คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ภูษณิศา สัญญารักษกุล

เรื่อง/ภาพ

ความรักที่ไม่สมหวัง จนเกิดเป็นความแค้น ถ้าข้าไม่ได้ใครก็อย่าหวังจะได้ เช่นนั้นหาใช่ความรักไม่ มันเป็นแค่ความเห็นแก่ตัว ต้องการที่จะครอบครอง เมื่อมีความคิดเช่นนี้จึงไม่แปลกใจที่คดีพิศวาสฆาตกรรม ที่มีปมเหตุจากความไม่สมหวัง มีให้เห็นเป็นข่าวอยู่เป็นระยะๆ

เช่นเหตุสลดที่เกิดขึ้นเมื่อหัวค่ำวันที่ 8 ก.ค. พ.ต.อ.ไพโรจน์ เอียงพยุง ผกก.สภ.เวียงมอก อ.เถิน จ.ลำปาง นำกำลังเข้าตรวจสอบภายในบ้านเลขที่ 135 บ้านแม่มอกกลาง หมู่ที่ 2 ต.แม่มอก อ.เถิน จ.ลำปาง ภายหลังจากรับแจ้งว่ามีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงกันที่บ้านหลังดังกล่าวจนมีผู้บาดเจ็บสาหัส

เมื่อไปถึงพบเป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูง จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณม้านั่งกินข้าวใต้ถุนบ้าน โดยเจ้าของบ้านช่วยกันจับกุมตัวนายพงษ์สุวรรณ ติ๊บปะสอน อายุประมาณ 30 ปี ซึ่งเป็นคนร้ายเอาไว้ได้ ในสภาพสะบักสะบอม พร้อมด้วยอาวุธปืนยาว ขนาด .22 ที่ใช้ก่อเหตุ

ขณะที่ผู้บาดเจ็บเป็นหญิงสาว ทราบชื่อคือ น.ส.นันทรัตน์ จองมล หรือครูอิง อายุ 23 ปี ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่สีข้าง กระสุนฝังในบาดเจ็บสาหัส ญาติได้นำตัวส่ง ร.พ.เถิน ไปก่อนที่ตำรวจจะไปถึง แต่น่าเศร้าที่เจ้าตัวเสียชีวิตหลังจากถึงมือแพทย์ได้ไม่นาน

ขณะที่จากการสอบสวน นายธวัช จองมล อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นพ่อของ น.ส.นันทรัตน์ ได้ความว่า ลูกสาวเรียนจบจากคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และเพิ่งได้รับการบรรจุเป็นครูผู้ช่วย อยู่ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา

ก่อนเกิดเหตุลูกสาวกลับมาทำบุญเข้าพรรษาที่บ้าน ขณะกำลังนั่งล้อมวงกินข้าวกันอยู่ทั้งครอบครัวที่ใต้ถุนบ้าน นายพงษ์สุวรรณ ซึ่งเป็นญาติ กันและปลูกบ้านอยู่ไม่ไกลกัน ได้เดินเข้ามาหาพร้อมถือปืนมาด้วย โดยไม่พูดพร่ำทำเพลงนายพงษ์สุวรรณยกปืนเล็งยิงใส่ น.ส.นันทรัตน์ 1 นัด ถูกเข้าบริเวณสีข้างจนเจ้าตัวทรุดตัวลงกับพื้น

ญาติๆ ที่อยู่ด้วยจึงช่วยกันนำตัวขึ้นรถไปส่งโรงพยาบาล ขณะที่นายพงษ์สุวรรณ ก็ถูกรุมจับตัวเอาไว้ได้ ก่อนจะเกิดชุลมุนขึ้น จนสุดท้ายนายพงษ์สุวรรณถูกทำร้ายบาดเจ็บ

อาการของนายพงษ์สุวรรณนั้นสาหัสเอาการอยู่ โดยแพทย์พบว่าบริเวณกรามหัก ศีรษะและใบหน้าบวมปูดทั้งหมด ถูกส่งรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ชั้น 4 ร.พ.เถิน อาการโดยรวมยังไม่พ้นขีดอันตราย ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ตลอดเวลา โดยจะต้องสแกนสมองอย่างละเอียดอีกครั้ง

ผกก.สภ.เวียงมอก เปิดเผยปมเหตุของคดีว่า มาจากเรื่องชู้สาว โดยจากการสอบสวนทราบว่า นายพงษ์สุวรรณ เคยไปทำงานต่างประเทศ มีเมียเป็นคนอีสาน มีลูก 1 คน ก่อนจะแยกทางกัน โดยเมียเอาลูกไปเลี้ยง จากนั้นเจ้าตัวจึงกลับมาบ้านเกิดที่ จ.ลำปาง

มาซื้อที่ดินปลูกบ้านอยู่ข้างบ้าน เนื่องจากทั้งคนร้ายและครูสาว ผู้ตายเป็นญาติกัน โดยแม่ของนายพงษ์สุวรรณ เป็นยายของ น.ส. นันทรัตน์ แต่ต่อมานายพงษ์สุวรรณกลับมาชอบพอ น.ส.นันทรัตน์ พยายามตื๊อมาแล้วหลายครั้งแต่ฝ่ายหญิงสาวไม่สนใจ

นายพงษ์สุวรรณไม่พอใจมากถึงกับขู่ว่า จะฆ่าให้ตาย แต่ทางฝ่ายครอบครัวผู้ตายไม่คิดว่าจะทำจริง ก่อนที่จะเกิดเหตุนายธวัช จองมล พ่อของ น.ส.นันทรัตน์ ก็เคยเห็นผู้ต้องหาแวะเวียนมาแถวหน้าบ้านอยู่บ่อยครั้ง คาดว่าจะมาดูลาดเลาว่าผู้ตายเดินทางกลับมาหรือยัง กระทั่งพบว่ากลับมาแล้ว จึงเดินเข้าไปก่อเหตุดังกล่าว

ด้านนายพงษ์สุวรรณยังไม่สามารถให้การใดๆ ได้ ยังนอนอยู่ในห้องไอซียู โดยได้ให้เจ้าหน้าที่คอยสับเปลี่ยนกันเฝ้าดูอยู่ ขณะที่พนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดลำปาง ออกหมายจับในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา”

หากพ้นขีดอันตรายแล้ว จะต้องนำตัวนายพงษ์สุวรรณไปสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขณะที่ศพของครูอิง ทางครอบครัวนำกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านที่เกิดเหตุ โดยจะมีพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 13 ก.ค.

นายธวัช พ่อของ น.ส.นันทรัตน์ เปิดเผยระหว่างจัดพิธีศพให้ลูกสาวว่า จริงๆ แล้วครอบครัวของตนเองกับนายพงษ์สุวรรณ ก็ถือว่าเป็นญาติกัน มีอะไรก็มาปรึกษาหารือตลอด ตนก็ให้ความเอ็นดูเหมือนลูกหลานคนหนึ่ง ส่วนลูกสาวของตนก็เปรียบเสมือนหลานของนายพงษ์สุวรรณ และไม่ได้คิดเกินเลยอะไรไปมากกว่าคำว่า อา หลาน

ขณะนี้ตนเองและครอบครัวยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันรวดเร็วเกินไป เคยเห็นแต่ข่าวในทีวี ไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นกับครอบครัวของตัวเอง จึงอยากจะฝากถึงคนในสังคมยุคนี้ว่า

“ผมเคยผ่านชีวิตการเป็นวัยรุ่นมาก่อน เข้าใจว่าความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม ดีงาม แต่ก็ย่อมมีสมหวังและผิดหวังบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่ทำไมความรักของคนในยุคปัจจุบันถึงได้รุนแรงมากขนาดนี้ หากไม่สมหวังถึงกับต้องฆ่าต้องแกงกันเลยหรือ เคยคิดถึงหัวอกคนที่เป็นพ่อเป็นแม่บ้างไหม ว่าจะทรมานแค่ไหนที่ต้องเห็นลูกตัวเองถูกยิงตายต่อหน้าต่อตา หวังว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะสะท้อนถึงความสูญเสีย และให้ทุกคนรู้จักความยั้งคิดได้บ้าง แม้ว่าผมเพิ่งจะสูญเสียลูกสาวอันเป็นที่รัก และเป็นอนาคตของครอบครัวไป จะทุกข์ทรมานแค่ไหนก็ตาม ก็พร้อมอโหสิกรรมให้ ส่วนในเรื่องของคดีก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ” นายธวัชกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ

เพราะมันไม่ใช่ความรัก แต่เป็นความเห็นแก่ตัว ถึงมีจุดจบที่เศร้าสลดเช่นนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน