คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

อดิศร จิตตเสวี

พนม คงเจริญ

สุรัตน์ สรรพคุณ

เรื่อง/ภาพ

คนเราเมื่อทำผิดกฎระเบียบ มักหาข้ออ้างมาเพื่อสร้างความชอบธรรม แม้ในใจจะรู้อยู่ว่าผิด แต่ด้วยอคติในใจทำให้ไม่ยอมรับ หลายครั้งที่ถูกตักเตือนก็กลายเป็นโมโหโกรธา ดังเช่นเหตุสยองที่เกิดขึ้นในร.พ.ราชวิถี เมื่อสายวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา

เวลา 11.15 น. วันที่ 10 มิ.ย. ร.ต.อ.อิทธิพล มีศาสตร์ รองสว.(สอบสวน) สน.พญาไท รับแจ้งเหตุมีคนโดนไล่ฟันเสียชีวิตภายในร.พ.ราชวิถี ถนนโยธี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม. จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ รองผบช.น. พล.ต.ต.วัชรพงศ์ ดำรงค์ศรี ผบก.น.1 พ.ต.อ.นิติวัฒน์ แสนสิ่ง ผกก.สน.พญาไท พ.ต.ท.ไพรัช ไสยเลิศ รองผกก.(สอบสวน) สน.มักกะสัน รรท.รองผกก.(สอบสวน) สน.พญาไท พ.ต.ท.ปกรณ์ ภาวิไล รองผกก.สส.สน.พญาไท และเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท

ที่เกิดเหตุบริเวณกลางถนน ทางเข้าอาคารวิทยาลัยพยาบาล ภายในร.พ.ราชวิถี พบศพนายสัญชาย ขันงาม อายุ 30 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย บริษัท ทีเอสจี ประจำอยู่ร.พ.ราชวิถี บริเวณประจำตู้ยามถนนโยธี

สภาพศพอยู่ในชุดพนักงาน รปภ.สีน้ำเงิน ถูกของมีคมฟันเข้าที่คอและที่ศีรษะ ข้างลำตัวพบท่อนเหล็กยาว 1 ฟุตตกอยู่ ใกล้กันบริเวณป้อมยามพบรอยหยดเลือดจำนวนมาก

จากการสอบสวนนายเสถียร จันทร์แดง อายุ 45 ปี รปภ.บริษัทเดียวกัน ประจำจุดบริเวณทางขึ้นสถาบันพยาธิวิทยา ร.พ.ราชวิถี ที่เห็นเหตุการณ์ ให้การว่าเห็นคนร้ายขับรถเก๋งสีขาวมาจอดรถในที่ห้ามจอด บริเวณเส้นประขาว-แดง

ระหว่างนั้นผู้ตายเดินออกมาจากป้อมและพูดว่า “ตรงนี้ห้ามจอด” จากนั้นทั้งคู่ได้มีปากเสียงกัน ผู้ตายได้เดินกลับเข้ามาที่ป้อม ก่อนที่คนร้ายจะหยิบมีดดาบออกมาจากรถและเดินตรงไปที่ป้อม ก่อนใช้มีดฟันที่หัวและปาดลำคอ ก่อนเดินออกมาอย่างใจเย็น ส่วนผู้ตายได้วิ่งตามออกมาพร้อมเหล็กแป๊บ แต่มาล้มลงขาดใจตายเสียก่อนก่อนเพราะเสียเลือดมาก

จากการตรวจสอบพบว่าผู้ที่ก่อเหตุคือ นายภัทรพงษ์ เครือนาค อายุ 23 ปี อดีตเจ้าหน้าที่เวรเปล ร.พ.ราชวิถี ปัจจุบันทำงานที่ร.พ.เด็ก สาเหตุที่ถูกไล่ออกจาก ร.พ.ราชวิถีเนื่องจากขาดงานบ่อย หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปพร้อมอาวุธมีดดาบ โดยขึ้นรถฮอนด้า รุ่นแจ๊ซ สีขาว ทะเบียน สล 6516 กทม. ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามตัวอยู่

วันเดียวกันนั้นเอง ตร.รวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลอาญาอนุมัติหมายจับนายภัทรพงษ์ ที่ 1374/60 ลงวันที่ 10 มิถุนายน 2560 ในข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, พกพาอาวุธ (มีด) ไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุ อันควร”

คดีอุกอาจ ก่อเหตุภายในโรงพยาบาล ทั้งผู้ก่อเหตุเองก็เป็นบุคลากรในโรงพยาบาล พล.ต.ท.ศานิตย์จึงสั่งการให้ระดมชุดสืบสวนออกไล่ล่ากดดันอย่างหนัก พร้อมประกาศเตือนออกสื่อผ่านไปยังญาติๆ หรือคนรู้จักของนายภัทรพงษ์ที่คิดจะให้ความช่วยเหลือ ให้ที่หลบซ่อนตัวกับคนร้าย ตำรวจจะดำเนินคดีด้วย

หลังถูกกดดันหนัก ในที่สุดนายภัทรพงษ์ก็หมดหนทางหลบหนี สุดท้ายก็จนมุม

กลางดึกคืนวันที่ 12 มิ.ย. พ.ต.อ.นิติวัฒน์ แสนสิ่ง ผกก.สน.พญาไท พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท บุกจับกุมตัวนายภัทรพงษ์ หลังจากแอบไปหลบอยู่ที่บ้านญาติในพื้นที่ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา

ทั้งนี้ ยังตรวจยึดรถเก๋งฮอนด้าแจ๊ซ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ของนายภัทรพงษ์ ที่ใช้หลบหนีหลังก่อเหตุ โดยขับไปจอดทิ้งไว้ภายในลานจอดรถโครงการบ้านเอื้ออาทร รังสิตคลอง 1 ตึก 17 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พร้อมถอดแผ่นป้ายทะเบียน สล 6516 กรุงเทพมหานคร ออกไปซ่อนอยู่ใต้ผ้ายางรองพื้น

สิบโมงเช้าวันที่ 13 มิ.ย. ที่สน. พญาไท พล.ต.ท.ศานิตย์นำทีมแถลงข่าวการจับกุมตัวนายภัทรพงษ์ โดยกล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสามารถจับกุมตัวนายภัทรพงษ์ได้ที่ด่านตรวจรถ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหายังไม่ให้การใดๆ และขอให้การในภายหลัง แต่ยอมรับว่าก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยก่อนหน้านั้นได้มีปากเสียงกับผู้ตายเรื่องที่จอดรถ ส่วนอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุผู้ต้องหาให้การว่าทิ้งไว้ในรถยนต์ที่ใช้ขับหลบหนี

เจ้าหน้าที่คัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน และเจ้าตัวยังปฏิเสธที่จะทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจก็นำรถฮอนด้า แจ๊ซ สีขาว หมายเลขทะเบียน สล 6516 กรุงเทพมหานคร ของนาย ภัทรพงษ์มาไว้ที่ สน.พญาไท ก่อนประสานช่างกุญแจ มาเปิดรถ เพื่อให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บพยาน หลักฐานเพิ่ม

จากการตรวจสอบภายในรถพบมีดยาวกว่า 1 ฟุต ซึ่งคาดว่าเป็นอาวุธที่ใช้ฟันคอนายสัญชายจนเสียชีวิต จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีต่อไป

หลังปิดคดีได้อย่างรวดเร็ว พล.ต.ท.ศานิตย์ฝากกรณีนี้ให้เป็นอุทาหรณ์ว่า จะทำอะไรขอให้มีสติอยู่ตลอดเวลา อย่าใช้อารมณ์ ซึ่งก่อให้เกิดผลเสียทั้งต่อตนเองและผู้อื่นด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน