สดจากสนามข่าว

อนุวัสส์ ศิวราศักดิ์ เรื่อง/ภาพ

ทุกสังคมล้วนให้ความสำคัญกับเด็ก ทุกครั้งที่เกิดคดีฆาตกรรม ที่เหยื่อเป็นเด็ก จึงเป็นข่าวใหญ่ที่ทุกคนให้ความสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้ลงมือก่อเหตุเป็นบุคคลในครอบครัว เป็นพ่อ แม่ผู้ให้กำเนิดเสียเอง

เรื่องราวสลดถูกเปิดเผยขึ้น เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 11 มิ.ย. ร.ต.อ.ไพทูรย์ เพ็ง บุบผา รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ รับแจ้งพบศพเด็กสาววัยรุ่น ลอยน้ำมาติดอยู่กลางคลองสำโรง ช่วงตัดกับคลองผู้เฒ่า ถนนเทพารักษ์ ก.ม.22 ซอยซับแดง ต.ศีรษะจระเข้ใหญ่ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ

สภาพศพสวมเสื้อโปโลสีขาว หน้าอกปักตัวหนังสือ Body Glove สวมกางเกงผ้าขายาวลายขาวแดง ช่วงตะเข็บหว่างขาขาดหลุดลุ่ย ไม่สวมชุดชั้นในถูกห่อด้วยผ้าห่มลายสกอตสีดำ ก่อนพันทับด้วยผ้านวมลายขาวเขียว แล้วใช้เชือกมัดถ่วงไว้กับก้อนอิฐเพื่อให้จมน้ำ แต่ศพเด็กสาวยังลอยขึ้นมาติดอยู่กับกองผักตบชวา ราวกับต้องการเรียกร้องหาความยุติธรรม

จากการชันสูตรเบื้องต้นพบต้นขาขวา ด้านหลังมีบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคม 2 แผล ต้นขาขวา 1 แผล คาดว่าเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 3-4 วัน

ตำรวจสอบถามชาวบ้านบริเวณใกล้เคียง และตรวจสอบข้อมูลการแจ้งหายในพื้นที่บางเสาธง ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา ไม่พบมีการแจ้งคนหาย จึงส่งศพไปชันสูตรที่นิติเวชร.พ.ตำรวจ เพื่อหาสาเหตุการตายและร่องรอยการถูกข่มขืน รวมทั้งจะได้ประสานตำรวจท้องที่อื่นให้ช่วยตรวจสอบข้อมูลคนหาย และตรวจสอบพยานแวดล้อมอื่นๆ เพื่อให้รู้ว่า ผู้ตายเป็นใครมาจากไหน

วันรุ่งขึ้นพล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.สุเนตร หอกลาง ผกก.สภ.บางเสาธง ประชุมร่วมกับพ.ต.ท.กานตภณ วรรณา รองผกก.สส. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเพื่อคลี่คลายคดี ขณะที่ผลนิติเวชเบื้องต้นพบว่าเด็กสาวอายุประมาณ 12 ปี เสียชีวิตเพราะขาดอากาศ ส่วนจะถูกขืนใจหรือไม่ยังพิสูจน์ลำบาก เพราะสภาพเน่าเปื่อยมาก ส่วนแผลที่ศพคาดเกิดจากใบพัดเรือ เกิดขึ้นหลังถูกถ่วงน้ำ

ตำรวจระดมกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบ เข้าตรวจค้นภายในโรงงานผลิตรองเท้าและหอพักคนงานแห่งหนึ่งภายในซอยมุมไม้ ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ พร้อมกับเข้าควบคุมแรงงานต่างด้าว ทั้งชายหญิง รวม 22 คน คุมตัวส่งกองพิสูจน์หลักฐาน จ.สมุทรปราการ เพื่อตรวจสอบดีเอ็นเอ หาวัตถุพยานเชื่อมโยงคดี หลังพบว่าโรงงานแห่งนี้สั่งข้าวสารยี่ห้อตรงกับกระสอบข้าวที่คนร้ายใช้บรรจุก้อนหินที่ใช้ถ่วงศพ แต่ก็ยังมืดแปดด้าน

ขณะเดียวกันพล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป.สั่งการให้พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. นำชุดทำงานของกองปราบปราม ลงพื้นที่ประสานข้อมูลกับ สภ.บางเสาธง เพื่อช่วยสืบหาอีกแรงหนึ่ง

หลังเป็นข่าวออกตามสื่อหลักและสื่อโซเชี่ยล ล่าสุดมีน้าสาวมาให้ข้อมูลว่าผู้ตายอาจเป็นด.ญ.พรทิพย์ กุลนานันท์ หรือน้องรุ้ง อายุ 12 ปี หลานสาวที่น.ส.สุภาพร นนทรา อายุ 31 ปี แม่แท้ๆ ไปรับมาจาก จ.ร้อยเอ็ด มาอาศัยในย่านดังกล่าวร่วมอยู่กับสามีใหม่

ตร.ไปตรวจสอบที่บ้านพักของทั้งสองสามีภรรยา แต่ไม่พบตัว ขณะที่ชาวบ้านละแวกบ้านให้การว่า พบเห็นพ่อเลี้ยงทุบตีทำร้ายเด็กหญิงอยู่บ่อยครั้ง

หลังจากเบาะแสคดีชี้ไปที่พ่อเลี้ยง และแม่แท้ๆ ในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวน.ส.สุภาพร ได้ในพื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ก่อนจะสอบสวนขยายผลไปจับกุมนายวจะรัน ทัดสวรรค์ อายุ 34 ปี พ่อเลี้ยง ได้ที่บ้านในพื้นที่ ต.ขุนโขลน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี จึงนำตัวมาเค้นที่ สภ.บางเสาธง

รุ่งขึ้นพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. พร้อมพล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภาค 1 พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผบช. ภาค 1 พล.ต.ต.อำนาจ จันทร์เจริญ ผบก.สส.ภาค 1 พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ รุดไปร่วมสอบปากคำนายวจะรันและน.ส.สุภาพร จนสุดท้ายทั้งคู่รับสารภาพว่าได้พลั้งมือทำร้ายน้องรุ้งจนเสียชีวิต ก่อนนำศพมาถ่วงน้ำอำพรางคดี

ทั้งคู่สารภาพว่า หลังรับด.ญ.พรทิพย์มาอยู่ได้ 3 เดือน ก็เริ่มลงโทษทุบตีเด็กเมื่อช่วงต้นเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา อ้างว่าเพราะเด็กดื้อและชอบโกหก โดยส่วนใหญ่น.ส.สุภาพรเป็นผู้กระทำบางครั้งนายวจะรันจะร่วมด้วย นอกจากนั้นเวลาที่ทั้งคู่ออกไปทำงานจะกักขังเด็กไว้ในห้องพร้อมกับบุตรสาวอายุ 3 ขวบ

ต่อมาเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา น.ส.สุภาพรได้ใช้ไม้ไผ่ตีเข้าไปที่หัวเด็กและตามร่างกาย จนเด็กมีอาการป่วยหน้าบวมจนกินข้าวไม่ได้หลายวัน กระทั่งด.ญ.พรทิพย์เสียชีวิต จึงนำผ้านวมห่อร่างแล้วช่วยกันอุ้มศพขึ้นรถจักรยานยนต์นำไปยังศาลาริมน้ำไม่ห่างบ้านพัก ใช้เชือกมัดมือและเท้า พร้อมนำก้อนหินในบริเวณดังกล่าวใส่ถุงข้าวสารเพื่อถ่วงศพ ก่อนช่วยกันอุ้มศพโยนทิ้งน้ำ จากนั้นกลับไปเก็บข้าวของหนี

สุดท้ายก็ไม่รอด ถูกส่งเข้าไปชดใช้ความผิดในตะรางจนได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน