คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

อธิคม สิงขรณ์

เรื่อง/ภาพ

เช้าวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา เกิดคดีฆาตกรรมโหดขึ้นใน อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี

เมื่อมีผู้พบศพ นางวิไล จิตรสุนทร อายุ 69 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/10 ม.6 ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน เศรษฐินีแม่ค้ารับซื้อผลไม้และเจ้าของสวนลำไยหลายร้อยไร่ ถูกตีด้วยของแข็งเข้าที่บริเวณศีรษะและใบหน้าจนกะโหลกยุบ

ศพถูกทิ้งอยู่ในป่าหญ้าปากทาง เข้าสวนลำไยของตนเอง ริมถนนสายสายบ้านสะตอน-คลองบอน ม.1 ต.หนองตาคง อ.โป่งน้ำร้อน ไม่ห่างจากบ้านพักเท่าไร

ร.ต.ท.สมพงษ์ บุญไทย ร้อยเวร สภ.บ้านแปลง รีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันทีหลังรับแจ้ง พร้อมพล.ต.ต.จรัล จิตเจือจุน ผบก.ภ.จว.จันทบุรี พ.ต.อ.ชัชวาลย์ โตโสภณ ผกก.บ้านแปลง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่พฐ. แพทย์ร.พ.โป่งน้ำร้อน และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมสว่างกตัญญูธรรมสถาน

สภาพศพยังสวมชุดนอนลายดอกไม้สีชมพู สันนิษฐานว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6-8 ชั่วโมง ข้างศพยังพบท่อนไม้ยูคาลิปตัส ยาว 1.5 เมตร เปื้อนเลือดตกอยู่

ห่างไปประมาณ 200 เมตร พบกระบะโตโยต้าวีโก้ 4 ประตู สีดำ ทะเบียน 5158 จันทบุรี ของผู้ตายจอดเสียหลักตะแคงตกลงไปในร่องน้ำข้างทาง ภายในห้องโดยสารพบเศษชิ้นเนื้อมนุษย์ติดอยู่บริเวณริมประตูด้านใน

ต่อมา นายนาวิน จิตรสุนทร อายุ 49 ปี ลูกชายคนโต พร้อม นายพรชัย จันท์น้อย อายุ 37 ปี ลูกน้องคนสนิทของผู้ตาย เดินทางมายังที่เกิดเหตุหลังรับทราบข่าวร้าย ให้ข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ผู้ตายพร้อมนายพรชัย ขับรถกระบะคันดังกล่าวไปขายผลไม้ที่ตลาดค้าส่งปากแซง ในตัวเมืองจันทบุรี

โดยมีลูกน้องใหม่อีก 2 คน ที่เพิ่งรับเข้ามาทำงานได้เพียง 1 เดือน คือ นายสิทธิกร หรือ มาท กระแสโสม อายุ 39 ปี ชาว อ.สอยดาว และ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ญาติของ นายสิทธิกร ติดรถไปช่วยยกของ

โดยช่วงเย็นวันเดียวกันผู้ตายโทร ศัพท์กลับมาบอกว่าขายผลไม้ได้เงินสด มาประมาณ 3-4 หมื่นบาท กำลังจะกลับบ้าน ก่อนหายตัวไป กระทั่งทราบข่าวว่าเสียชีวิตแล้วดังกล่าว

ด้านนายพรชัยให้การว่า หลังกลับจากขายผลไม้นั่งร่วมวงดื่มสุรากับนายสิทธิก รและนายเอ ภายในไร่ลำไย จากนั้นชักชวนกันไปดื่มกินกันต่อที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งในตัวอำเภอโป่งน้ำร้อน แต่เงินไม่พอจ่าย

นายพรชัยและนายสิทธิกร จึงขับรถกระบะกลับไปขอเงินจากนางวิไล เพื่อมาชำระ โดยให้นายเอ นั่งรออยู่ที่ร้าน

แต่นางวิไลเห็นว่า นายพรชัย เมามากแล้วจึงให้นอนพักอยู่ที่บ้าน ก่อนให้นายสิทธิกร ขับรถพาไปจ่ายเงินเอง โดยพกเงินสดติดตัวไปด้วยประมาณ 3 หมื่นบาท ก่อนเงียบหายไปทั้งหมด กระทั่งมีคนมาแจ้งว่า นางวิไลถูกฆ่าตายแล้ว

หลังทราบข้อมูลทั้งหมด เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ก่อเหตุคือลูกน้อง ใหม่ทั้ง 2 คน หลังก่อเหตุฆ่าชิงเงินที่ติดตัวผู้ตายแล้วจึงชิงรถไปด้วยเพื่อหลบหนี แต่ขับไปได้ไม่ไกลเกิดเสียหลักตกร่องน้ำจึงทิ้งรถเดินเท้าหลบหนี

เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังตรวจค้นรอบจุดเกิดเหตุอย่างละเอียด เพราะ คาดว่าคนร้ายอาจยังหนีไปได้ไม่ไกล พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ด่านชายแดนในพื้นที่ อ.โป่งน้ำร้อน และอ.สอยดาว ซึ่งเป็นรอยต่อติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกันคนร้ายไหวตัวหลบหนีข้ามประเทศ

หลังค้นหาอยู่หลายชั่วโมง ช่วงเย็นวันเดียวกันก็จับกุมทั้งคู่ได้ภายในขนำกลางสวนกล้วยของชาวบ้านในพื้นที่ ม.2 ต.จันทเขลม อ.เขาคิชฌกูฏ

สอบสวนผู้ต้องหาทั้งคู่ให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุทำร้ายนางวิไลจนตาย จริง เพื่อหวังต่อทรัพย์สินที่เป็นเงินสดและรถกระบะเพื่อใช้ในการหลบหนี

เนื่องจากทั้งคู่ไม่เคยเห็นเงินก้อนโตขนาดเป็นหมื่นๆ ที่ผู้ตายพกติดตัวจึงเกิดความโลภ

โดยระหว่างที่ทั้งหมดกำลังเดินทางกลับที่พัก หลังนางวิไลช่วยชำระค่ากินดื่มทั้งหมด เมื่อถึงจุดเกิดเหตุซึ่งอยู่ห่างจากบ้านผู้ตายประมาณ 500 เมตร นายเอทำทีขอลงไปปัสสาวะ ก่อนหยิบท่อนไม้ยูคาลิปตัสในบริเวณดังกล่าว กระหน่ำตีเข้าศีรษะและใบหน้าของนางวิไลหลายครั้งจนเสียชีวิต

จากนั้นลากศพทิ้งไว้ข้างทาง ชิงเงิน สดที่ติดตัวผู้ตายและรถขับหลบหนี แต่ไปได้ไม่ไกลรถเกิดเสียหลักตกร่องน้ำไปต่อไม่ได้ จึงเดินเท้าหลบหนีเข้าสวนผลไม้ กระทั่งมานอนพักที่ขนำหลังดังกล่าวจนถูกรวบตัวได้ในที่สุด

บทสรุปสุดท้ายของฆาตกรทั้งคู่ที่ถูกความโลภบังตา ไม่พ้นต้องเข้าไปกินข้าวแดงอยู่ในตะรางอีกหลายปี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน