คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

สุเชษฐ์ แรกรุ่น

เสียงร่ำไห้คร่ำครวญ ปริ่มว่าจะขาดใจของ นางเอื้อมเดือน มาจุรินทร์ อายุ 50 ปี ขณะที่เจ้าตัวอุ้มลูกน้อยมาดูร่างอันไร้วิญญาณของ นายไชยา อุดม อายุ 53 ปี ผู้เป็นสามี นั้นชวนให้น่าเวทนาสงสารยิ่งนัก

นอกจากร้องไห้คร่ำครวญแล้ว เจ้าตัวยังตะโกนสาปแช่งคนร้ายที่ก่อเหตุให้ได้รับโทษให้ตกนรกหมกไหม้ขอให้ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด คิดไม่ถึงว่าคำสาปแช่งนั้นช่างศักดิ์สิทธิ์เสียเหลือเกิน เพราะอีกไม่กี่วันต่อมา ตร.ก็จับกุมตัวคนร้ายได้ชนิดยกทีม

ย้อนกลับไป เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 19 มิ.ย. ร.ต.อ.วัชรินทร์ คงเพ็ชร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันตายที่วงเวียนนอกไร่ ถนนสายสะพานยาว-ไตรภูมิ ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง ในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช

หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.อดิศักดิ์ เทพวรรณ์ ผกก.สภ.เมือง พ.ต.ท.นิติ บุญจันทร์ รองผกก.สส. ชุดพิสูจน์หลักฐาน แพทย์และมูลนิธิใต้เต็กตึ๊ง

เมื่อไปถึงกลางถนนดังกล่าวพบศพนายไชยา อุดม อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 169/49 ถ.สะพานยาว ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรี ธรรมราช นอนตะแคงเสียชีวิต ในสภาพคร่อมรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีดำ-แดง ทะเบียนป้ายเหลือง กกง-780 นครศรีธรรมราช สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด เข้าขมับซ้ายทะลุขมับขวา จำนวน 1 นัด เลือดท่วมบริเวณดังกล่าว

ที่เกิดเหตุพบ นางเอื้อมเดือน มาจุรินทร์ อายุ 50 ปี ภรรยาของนายไชยา ผู้ตายที่อุ้มลูกสาวเดินทางมายังที่เกิดเหตุ เมื่อเห็นศพถึงกับปล่อยโฮร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ ทั้งสาปแช่งคนร้ายให้ตกนรกหมกไหม้ขอให้ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด

โดยนางเอื้อมเดือนให้การว่า สามีเป็นเอเยนต์ขายลอตเตอรี่รายย่อย และเป็นหัวหน้าวินรถจยย.รับจ้าง คิวหน้าร้านเชาว์เภสัช ซึ่งอยู่ในบริเวณย่านธุรกิจกลางเมืองนครศรีธรรมราช และยังขับรถรับจ้างหารายได้เลี้ยงครอบครัวอีกด้วย

เมื่อเวลา 03.30 น. นายไชยาออกจากบ้านใส่เสื้อวินจยย.รับจ้างขับขี่รถไปรับส่งลูกค้าที่ตลาดสดคูขวาง ต.ท่าวัง อ.เมือง หลังจากนั้นก็ขับกลับเข้ามาบ้านท่าทางลุกลี้ลุกลนแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะ ขี่รถออกไปอีกครั้ง ปรากฏว่าขับรถออกจากบ้านไปไม่ถึง 200 เมตร ก็ถูกคนร้ายตามประกบยิงจนล้มตายคาที่ ส่วนคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทันที

พ.ต.อ.อดิศักดิ์กล่าวว่า จากการสอบปากคำญาติต่างยืนยันว่า นายไชยา เป็นคนตั้งใจทำมาหากินและไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อน ซึ่งจะเร่งสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง และจะติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเร็ว

ชุดสืบสวนไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดใกล้จุดเกิดเหตุ ที่จับรูปพรรณคนร้ายและรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุได้ชัดเจน รวมถึงสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ จนทราบว่ามือปืนคือนายจีรศักดิ์ ศรีสมโภชน์ อายุ 39 ปี จึงรวบรวมหลักฐานขอหมายจับจากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ก่อนจับกุมนายจีรศักดิ์ได้เป็นคนแรก สอบ สวนจนรับสารภาพแต่อ้างว่าเป็นเพียงคนขี่รถจักรยานยนต์เท่านั้น พร้อมซัดทอดถึงผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด

ถ้อยคำสารภาพทำให้เจ้าหน้าที่ตะลึง เนื่องจากผู้ต้องหาซัดทอดว่านางเอื้อมเดือนภรรยาผู้ตายเป็นผู้จ้างวานให้ลงมือสังหารผัว ตัวเอง เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมขอหมายจับผู้ต้องหาที่เหลือประกอบด้วย นายนิคม จันทร์เกิด อายุ 54 ปี ผู้จัดหามือปืน นายจำนงค์ จันทร์เกิด อายุ 52 ปี คนชี้เป้า นางเอื้อมเดือน ในฐานะผู้จ้างวาน ก่อนจับกุมได้ทั้งหมด

พ.ต.อ.อดิศักดิ์ เทพวรรณ์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สอบปากคำนางเอื้อมเดือน โดยเจ้าตัวให้การปฏิเสธ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่แสดงหลักฐานเป็นภาพขณะพบกับมือปืน ข้อมูลในโทรศัพท์มือถือที่ติดต่อกับทีมฆ่า และหลักฐานการโอนเงินค่าว่าจ้าง เจ้าตัวจึงยอมรับสารภาพในที่สุด

นางเอื้อมเดือนให้การว่า โกรธแค้นผู้ตายที่มักทำร้ายร่างกายเป็นประจำ เคยเอ่ยปากขอเลิกหลายครั้งแต่ไม่เป็นผล จึงเก็บสะสมเป็นความแค้นไว้มาตลอด สุดท้ายจ้างเลิกผู้ตายด้วยเงิน 1 แสนบาท ผู้ตายก็ยังไม่ยอม ทั้งยังถูกทำร้ายร่างกายอีก จึงตัดสินใจนำเงินจำนวนดังกล่าว ไปจ้างทีมมือปืนมาฆ่าสามีแทน โดยจ่ายเงินมัดจำให้ 5 หมื่นบาท เมื่อลงมือสำเร็จจึงโอนเงินที่เหลือให้ทีมฆ่าอีก 5 หมื่นบาท

ขณะที่ผู้ต้องหาที่เหลือก็รับสารภาพเช่นเดียวกัน เหลือเพียงนาย จีรศักดิ์ที่ยืนยันว่า ทำหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์รับมือปืนหนีจากที่เกิดเหตุเท่านั้น แต่ตำรวจมั่นใจมีพยานหลักฐานแน่น พอที่มัดตัวนาย จีรศักดิ์ว่าเป็นคนยิงและทำหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์เองด้วย

จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี

แม้นจะเลิกกับสามีได้สำเร็จ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยอิสรภาพของตนและชีวิตลูกน้อยที่ต้องพลอยมารับผลกระทบจากการกระทำของผู้เป็นแม่ไปด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน