คอลัมน์ สดจากสนามข่าว : ผ่าชนวนฆ่า-เผา2ศพ หนุ่มประวัติโหดรับสิ้น ชำระแค้นรุมขืนใจเมีย
ผ่าชนวนฆ่า-เผา2ศพ – เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 26 พ.ค. ที่ สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 นำทีมแถลงปิดคดีสยอง ฆ่าเผา 2 ศพ บริเวณชายป่าข้างบ่อขยะเทศบาลนครหาดใหญ่ หมู่ 3 บ้านพรุจูด ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ย้อนไปเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 24 พ.ค. พล.ต.ต.ทิวธวัช นครศรี ผบก.ภ.จว.สงขลา พ.ต.อ.ศักดา เจริญกุล รอง ผบก.สส.ภ.9 พ.ต.อ.อภิชาติ วรรณโก ผกก.สภ.หาดใหญ่ พ.ต.อ.ดุสิต พรหมสิน ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา พ.ต.ท.ธนวัต เส้งสุย รองผกก.สส. และ พ.ต.อ.อภิชาติ วรรณโก ผกก.สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมชุดสืบสวนและผู้เกี่ยวข้อง
เข้าตรวจสอบศพถูกฆ่าแล้วเผา รวม 2 ศพ บริเวณชายป่าข้างบ่อขยะเทศบาลนครหาดใหญ่ หมู่ 3 บ้านพรุจูด ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา อยู่ลึกเข้าไปจากถนนอนุสรณ์ 200 ปี เข้าไปประมาณ 200 เมตร
ที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบศพชาย 2 คน อายุประมาณ 20-25 ปี ถูกมัดด้วยเชือกนอนทับกัน และใช้ไม้จุดไฟเผา โดยศพที่อยู่ข้างล่างถูกไฟไหม้ท่อนล่าง ส่วนศพที่อยู่ข้างบนถูกไฟไหม้ที่ศีรษะ ทั้งสองศพถูกสุนัขที่อยู่บริเวณบ่อขยะเข้ามาแทะ โดยแพทย์ร.พ.หาดใหญ่ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 9 ร่วมชันสูตรศพหาร่องรอยของการถูกทำร้าย และเก็บหลักฐานในบริเวณจุดเกิดเหตุ
สอบถามนายธนพล บัวทอง สมาชิกสภาเทศบาลเมืองควนลัง ซึ่งมาพบศพคนแรก กล่าวว่า มีวัยรุ่นคนหนึ่งเข้าไปเห็น และขับรถไปบอกตนที่บ้านว่ามีคนนอนเสียชีวิตอยู่บริเวณชายป่า แต่ไม่กล้าเข้าไปดู ตนจึงเข้ามาดู และพบศพชายลักษณะถูกมัดรวมกันและจุดไฟเผา จึงแจ้งให้ตำรวจมาดูที่เกิดเหตุ
พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 แถลง
พล.ต.ต.ทิวธวัช สั่งการระดมตำรวจชุดสืบสวนทุกชุด ทั้งของสภ.หาดใหญ่ ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ชุดสืบสวนภาค 9 และตำรวจกองปราบฯ เร่งหาเบาะแสคลี่คลายคดี พร้อมตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในเส้นทางเข้าออกพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อหาเบาะแสของผู้เสียชีวิตทั้งสองคน ขณะที่สาเหตุเจ้าหน้าที่พุ่งเป้าไปที่ความขัดแย้งส่วนตัว และเรื่องธุรกิจผิดกฎหมาย
แม้ศพบางส่วนจะถูกไฟเผาไป แต่ยังโชคดีที่ยังมีรอยนิ้วมือให้ตรวจสอบได้ ทำให้วันรุ่งขึ้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนก็ทราบชื่อผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน คือ นายอนุชา สุภานิตย์ อายุ 27 ปี มีประวัติถูกจับกุมคดียาเสพติดมาแล้ว 3 ครั้ง โดยเป็นชาว อ.หาดใหญ่ และหายตัวไปประมาณ 2-3 วัน เมื่อตรวจสอบกับญาติๆ และเพื่อนๆ นายอนุชาก็ทำให้ทราบว่าผู้ตายอีกคนคือ นายประเสริฐ ธรรมรักษา อายุ 20 ปี
นายวิรัตน์ แก้วทองพันธ์ ถูกจับคาบ้าน
พอรู้ตัวตำรวจชุดสืบสวนเร่งประชุมที่ สภ.หาดใหญ่ เพื่อวางแผนการคลี่คลายคดี และหาเบาะแสของคนร้ายว่ามีความขัดแย้งกับใครบ้าง เชิญญาติหรือเพื่อนสนิทที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันมาสอบสวน ว่าผู้ตายออกจากบ้านไปเมื่อใด ไปพบใคร และมีปัญหากับใครบ้าง เพื่อขยายผลไปยังคนร้ายที่ก่อเหตุ
พลันชื่อของ นายวิรัตน์ แก้วทองพันธ์ หรือแวว อายุ 36 ปี อดีตผู้ต้องหาคดีอุ้มฆ่านายภีรนัฐ ชุมทอง อายุ 22 ปี หรือโอ๊ด ชาว ต.ควนลัง ด้วยการจับยัดท่อเป็นศพเหลือเพียงโครงกระดูก เพราะเข้าใจว่าเป็นสายตำรวจเมื่อปี 60 ก็โผล่ขึ้นมา อีกทั้งยังพบว่าเจ้าตัวต่อสู้จนหลุดคดีออกมาอยู่ในพื้นที่แล้ว แต่ก็ยังมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอยู่
ชุดสืบสวนรีบนำกำลังไปที่บ้านพักเลขที่ 73 หมู่ 4 ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ของนายแววในทันที พร้อมนำตัวมาสอบสวน ขณะที่เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 ก็รวบรวมวัตถุพยานมาตรวจสอบอย่างละเอียด โดยเฉพาะไม้ไผ่ และไม้เทียมที่เก็บได้จากบ้านนายวิรัตน์ ซึ่งเป็นแบบเดียวกันกับที่พบในจุดเกิดเหตุเผาผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน
นายวิรัตน์ให้การยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง แต่ก็ยังให้การวกวน โดยบอกว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุ 3 คนบ้าง 8 คนบ้าง ตำรวจจึงต้องสอบเค้นทั้งคืนพร้อมรวบรวมพยานหลักฐานใช้มัดตัวให้แน่นหนา
กลับมาที่การแถลงข่าว พล.ต.ท.รณศิลป์เปิดเผยชนวนเหตุของคดีสยองครั้งนี้ว่าอาจไม่ใช่เรื่องยา โดยนายวิรัตน์สารภาพว่า แค้นที่ผู้ตายทั้ง 2 กับพวกร่วมกันหลอกภรรยาไปรุมข่มขืนจนสติฟั่นเฟือน
พฐ.หาหลักฐาน
ไม้ไผ่ของกลาง
“วันเกิดเหตุทั้งสองคนมาที่บ้านของนายวิรัตน์ และนายวิรัตน์พูดในทำนองว่ารู้ว่าทั้งสองคนทำอะไรเมียและทั้งสองคนก็ทำสีหน้าเลิ่กลั่ก สุดท้ายนายวิรัตน์ใช้อาวุธปืนจ่อยิงทั้งสองจนตายคาบ้าน ยิงนายอนุชาก่อน และยิงนายประเสริฐตามหลัง ก่อนที่จะนำศพของทั้งสองคนใส่รถกระบะไปเผาอำพรางคดีในที่เกิดเหตุ” พล.ต.ท.รณศิลป์กล่าว
ตำรวจคุมตัวมือปืนโหดไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยเจ้าตัวพูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเพียงสั้นๆ ว่า ยังรู้สึกแค้นผู้ตายและเพื่อนที่ข่มขืนภรรยาตน หากไม่ถูกจับกุมอาจจะมีคนที่ข่มขืนภรรยาตนตายเพิ่มอีก
มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่เตรียมรื้อคดีเก่าที่นายวิรัตน์ตกเป็นผู้ต้องหาอุ้มฆ่านายภีรนัฐ เพื่อมาตรวจสอบดูว่ามีข้อบกพร่องจุดไหนถึงทำให้หลุดและกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก
