จับทันควันสตอ.แตกแถว

พก9ม.ม.เตรียมจี้ธนาคาร

อ้างหาเงินใช้หนี้นอกระบบ

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

จับทันควันสตอ.แตกแถว – สถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน ส่งผลให้ธนาคาร-ร้านทองกลายเป็นเป้าหมายของมิจฉาชีพทั้งที่เป็นโดยอาชีพและที่จำใจเป็นเพราะอับจนหนทาง ไม่เว้นแม้แต่ผู้มีหน้าที่รักษากฎหมายก็อาจกลายเป็นโจรเสียเอง

จับทันควันสตอ.แตกแถว

ร.ต.ท.จินดา พันธ์วัง เล่าเหตุการณ์

เช่นเหตุการณ์เมื่อ 10.30 น. วันที่ 16 เม.ย. ขณะที่ ร.ต.ท.จินดา พันธ์วัง รอง สวป.สภ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ปฏิบัติหน้าที่บริเวณธนาคารกสิกรไทย สาขาบางวัว ริมถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด) ก.ม.42 ช่องคู่ขนาน ขาเข้าชลบุรี หมู่ 1 ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา จนเสร็จเรียบร้อย

ขณะกำลังเดินลงมาจากธนาคาร หลังเห็นชายคนหนึ่งสวมเสื้อผ้าชุดดำ ใส่ไอ้โม่ง สวมหน้ากากอนามัยสีดำ สะพายเป้สีดำ ยืนกุมซองเอกสาร สีน้ำตาลอยู่ข้างตู้เอทีเอ็มด้านล่างของธนาคาร เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชาย ดังกล่าวออกอาการลุกลี้ลุกลนมีพิรุธชัดเจน จึงได้เรียกเพื่อขอตรวจค้น

จับทันควันสตอ.แตกแถว

ธนาคารที่เกิดเหตุ

ชายคนดังกล่าวรีบอ้างบอกว่าตัวเองเป็นตำรวจสันติบาลมาสืบราชการลับอยู่ แต่ ร.ต.ท.จินดาไม่เชื่อ พร้อมสงสัยซองสีน้ำตาลที่อยู่ในมือของชายคน ดังกล่าวว่าเป็นอะไร จึงได้สอบถามชายคนดังกล่าวตอบว่าเป็นปืน ร.ต.ท.จินดาจึงขอตรวจดูแต่ชายดังกล่าวไม่ยอมพร้อมพยายามวิ่งหลบหนี ก่อนเกิดการต่อสู้ปล้ำกันอยู่ข้างธนาคาร กระทั่งมีหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทราที่ผ่านมาพอดี รีบเข้าช่วยอีกทั้งยังมี รปภ.ของธนาคารมาช่วยล็อกตัวเอาไว้ได้

จากการตรวจค้นพบอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนที่ขึ้นลำไว้แล้ว และยังมี แม็กกาซีนสำรองที่บรรจุกระสุนอยู่อีก 1 อัน ใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ นอกจากนี้ยังพบกระสุนปืนอีกประมาณ 30 นัด อยู่ในห่อกระดาษสีขาว พอสอบถามอีกครั้ง ชายคนดังกล่าวก็ปฏิเสธว่าไม่ใช่ตำรวจสันติบาล แต่รถของตนเสียและจอดอยู่เลนทางด่วน แต่เมื่อมองหาก็ไม่พบรถ ค้นตัวเจอกุญแจรถยนต์โตโยต้า เมื่อเดินตรวจหาแล้วก็ยังไม่พบ

จับทันควันสตอ.แตกแถว

กระสุนปืน

ชายคนดังกล่าวไม่ยอมปริปากบอกหรือพูดอะไรอีกเลย ตำรวจจึงคุมตัวมาสอบปากคำที่ สภ.บางปะกง เพื่อหาข้อเท็จจริง โดย พ.ต.อ.กิตติสัณห์ ชะนะ ผกก.สภ.บางปะกง ได้สอบสวน ผู้ต้องหาด้วยตนเองจนเจ้าตัวยอมเปิดปากสารภาพ

พ.ต.อ.กิตติสัณห์เผยว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้นั่งรถเมล์มาที่ธนาคารดังกล่าว ตั้งใจที่จะมาก่อเหตุ ชิงทรัพย์ที่ธนาคารกสิกรไทยจริง เพราะว่าอยู่ติดกับถนนโดยเตรียมเครื่องแต่งกายมาเปลี่ยนหลังก่อเหตุ

เมื่อมาถึงธนาคารเกิดเปลี่ยนใจเพราะพบว่ามีสายตรวจผ่านมา แล้วเข้ามาตรวจสอบจนถูกจับกุมพร้อมอาวุธปืนดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่จะมาจี้ชิงเงินธนาคารในครั้งนี้ เนื่องจากมีภาระหนี้สินทั้งในระบบและนอกระบบ รวมทั้งภรรยาก็ไม่มีงานทำ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหาพกพาอาวุธปืน ก่อนส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จับทันควันสตอ.แตกแถว

นาทีจนมุม

ด้านพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยว่า วันนี้รับเเจ้งเหตุพบชายมีพิรุธต้องสงสัยเเต่งตัวมิดชิด ปิดบังใบหน้า เดินวนเวียนอยู่บริเวณธนาคารที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบพบชายดังกล่าวสวมเสื้อ 3 ชั้น กางเกง 2 ชั้น พกอาวุธปืนสั้นกล็อก 19 ซองกระสุนสำรอง 2 ซอง พร้อมเครื่องกระสุนปืน

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เป็น เจ้าหน้าที่ตำรวจจริง ยศ ส.ต.อ. ตำเเหน่ง ฝ่ายตรวจสอบพฤติการณ์บุคคล สังกัดกองบัญชาการตำรวจสันติบาล โดยอ้างว่าปฏิบัติหน้าที่ออกจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ

ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างสอบปากคำ และรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นจะถูกดำเนินคดีความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน โดยหากตรวจสอบแล้วพบความผิดอื่นเพิ่มเติมก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป อีกทั้ง ผบก.อก. บช.ส. ก็จะดำเนินการตั้งคณะกรรมการสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น พร้อมดำเนินการในทางวินัยที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด

จับทันควันสตอ.แตกแถว

สอบเครียด

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำไปยังทุกกองบัญชาการ ให้หัวหน้าหน่วยทุกพื้นที่ ลงไปกำกับดูแลควบคุมความประพฤติ และวินัยข้าราชการตำรวจในสังกัด ทั้งในและนอกเวลาราชการ หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจประพฤติตนนอกรีตไปเป็นโจรผู้ร้ายก่อเหตุเสียเอง หรือแม้กระทั่งเรียกรับผลประโยชน์ต่างๆ ใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ หากผิดจริงให้ดำเนินทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีการลงทัณฑ์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระทำในลักษณะนี้บ่อยครั้ง ทั้งให้ออก ไล่ออก ปลดออก ไม่ปล่อยไว้ให้เป็นเยี่ยงอย่าง

ก้องเกียรติ พุทธิรังสิมาภรณ์

สมศักดิ์ กิจการนันทศรี

เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน