คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

สมภพ สนเวส

เรื่อง/ภาพ

ย้อนกลับไปเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 13 มิ.ย. ร.ต.อ.รัฐพงษ์ ศรีนอก รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งพบศพหญิงถูกฆ่าฝังอยู่ข้างบ้านเช่าหลังหนึ่งไม่มีเลขที่ ภายในซอยอยู่สุข 13 ถนนศรีนครินทร์ ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ. จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล รอง ผบก. พ.ต.อ.ต่อพงษ์ ตันตระวาณิชย์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ ชุดสืบสวน กองพิสูจน์หลักฐาน อาสามูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวสภาพโทรม รั้วล้อมสังกะสี มีชาวบ้านมามุงดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก โดยมีกลิ่นเหม็นเน่าโชยมาตามลมเป็นระยะ เจ้าหน้าที่จึงกันให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกไปจากบริเวณหน้าบ้าน

ขณะที่นายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี หลานชายเจ้าของบ้าน ซึ่งยืนรอพบเจ้าหน้าที่อยู่ ได้พาตำรวจเข้าไปบริเวณพื้นดินข้างบ้านฝั่งขวา ก็พบศพเป็นหญิงทราบชื่อต่อมาคือนางสุรัก อุ้มญาติ อายุ 61 ปี สภาพศพสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้นสีดำ คอหัก ใบหน้ายุบ เบื้องต้นคาดเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 10 วัน

สอบถาม นางพัชรี แก้วน้อย อายุ 58 ปี กำนัน ต.บางเมือง กล่าวว่า ผู้ตายร่างกายไม่แข็งแรงเนื่องจากป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง พักอยู่กับสามี ชื่อ นายวิจิตร พันธุ์ภู่ อายุ 53 ปี เพียงแค่ 2 คน ระหว่างอยู่ด้วยกัน นายวิจิตรชอบทำร้ายร่างกายผู้ตาย ชาวบ้านมาแจ้งตนให้เข้ามาห้ามปรามหลายครั้ง

จนวันนี้นายเอ ซึ่งเป็นหลานชายคนตายมาหาที่บ้านแต่ไม่พบใคร และได้กลิ่นคล้ายศพจึงมาแจ้งตนให้มาช่วยดู พบว่าไม่มีคนอยู่บ้าน จึงได้เข้าไปตรวจสอบหาที่มาของกลิ่น พบว่ามาจากหลุมดินข้างบ้านที่เพิ่งถูกกลบใหม่ๆ จึงลงมือขุดไปเพียงศอกเดียวก็เจอร่างของผู้ตายถูกฝังอยู่

ทางด้านนายเอ หลานชายผู้ตาย กล่าวว่า ก่อนพบศพ พระเอก อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นพระพ่อของตนซึ่งขณะนี้บวชอยู่ที่โคราชได้โทร.มา บอกว่ามีชาวบ้านไปบอกว่าย่าโดนซ้อมและถูกน้ำร้อนลวก โดยสามีใหม่ของย่าเป็นคนลงมือ

ตนจึงรีบเดินทางมาหาแต่ก็ไม่พบย่า สอบถามชาวบ้านบอกไม่เห็นทั้งย่าตนและสามีใหม่มาหลายวันแล้ว พร้อมแนะนำให้ลองจุดธูปบอกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดูเพื่อบันดาลใจให้พบ หลังจากจุดธูปเสร็จ จู่ๆ ก็ได้กลิ่นเหม็นโชยขึ้นมา

“ผมเดินตามกลิ่นไปจนไปเหยียบแผ่นไม้ข้างบ้าน ก่อนที่ดินจะยุบลงไป จึงได้เปิดแผ่นไม้ออกและเรียกเพื่อนบ้านมาช่วยกันขุด จนพบศพของย่า เลยรีบโทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ” นายเอกล่าว

ด้านเพื่อนบ้านเล่าว่า ก่อนหน้านี้ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของผู้ตาย เนื่องจากถูกสามีทำร้ายเตะต่อยแทบจะทุกวัน ต่อมาได้กลิ่นเหม็นเน่าลอยมาจึงแจ้งกำนันมาช่วยตรวจสอบ ก่อนลองไปขุดดูและเจอศพถูกฆ่าฝังดินอยู่ข้างบ้าน

พล.ต.ต.ธรรมนูญ เผยภายหลังร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุว่า จากการซักถามพยาน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สงสัยว่านายวิจิตร สามีผู้ตาย ที่หายตัวไปน่าจะเป็นคนลงมือก่อเหตุ ซึ่งพยานให้การว่า สามี ภรรยาคู่นี้ทะเลาะกันประจำทุกครั้งที่เมา สามีก็มักจะลงมือทำร้ายภรรยา อีกทั้งก่อนที่จะหายตัวไป มีเพื่อนบ้านได้กลิ่นเหม็นจึงมาสอบถาม นายวิจิตรยังอ้างว่ามีสุนัขตาย 5 ตัวจึงนำมาขุดหลุมฝังไว้รวมกัน ซึ่งจะได้ติดตามตัวมาสอบสวนเพื่อหาตัว ผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี

ตร.ใช้เวลาไม่นานก็สามารถติดตามจับกุมตัวสามีโหดได้ โดยวันที่ 15 มิ.ย. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผบช.ภ.1 แถลงจับกุมนายวิจิตร ภายหลังติดตามจับกุมได้ที่ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติเผยว่า จากการสอบสวนนายวิจิตรให้การรับสารภาพว่า ตนลงมือก่อเหตุสังหารภรรยาเพียงคนเดียว โดยผู้ต้องหาอ้างว่า พยายามห้ามภรรยาที่ติดสุราให้เลิกดื่มเหล้า แต่ไม่ยอมเชื่อ จึงโมโหและลงมือทำร้ายด้วยการเตะและต่อย

แต่เพราะเป็นอดีตนักมวยเลยลงมือหนักไปทำให้ภรรยาเสียชีวิต จากนั้นได้ลากศพไปฝังดินอำพรางที่ข้างบ้านเช่าแล้วหลบหนีไป โดยฝังดินไว้นาน 2 สัปดาห์ กระทั่งชาวบ้านได้กลิ่นเหม็นและแจ้งกำนันมาตรวจสอบจนพบศพดังกล่าว

หลังแถลงข่าว ตร.พาตัวผัวโหดไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บ้านที่เกิดเหตุ ท่ามกลางเสียงตะโกนด่าของชาวบ้าน ก่อนนำตัวกลับมาดำเนินคดี เพื่อรับโทษตามความผิดต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน