คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ณเดช โรจนประดิษฐ์

อดิษัยต์ พรวนพิมพ์

เรื่อง/ภาพ

ธรรมชาติของเรื่องโกหก มักมีความไม่สมจริง ไม่สมเหตุผลให้ถูก จับได้อยู่เสมอ เมื่อเราโกหกเรื่องใด เรื่องหนึ่ง ก็จะต้องพูดโกหกอีก เพื่อปกปิดเรื่องโกหกที่เคยพูดเอาไว้ แต่สุดท้ายแล้วความจริงก็ย่อมถูกเปิดเผยเข้าสักวันหนึ่ง

เช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อเวลา 03.00 น. ของวันที่ 2 ก.ค. เมื่อ ร.ต.ท. กมลเทพ สมบัติ รองสารวัตร(สอบสวน) สน.บางเขน รับแจ้งเหตุพบหญิงสาวร้องขอความช่วยเหลือถูกคนขับรถแท็กซี่ลวนลาม ก่อนจะหลบหนีมา ขอความช่วยเหลืออยู่บริเวณหน้าทางเข้ากรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.

ร.ต.ท.กมลเทพรีบรายงานให้ ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.อนันต์ วรสาตร์ สวป.สน.บางเขน และตำรวจฝ่ายสืบสวน

เมื่อไปถึงก็พบหญิงสาวผู้เสียหาย ยืนรออยู่สภาพเสื้อผ้าเปื้อนมอมแมม สอบสวนทราบชื่อว่า น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 20 ปี พร้อมให้การ เบื้องต้นว่า เดินทางมาจาก จ.สุโขทัย เพื่อมาสอบเข้าเป็นพนักงานราชการแห่งหนึ่ง

ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณตีสองได้โบกเรียกรถแท็กซี่ จากปากซอยสายไหม 63 ไปขนส่งหมอชิตเพื่อขึ้นรถกลับบ้านช่วงเช้า โดยรถแท็กซี่วิ่งมาทางถนนวัชรพลออกถนนรามอินทรามุ่งหน้าวงเวียนบางเขน เมื่อถึงบริเวณใต้สะพานลอยคนข้ามหน้าสนามกอล์ฟกองทัพบก

คนขับรถได้จอดรถริมถนนแล้วปีนข้ามมาด้านหลังใช้กำลังพยายามลวนลามถอดเสื้อแล้วยังรื้อค้นกระเป๋าสะพายหยิบเงินไป 2,350 บาท ตนตกใจกลัวพยายามต่อสู้ขัดขืนและเปิดประตูโดดลงจากรถวิ่งหนีร้องขอความ ช่วยเหลือจากทหาร ระหว่างนั้นรถแท็กซี่ก็ขับหลบหนีไป โดยจำทะเบียนได้เพียง 6240 คนขับอายุประมาณ 50 ปี

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นผู้เสียหายขอกลับไปดูแลแม่ป่วยที่สุโขทัยก่อน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารจึงช่วยเหลือออกเงินค่ารถให้ ก่อนพาไปที่ขนส่งหมอชิต 2

หลังเกิดเหตุชุดสืบสวนไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ตรงบริเวณเกิดเหตุและใกล้เคียง ตามช่วงเวลาที่เหยื่อสาวให้การ แต่กลับไม่พบรถแท็กซี่ตามที่เจ้าตัวให้ข้อมูล จนเกิดเป็นข้อพิรุธประการหนึ่ง

อีกทั้งต่อมายังมีนายสมาชาญ ธีระสมบูรณ์ คนขับรถแท็กซี่ สีเขียว ทะเบียน ทศ 6240 กทม. เดินทางมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่น.ส.เอ อ้าง

บ่ายวันเดียวกัน ที่ สน.บางเขน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปราศรัย จิตตสนธิ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน พ.ต.ท.ปรเมศ โพยนอก รองผกก.สส. พ.ต.ท.เสน่ห์ มณีฉาย สว.สส. จึงตามตัวน.ส.เอ กลับมาสอบปากคำอย่างละเอียด อีกครั้ง

ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ในที่สุดเจ้าตัวก็ยอมรับสารภาพว่าเป็นคนแต่งเรื่องขึ้นมาเองว่าถูกแท็กซี่ลวนลาม เจ้าหน้าที่ จึงแจ้งข้อหาแจ้งความเท็จพร้อมส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย

น.ส.เอรับสารภาพว่า เดินทางมาสอบข้าราชการจริงพักอยู่แถวจรัญสนิทวงศ์ ก่อนจะเดินทางมาเก็บเสื้อผ้าบางส่วนที่บ้านญาติซึ่งเคยพักอาศัยที่ซอยสายไหม จากนั้นจึงจะ เดินทางไปหมอชิตเพื่อกลับบ้านที่ ต่างจังหวัด

ส่วนที่สร้างเรื่องขึ้นเนื่องจากหวัง ที่จะนำเงินไปช่วยจ่ายหนี้ธนาคารให้ แม่ที่ต่างจังหวัด โดยหวังว่าจะมีคนช่วยเหลือ แต่ได้เงินมาจากทหาร และตำรวจ ที่ช่วยกันบริจาคเพียง 300 บาท

“หนูอยากจะขอโทษพี่แท็กซี่ที่ทำให้เดือดร้อน ขออภัยเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยค่ะ” น.ส.เอกล่าว

นายสมาชาญกล่าวว่า หลังมีข่าวออกไปทำให้ตนประสบปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขับรถหาเงิน รวมถึงการทำให้ตนทะเลาะกับแฟน วันนี้จึงตัดสินใจเดินทางเข้ามาแสดงความบริสุทธิ์ใจ

“วันเกิดเหตุผมยืนยันว่าไม่ได้ขับรถผ่านเส้นทางสายไหมเลย อีกทั้งยังไม่เคยพบหรือรับผู้ที่กล่าวอ้างว่าผมเป็นคนร้าย อย่างไรก็ดีเมื่อทราบความจริงผมก็สบายใจขึ้นอยากฝากถึงน้องไม่ให้ไปทำแบบนี้กับใครอีก” นาย สมาชาญกล่าว

ขณะที่พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นตำรวจ ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อทำให้ความจริงปรากฏและเคสนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ไม่ควรทำ นอกจากจะทำ ให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายแล้วยังจะทำให้ตนเองถูกดำเนินคดีด้วย

ผบช.น.ยังฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ เมื่อความจริงปรากฏออกมา เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องดำเนินคดีกับผู้แต่งเรื่อง ขึ้นมา ในข้อหาแจ้งความเท็จ เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับ ความเสียหาย ไม่สามารถละเว้นได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน