุชาติ เจ้าหน้าที่สืบสวนจนได้หลักฐานชัดเจนก่อนรวบรวมหลักฐานยื่นต่อศาลจังหวัดตรัง กระทั่งอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน
ต่อมาวันที่ 7 เม.ย. จับกุมผู้ต้องหา 2 รายแรก และยังเหลือนายอนุ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้กดดัน จนกระทั่งผู้ต้องหาก็ได้แจ้งเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จนท.ตรวจที่เกิดเหตุ
แม้ในเบื้องต้นนั้นทั้งหมดยังให้การปฏิเสธ แต่พนักงานสอบสวนมีพยานหลักฐานที่น่าเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้งหมดมีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินการสอบสวนและสรุปสำนวนส่งอัยการต่อไป
สำหรับนายปราโมทย์และนายวัชรินทร์ถูกคุมอยู่ในเรือนจำไปก่อนหน้าแล้ว เพราะศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวชั่วคราว ตามคำคัดค้านของพนักงานสอบสวน เนื่องจากเกรงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
ตำรวจจำลองเหตุหาเบาะแส
“ผู้ต้องหาที่เจ้าหน้าที่สืบทราบมามีแค่ 3 คนนี้เท่านั้น ถือว่าดำเนินการจับกุมได้ครบแล้วทั้งหมด แต่หากสืบพบเบาะแสว่ามีใครเกี่ยวข้องเพิ่มเติมมากกว่านี้ ก็จะดำเนินการเพิ่มเติมต่อไป”
คำยืนยันจากท่านผู้การถาวร ที่ย้ำชัดเจนว่า ไม่มีทางที่อาชญากรจะหนีพ้นเงื้อมมือผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ไปได้
เรื่อง/ภาพ – โดย พีระพล จันฝาก, เมธี เมืองแก้ว
