คอลัมน์ สดจากสนามข่าว : ผ่าคดีช็อก!แทงพ่อเจ้าบ่าว ตายคาขบวนแห่ขันหมาก มือมีดรับ-ไม่ชอบเพลงดัง – โดย…เรืองรุจ วังแจ่ม

มือมีดรับ-ไม่ชอบเพลงดังผ่านมา 7 ปีแล้วแต่ชาวบ้านหมู่ 8 ต.เมืองแก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ต่างต้องระมัดระวังทุกครั้งที่จัดงาน เพราะยังหวาดระแวงต่อพฤติกรรมของนายหวัน ชินเกศ อายุ 65 ปี

คนในหมู่บ้านที่มีพฤติกรรมประหลาด มักจะคลุ้มคลั่งหากใครเปิดเพลงเสียงดัง โดยเฉพาะหากเพลงนั้นไม่ใช่เพลงหมอลำ คลุ้มคลั่งขนาดไหน ก็ขนาดที่ฆ่าคนตายจนถูกจับติดคุกมาแล้ว

แล้วสิ่งที่ชาวบ้านกลัวก็เกิดเป็นจริงขึ้นจนได้ โดยเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ร.ต.อ.ไพโรจน์ ด้ายรินรัมย์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีเหตุแทงกันได้รับบาดเจ็บสาหัส ผู้บาดเจ็บถูกส่งมาที่โรงพยาบาลสตึก

จึงรุดไปตรวจสอบ พบผู้บาดเจ็บ ชื่อนายสำรวย มาดี อายุ 51 ปี สภาพไม่ได้สติ แพทย์ตรวจสอบพบว่าไม่มีชีพจร จึงช่วยกันปั๊มหัวใจนานกว่า 30 นาที แต่ไม่เป็นผลคาดว่าเสียชีวิตมาตั้งแต่ที่เกิดเหตุ ญาติที่ตามมาส่งที่โรงพยาบาลต่างร่ำไห้เสียใจ

ยกเลิกงานแต่ง

สอบถามนายอุดร วรรณสาร อายุ 38 ปี ผู้อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า วันนี้เป็นวันแต่งงานของนายประเสริฐ มาดี อายุ 20 ปี ลูกชาย ผู้เสียชีวิต โดยตอนเช้าตนไปร่วมขบวนแห่ขันหมาก ซึ่งจะแห่ไปที่บ้านเจ้าสาวที่บ้านลิ้นเกี่ย ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์

ก่อนขบวนขันหมากจะออก มีญาติมารวมตัวกันประมาณ 50 คน แล้วเปิดเพลงเพื่อสร้างความครึกครื้น ทันใดนั้นได้มีนายหวัน ชินเกศ อายุ 65 ปี ชาวบ้านละแวกดังกล่าวปั่นจักรยานมาจอดหน้าขบวนขันหมาก ทำให้ญาติและชาวบ้านที่เห็นต่างวิ่งหนีกระเจิง เพราะนายหวันเคยฆ่าคนเสียชีวิตมาแล้วเพราะไม่ชอบเสียงเพลง

รีบนำส่งร.พ.

นายหวั่นซึ่งถือมีดอยู่ในมือปรี่เข้าไปแทงนายสำรวยทันทีมีการต่อสู้กันเล็กน้อย ก่อนชาวบ้านจะเข้ามาช่วยรุมประชาทัณฑ์ แล้วมัดมือมัดเท้านายหวัน ติดกับต้นไม้ ก่อนจะนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลแต่ก็มาเสียชีวิตเสียก่อน

สำหรับนายหวัน ชินเกศ เคยติดคุกมาแล้วในคดีฆ่าคนตาย เพิ่งพ้นโทษ และชาวบ้านรู้กันดีว่านายหวันป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และไม่ชอบเสียงเพลงโดยจะเลือกทำร้ายเจ้าภาพงานที่ทำให้เกิดเสียงเพลงเป็นหลัก

นายหวัน ชินเกศ ถูกจับ

ต่อมาเจ้าหน้าที่เดินทางไปรับตัวนายหวัน ซึ่งก็มีสภาพสะบักสะบอมได้กลั้นใจเปิดปากว่า สาเหตุเพราะตนไม่พอใจที่มีการเปิดเพลงเสียงดัง โดยเฉพาะเพลงที่เปิดไม่ใช่เพลงหมอลำ ที่ผ่านมาเคยมาต่อว่าหลายครั้งแต่ไม่ยอมหยุด จึงทนไม่ไหว และตั้งใจมาทำร้ายเจ้าภาพเพียงคนเดียว

ขณะที่ นายบุญตัน เปียงรัมย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ กล่าวว่า เห็นนายหวันขี่จักรยานมาจอดโดยไม่ถามใคร แล้วดึงมีดออกจากฝัก ปรี่เข้าไปหาผู้ตายทันที เหมือนตั้งใจมาตั้งแต่อยู่บ้าน ยอมรับไม่มีใครช่วยได้ทัน เพราะเหตุการณ์เร็วเกินไป

ขณะที่นางลำภา ลำจอง อายุ 50 ปี หลานสะใภ้นายหวันผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ปกติเมื่อนายหวันได้ยินเสียงเพลงลูกทุ่งหรือวงสตริง ก็มักจะออกอาการ แล้วเดินไปบอกญาติให้ไปบอกคนเปิดทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ได้บอกใคร พอมารู้ก็ได้แทงคนตายแล้ว ซึ่งนายหวันอาจจะเครียดสะสม ประกอบกับมีโรคประจำตัวคือซึมเศร้า จึงออกไปก่อเหตุได้อย่างง่ายดาย

นายสำรวย มาดี ผู้ตาย

หลังเกิดเหตุการณ์สลดบรรยากาศที่บ้านเลขที่ 115 หมู่ 13 บ้านลิ้นเกี่ย ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านเจ้าสาวที่ได้ตระเตรียมจัดงานมงคลสมรสระหว่าง น.ส.สุกัญญา ลินทอง อายุ 20 ปี กับ นายประเสริฐ มาดี อายุ 20 ปี จากกำหนดการจะต้องเข้าพิธีในเวลา 09.00 น. แต่ต้องถูกยกเลิกกะทันหัน ชาวบ้านต่างช่วยกันเก็บข้าวของ เก้าอี้ ถ้วยชามต่างๆ เพื่อเอาไปส่งคืนวัด

ด้านพี่สาวและน้องสาวของ น.ส.สุกัญญา ว่าที่เจ้าสาว ได้ออกมากล่าวแทนเจ้าภาพว่า รู้สึกเสียใจ เพราะงานทุกอย่างได้จัดเตรียมครบสมบูรณ์ แขกที่เชิญก็ทยอยมาภายในงานที่เตรียมไว้ แต่กลับได้รับ ข่าวเศร้า ไม่คิดว่างานมงคลจะกลายเป็นงานศพแบบไม่คาดคิด

สอบลูกผู้ตาย

ส่วนบรรยากาศงานศพนายสำรวย เป็นไปอย่างโศกเศร้า ทั้งที่เป็นวันมงคล และเป็นวันที่มีความสุขของครอบครัว ที่ลูกชายภายในบ้านจะไปเป็นฝั่งเป็นฝา แต่กลับต้องยกเลิกกลายมาเป็นงานศพแทน

ส่วนนางพุ๊ เปียรัมย์ อายุ 56 ปี อยู่เลขที่ 183 หมู่ 8 ต.เมืองแก คนบ้านเดียวกัน ซึ่งเคยเสียลูกชายไปเพราะถูกนายหวัน แทงเสียชีวิต เมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา ได้ออกมาระบุว่า หลังจากทราบข่าวว่านายหวัน แทงนายสำรวยเสียชีวิต ตนรู้สึกหดหู่ ไม่อยากได้ยินและเห็นบรรยากาศนี้อีก เพราะครั้งนั้น ตนเห็นลูกชายวัย 27 ปีในตอนนั้นถูกนายหวัน ใช้เหล็กขูดชาฟต์ แทงคอเสียชีวิตคามือนายหวัน

นางพุ๊ เล่าด้วยว่า ครั้งนั้นน้องชายซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าของลูกชายถูกนายหวันเรียกไปพบ เพราะเปิดเพลงเสียงดัง แล้วเกิดทะเลาะกัน ส่วนลูกชายเป็นคนเข้าไปห้ามแต่กลับถูกนายหวันกระชากคอเสื้อแล้วใช้เหล็กขูดชาฟต์ แทงคอเสียชีวิตคามือ ที่ผ่านมาชาวบ้านถ้าจะจัดงานแต่ละครั้งต้องคอยระวัง อยากให้มีการแก้ไขปัญหาหากครั้งนี้ติดคุกแล้วออกมาอีก

ญาติร่ำไห้หลังรู้ข่าว

สำหรับทางด้านคดี ร.ต.อ.ไพโรจน์ ด้ายรินรัมย์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ชุมแสง อ.สตึก ยังไม่ได้มีการสอบสวนผู้ต้องหา เพราะยังไปรักษาตัวที่ถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์หลังก่อเหตุ ที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ ซึ่งตำรวจได้อายัดตัวไว้แล้ว

จากวันแห่งความสุข ต้องกลายมาเป็นวันแห่งความเศร้า ความบ้าของคนหรือโชคชะตา ใครควรเป็นผู้รับผิดชอบกันแน่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน