คอลัมน์ สดจากสนามข่าว : เกาะติดกองปราบฯจับสมี ลักเสพเมถุน-เมียชาวบ้าน คากุฏิวัดดังเมืองกาญจน์!!
เกาะติดกองปราบฯจับสมี – อาบัติปาราชิก ทั้ง 4 ที่เป็นอาบัติหนัก เรียกว่า อเตกิจฉา คือแก้ไขไม่ได้เลย ประกอบด้วย เสพเมถุน, ถือเอาทรัพย์ที่เจ้าของไม่ได้ให้มาเป็นของตน, พรากกายมนุษย์จากชีวิต และกล่าวอวดอุตริมนุสธรรมที่ไม่จริง
นับเป็นข้อห้ามสำคัญที่พระภิกษุสงฆ์ต้องถือละเว้น
ลาสิกขาต่อพระโสภณกาญจนาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอเมืองกาญจนบุรี
แต่…
ทุกวันนี้กลับมีข่าวคราวฉาววงการสงฆ์อยู่อย่างต่อเนื่องถึงการกระทำอันเป็นอาบัติปาราชิก ทั้ง 4
เสพเมถุน ระหว่างภิกษุและสีกาก็เห็นกันบ่อย เคยเป็นข่าวครึกโครมมาก็ไม่น้อย
พระสงฆ์นามอุโฆษชื่อกระเดื่องจำนวนหนึ่งต่างต้องตกม้าตายกลายเป็น สมี ท่ามกลางความตกตะลึงของเหล่าสาวกอุบาสก-อุบาสิกาอย่างไม่คาดฝัน
บทเรียนในอดีตคงไม่เคยแทรกเข้าไปอยู่ในรอยหยักของสมองของบรรดาเหลือบริ้นวงการผ้าเหลือง ทำให้ยังมีเหตุสร้างความมัวหมองให้พระพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่องไม่เคยจางหาย
ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป.สั่งการ พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ต.เกริก เสนาะสำเนียง สว.กก.5 บก.ป. พร้อมนายสหัส บรรจงเมือง นักวิชาการศาสนาชำนาญการพิเศษ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
นำกำลังเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเรื่องร้องเรียนพระสรรเสริญ หรือนายสรรเสริญ กระต่ายทอง อายุ 41 ปี เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งใน ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ลอบนำสีกาเข้ามามีเพศสัมพันธ์ภายในกุฏิ ผิดวินัยสงฆ์ต้องอาบัติปาราชิก
อุปกรณ์ทำความผิด
การสนธิกำลังเข้าตรวจค้นวัดครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา มีชายวัย 50 ปี เข้าร้องทุกข์ที่กองบังคับการปราบปราม ว่า ภรรยาอายุ 44 ปี ซึ่งปกติชอบเข้าวัดทำบุญทำทาน เมื่อเดือนส.ค. 62 ไปร่วมงานบุญที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.บางแพ จ.ราชบุรี และได้ไปพบกับพระสรรเสริญ
เมื่อสนทนาจนถูกคอกันออกปากเชื้อเชิญให้ภรรยาไปทำบุญที่วัดที่พระสรรเสริญเป็นเจ้าอาวาสบ้าง ภรรยาจึงไปตามคำเชื้อเชิญ
หลังจากนั้นภรรยาไปวัดดังกล่าวถี่ยิบชนิดผิดวิสัยปุถุชน อ้างว่าไปงานกฐิน งานผ้าป่า หรืองานวัดต่างๆ
แม้ภรรยาจะพาลูกสาววัย 14 ปี ไปเป็นเพื่อนด้วยทุกครั้ง แต่ผู้สามีก็รู้สึกถึงความผิดปกติจึงสอบถามลูกสาวจนได้ความว่า ทุกครั้งที่แม่ไปหาพระสรรเสริญจะเข้าไปขลุกอยู่ในกุฏิสองต่อสองนานนับชั่วโมง โดยให้ลูกสาวนั่งอ่านหนังสืออยู่ด้านนอกเท่านั้น
ทำให้ผู้สามีจึงขอร้องให้ลูกสาวช่วยแอบมองเข้าไปในกุฏิของพระสรรเสริญขณะที่อยู่กับมารดา ทำให้เห็นว่าทั้งสองกำลังมีเพศสัมพันธ์กัน
หลังจากทราบความจริงแล้ว เห็นว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม จึงเข้ามาร้องเรียนให้กองปราบปรามช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง
เจ้าหน้าที่เริ่มสืบหาเบาะแสกระทั่งพบว่าข้อมูลของชายที่มาร้องทุกข์นั้นมีมูล จึงวางแผนให้สามีแจ้งเจ้าหน้าที่ถึงวันที่ภรรยามีกำหนดนัดไปพบพระสรรเสริญ
เค้นสอบจนรับสารภาพ
คล้อยหลังหญิงสาวดังกล่าวหายเข้าไปในกุฏิของพระสรรเสริญไม่นาน เจ้าหน้าที่ซึ่งแฝงตัวเฝ้าจับตาอยู่ จึงแสดงตัวบุกเข้าไปภายในกุฏิก็พบกับภาพพระสรรเสริญในขณะกำลังมีเพศสัมพันธ์กับหญิงรายดังกล่าวภายในกุฏิจริง จึงคุมตัวทั้งคู่เค้นสอบปากคำ
เมื่อเรื่องคาวโลกีย์ครั้งนี้แดงขึ้นมาต่อหน้าต่อตาตำรวจ พระสรรเสริญก็ไร้ซึ่งคำปฏิเสธ ยอมรับสารภาพแต่โดยดี และขอยินยอมสึกจากสมณเพศ โดยขอเดินทางไปสึกกับพระโสภณกาญจนาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอเมืองกาญจนบุรี ที่วัดไชยชุมพลชนะสงคราม
หลังจากสึกแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้ปล่อยตัวนายสรรเสริญไป เพราะเป็นความผิดทางศาสนา โดยนายสรรเสริญไม่สามารถกลับมาบวชได้อีกแล้ว เพราะต้องอาบัติปาราชิก
ชาวบ้านต่างตกใจเมื่อทราบข่าว
ขณะที่ชาวบ้านข้างเคียงต่างตกใจกับข่าวที่เกิดขึ้นชนิดตั้งตัวไม่ทัน หลายคนเดินทางมารวมตัวกันที่วัด พร้อมจับกลุ่มพูดคุยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นและไม่คิดว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นความจริง เพราะที่ผ่านมาอดีตเจ้าอาวาสถือเป็นพระที่ดี มีความใกล้ชิดกับชาวบ้าน และเป็นพระนักพัฒนา นำความเจริญมาสู่วัดและชอบช่วยเหลือชาวบ้าน
แต่สุดท้ายพระน้ำดีในสายตาชาวบ้านก็ไม่อาจละซึ่งกิเลสตัณหา ที่ สมณเพศ ควรพึงยึดปฏิบัติเป็นไปได้
