คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

พิรยุทธ นิ่มนนท์

เรื่อง/ภาพ

ศิลปิน ดารา เป็นที่สนใจของประชาชน เปรียบได้กับมีไฟสปอตไลต์คอยส่องอยู่ตลอดเวลา เรียกว่าแค่ขยับตัวก็เป็นข่าวแล้ว จึงไม่แปลกที่เรื่องราวของดาวตลก ‘เหลือเฟือ มกจ๊ก’ ที่ถูกหนุ่มคู่กรณีควงปืนยิงข่มขู่จนต้องเผ่นกระเจิง จึงเป็นข่าวขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือ พิมพ์ทุกฉบับ

เหตุการณ์เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 04.20 น. วันที่ 3 มิ.ย. ที่สน.โคกคราม ดาวตลก ‘เหลือเฟือ มกจ๊ก’ หรือนายเกมศักดิ์ แจ้งทิพย์นาง พร้อมด้วยนายโชคชัย นิลสุวรรณ ผู้จัดการร้านอาหารชื่อแซ่บโปงลาง เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.อนุชาติ โครตสีเขียว รองสารวัตร (สอบสวน) สน.โคกคราม เพื่อให้ดำเนินคดีกับชายใช้อาวุธปืนไล่ยิง เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านแซ่บโปงลาง ซอยนวลจันทร์ 16 แยกวังรุ้ง ถนนนวลจันทร์ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม เมื่อเวลา 03.30 น. ที่ผ่านมา

นายโชคชัยให้การว่า ตนเป็นผู้จัดการร้านแซ่บโปงลาง ซึ่งเป็นร้านของ “อี๊ด โปงลาง” หรือ นายสมพงษ์ คุนาประถม ก่อนเกิดเหตุตนกับเหลือเฟือ พร้อมกลุ่มเพื่อนนั่งดื่มกินกันอยู่บริเวณหน้าร้าน จากนั้นมีชายซึ่งจำได้ว่าเป็นลูกค้าที่ร้านขับรถมาจอดริมถนนแล้วเดินตรงมาหาเหลือเฟือ โดยบอกว่าชื่อโทนี่ อยากจะเคลียร์ปัญหากับเหลือเฟือโดยเฉพาะ จากนั้นชายคนดังกล่าวก็เดินกลับไปแต่ไม่นานก็เดินกลับมาพร้อมถืออาวุธปืนมาด้วย ก่อนจะยิงขึ้นฟ้าและยิงเข้ามาที่กลุ่มคน จนต้องวิ่งหนีเอาชีวิตรอดไปคนละทิศคนละทาง

นายโชคชัย ให้การอีกว่า ชายคนที่ก่อเหตุเคยมาที่ร้านก่อนหน้านี้ประมาณ 2 เดือน และวันนั้นก็มีปัญหากับคนในร้านเนื่องจากไปชอบหญิงสาวที่ร้านแต่ถูกตอบปฏิเสธเลยคิดว่านักดนตรีที่ร้านกันท่าจึงมีปากมีเสียงทะเลาะวิวาทกัน ซึ่งวันนั้นเหลือเฟือได้เข้าไปเคลียร์ปัญหาให้แต่กลับถูกอีกฝ่ายอ้างตัวว่าเป็นทหารยศใหญ่ บังคับให้ตนกราบเท้าและยังเคยมาก่อเหตุข่มขู่พนักงานในร้านจนทางร้านต้องติดกล้องวงจรปิดกระทั่งมาก่อเหตุอีกครั้งเมื่อคืนที่ผ่านมา

พร้อมกันนี้นายโชคชัยได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดขณะเกิดเหตุมาให้เจ้าหน้าที่ไว้เป็นหลักฐาน

ขณะเดียวกันตลกเหลือเฟือ ให้การว่าไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวกับหนุ่มคู่กรณี แต่เคยเห็นตามร้านลาบย่านนวลจันทร์เท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่ทางเจ้าของร้านต่างๆ ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเวลาเมาหนุ่มคนดังกล่าวชอบโวยวายเสียงดัง อ้างว่ารู้จักคนใหญ่คนโตทำให้ลูกค้าหนีไม่มีใครกล้าเอาเรื่อง

หลังรับแจ้ง พ.ต.ท.ทัสสุมิ ยอดประทุม รองผกก.สส.สน.โคกคราม สั่งการให้ชุดสืบสวนลงหาข้อมูลจนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายราฟิก ปาทาน อายุ 48 ปี และไม่ได้รับราชการทหารตามที่กล่าวอ้าง

หลังเกิดเหตุชุดสืบสวนไปตรวจสอบที่บ้านพักแต่ไม่พบตัว เมื่อโทรศัพท์ติดต่อไปเจ้าตัวระบุว่ากำลังเดินทางไปหาญาติที่ จ.สระบุรี และจะขอเข้ามอบตัวภายใน 1-2 วันนี้ โดยยืนยันว่ายิงปืนขึ้นฟ้า ไม่ได้ยิงไปที่กลุ่มคน

กระทั่งวันที่ 7 มิ.ย. นายราฟิก เดินทางเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.สุริยา นาคแก้ว ผกก.สน.โคกคราม พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .32 จำนวน 1 กระบอก ปลอกกระสุนปืน ขนาด 32 ม.ม. จำนวน 1 ปลอก

นายราฟิกให้การยอมรับผิดในทุกข้อกล่าวหาโดยเผยว่า สาเหตุที่ทำให้ต้องใช้อาวุธปืนยิงนั้น เพราะถูกเหลือเฟือ มกจ๊ก ด่าแม่จึงทำให้บันดาลโทสะไปหยิบอาวุธปืนจากรถมายิงตามภาพที่ปรากฏในคลิป

ส่วนปมเหตุมาจากเมื่อประมาณ 2 เดือนก่อน ตนและเพื่อนสนิทชื่อมิตร ไปดื่มกินที่ร้านดังกล่าว โดยเหลือเฟือขึ้นเล่นตลกและพูดจาแซวแขกในร้าน รวมถึงเพื่อนตนด้วยถ้อยคำไม่สุภาพ ทำให้เพื่อนของตนไม่พอใจ เนื่องจากตนเป็นลูกค้าประจำจึงตัดสินใจเข้าไปเคลียร์ให้เพื่อน

“ผมเข้าไปพูดคุยกับเขาดีๆ เจ้าของร้านก็อยู่ด้วย แต่เขากลับพูดจาด้วยถ้อยคำไม่สุภาพและพยายามเข้ามาทำร้าย แต่ผมไม่ได้โกรธหรือติดใจในส่วนนี้ แต่พอจะเดินกลับไปที่รถเพื่อนที่จอดห่างจากร้านไม่ไกล เขาเดินตามมาพร้อมด่าว่าล่วงไปถึงบุพการี ผมเลยฟิวส์ขาดและปรากฏภาพเหตุการณ์ในคลิป” นายราฟิกกล่าว

นายราฟิกไม่ได้มามือเปล่า ยังเอาวิดีโอภาพวงจรปิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะเอาปืนมาไล่ยิงขู่เหลือเฟือ มาให้เจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนได้ดู มีความยาวประมาณ 15 นาที ซึ่งในภาพปรากฏภาพของนายราฟิก เหลือเฟือ และนายอ๊อด เจ้าของร้านกำลังโต้เถียงกัน โดยมีนายอ๊อดเป็นผู้ห้ามปราม ส่วนเหลือเฟือในภาพมีท่าทางเกรี้ยวกราดและพยายามเข้าทำร้ายร่างกายนายราฟิกอยู่ตลอดเวลา แต่นาย ราฟิกไม่ได้ตอบโต้ใดๆ

เบื้องต้น ตร.แจ้งข้อหา พกพาอาวุธปืน ยิงปืนในที่สาธารณะและข่มขู่แก่นายราฟิก ก่อนอนุญาตให้ประกันตัวไปในวงเงิน 1.5 แสนบาท ทั้งนี้หากพบว่ามีการกระทำผิดในข้อหาอื่นก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในภายหลัง

ถูกคู่กรณีงัดวงจรปิดมาโต้กลับ ตลกเหลือเฟือ รีบออกมาแถลงยืนยันว่า ไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อน งานนี้เป็นหนังยาวแน่นอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน