คอลัมน์ สดจากสนามข่าว : ตามตร.ปิดคดีโจรแม่ลูก มอมยาพระ-ฉกทรัพย์ อ้างหาเงินรักษาโรคจิต
ตามตร.ปิดคดีโจรแม่ลูก – “ฉันก็รู้ว่าการก่อเหตุครั้งนี้มันบาป แต่ฉันก็อยากมีเงินไปรักษาลูก” คำสารภาพของ นางชยาพร (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี หลังพาลูกชายตระเวนก่อเหตุมอมยาพระสงฆ์ก่อนฉกทรัพย์
เรื่องราวของ 2 แม่ลูกผู้ไม่กลัวบาปกรรมคู่นี้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ภายหลังพระอธิการพุชงค์ ญาณพุฒ อายุ 59 ปี เจ้าอาวาสวัดวังหินแรง ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ตำบลสำนักขุนเณร อำเภอดงเจริญ จังหวัดพิจิตร เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.เสงี่ยม สาดชัยภูมิ ร้อยเวร สภ.ดงเจริญ
ว่าถูกคนร้ายคาดว่า น่าจะเป็นแม่ลูกกัน นำเครื่องดื่มซึ่งผสมยานอนหลับมาถวายและได้ชิงเงิน และพระเครื่องเกจิชื่อดังนับ 10 องค์ หนีไปอย่างลอยนวล
พระอธิการพุชงค์ ญาณพุฒ ให้การ
พระอธิการพุชงค์ให้การว่า ช่วงเวลาประมาณ 10.30-11 โมง ของวันที่ 22 มิถุนายน เป็นช่วงเวลาก่อนจะเพลได้มี 2 คนร้าย เป็นชายและหญิงอายุประมาณ 35-40 ปี ลักษณะรูปร่างท้วม ฝ่ายหญิงใส่เสื้อสีแดง และผู้ชายใส่เสื้อสีน้ำเงิน อายุ 20-25 ปี สวมหน้ากากอนามัย
ทั้งคู่น่าจะเป็นแม่-ลูกกัน ขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า แบบผู้หญิงสีแดงคาดขาว ไม่ปิดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาทำบุญที่วัด แสร้งทำทีว่ามาถวายสังฆทาน ซึ่งมีทั้งนมชาเขียวซึ่งใส่ถุงมาถวาย ซึ่งด้วยกิจของสงฆ์จึงต้องรับของที่โยมมาถวาย
จากนั้น หญิงคนร้ายได้ขอให้ดื่มชาเขียวโดยอ้างว่าจะได้บุญ ซึ่งไม่สามารถขัดได้จึงดื่มไปนิดเดียวปรากฏว่าได้เพียง 1-2 นาที ปรากฏว่ามีอาการมึนงงอยากที่จะหลับ ขณะที่ทั้ง 2 คนก็นั่งมองอยู่ จึงรู้ตัวว่าถูกวางยา เลยรีบวิ่งเข้าไปในกุฏิและล็อกกุญแจแล้วก็หลับไปเลย
ตร.ตรวจที่เกิดเหตุ
มารู้สึกตัวอีกที เวลา 18.30 น. พบประตูกุฏิถูกงัดจนพังเสียหาย พบว่าพระเครื่องและอังสะที่อยู่บนหัวเตียงหายไป ซึ่งในอังสะมีเงินอยู่จำนวน 50,000 บาท พระหลวงพ่อเงิน วัดบางคลานเก่าแก่ หลวงพ่อเขียน และพระอีกจำนวนเกือบ 10 องค์
พ.ต.ท.สายชล บัวเถื่อน สารวัตรสืบสวน สภ.ดงเจริญ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบพระเครื่องที่คนร้ายทิ้งหรือทำร่วงอยู่บริเวณอ่างเลี้ยงเต่า จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ตำรวจยังได้รับแจ้งจากเจ้าอาวาสวัดอีก 2 แห่ง
คือ วัดทุ่งตับเต่า พื้นที่ตำบลวังสำโรง อำเภอบางมูลนาก และวัดวังงิ้ว พื้นที่ตำบลวังงิ้ว อำเภอดงเจริญ ว่าถูกกลุ่มคนร้ายที่คาดว่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันเข้าไปก่อเหตุ โดยที่วัดวังงิ้วคนร้ายยังไม่ได้ก่อเหตุเนื่องจากพระสงฆ์ไม่รับของทำบุญ ส่วนที่วัดทุ่งตับเต่า คนร้ายผสมยานอนหลับกับเครื่องดื่มโอวัลตินให้กับพระสงฆ์ ก่อนที่จะขโมยเงินไป 600 บาท
ภาพวงจรปิด
หลังสอบสวนตำรวจจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางถนน และตามร้านขายของที่คนร้ายได้ซื้อของนำมาถวายวัด เพื่อหาตัวคนร้ายใจบาปคู่นี้อย่างเร่งด่วน
ผ่านไปเพียวชั่วข้ามวันคนร้ายก็จนมุม พ.ต.อ.กิตติพงษ์ สุวรรณ ผกก.สภ.ดงเจริญ พร้อมด้วย พ.ต.ท.สายชล บัวเถื่อน สารวัตรสืบสวน สภ.ดงเจริญ พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.ดงเจริญ ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด
จนรู้ตัวคนร้ายทั้ง 2 คน จึงนำกำลังเข้าไปจับกุมตัวนางชยาพร (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี กับนายสุรชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี ได้ที่บ้านในตำบลภูมิ อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร ขณะนั่งอยู่ในบ้าน พร้อมของกลางเป็นเงินสด 45,000 บาท สลากกินแบ่งรัฐบาล 3 ใบ เสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุ รถจักรยานยนต์ ซูซูกิ สแมช สีแดง คันก่อเหตุ ก่อนนำตัว 2 แม่ลูก มาดำเนินคดี ที่ สภ.ดงเจริญ ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ และทำลายทรัพย์สิน”
นำชี้ที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวน นางชยาพรให้การว่า ตนพร้อมนายสุรชัย ลูกชายมีอาการป่วยจิตเภท รักษาตัวอยู่ที่ร.พ.พิจิตร แต่อาการของตนเป็นไม่มากเท่าลูกชายซึ่งรักษา ไม่หายเสียทีกลับหนักขึ้นทุกวัน ประกอบกับมีคนแนะนำให้ไปรักษาที่ ร.พ.นครสวรรค์ จึงอยากนำลูกไปรักษา แต่ปรากฏว่าเงินไม่มี จึงตัดสินใจตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์พระ
โดยเอายาที่ร.พ.ให้มาบดใส่กับชาเขียวและโอวัลตินใส่ให้พระดื่ม เมื่อเห็นพระหลับแล้วจึงเข้าไปลักเงิน ตนเองทำแค่ 2 วัด การก่อเหตุครั้งนี้รู้ว่ามันบาป แต่อยากมีเงินไปรักษาลูก ตนไม่เคยทำมาก่อน เพิ่งทำครั้งนี้
ขอขมาเจ้าอาวาส
ผกก.สภ.ดงเจริญ เผยว่าหลังเกิดเหตุ ได้ส่งชุดสืบสวนออกตามจับคนร้ายโดยดูจากกล้องวงจรปิด จึงรู้ตัวคนร้าย จึงนำกำลังเข้าไปจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คนซึ่งเป็นแม่ลูกกัน ได้ที่บ้านพร้อมของกลางไม่ว่าจะเป็นเงิน หรือสลากกินแบ่งรัฐบาล และรถจักรยานยนต์คันก่อเหตุ เสื้อผ้า
ส่วนการดำเนินคดี ผู้ต้องหาทั้ง 2 ที่อ้างว่า ป่วยเป็นโรคจิตเภทนั้น ขณะที่ก่อเหตุสติยังดีอยู่พูดรู้เรื่องดังนั้นในเบื้องต้นซึ่งผู้ต้องหา ทั้ง 2 ให้การรับสารภาพ ประกอบกับทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้ว ตำรวจจึงได้ตั้งข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์และทำลายสิ่งขวางกั้น” ก่อนคุมตัวดำเนินคดีต่อไป
