อุทาหรณ์สังเวยพิษศก. แท็กซี่เผาตัวสยองคาเก๋ง เครียดโควิด-รายได้หด! : สดจากสนามข่าว

อุทาหรณ์สังเวยพิษศก. – กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2563 จะขยายตัว -7.7% เป็นอัตราที่ต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศในเอเชีย

อุทาหรณ์สังเวยพิษศก.

นาทีสลด

ขนาดขุนพลเศรษฐกิจของรัฐบาล นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ยังออกมายอมรับในเรื่องดังกล่าวว่า เป็นสิ่งที่คาดไว้แล้ว

แต่ชาวบ้านที่หาเช้ากินค่ำไม่อาจอดรนทนรอนโยบายของภาครัฐในการออกมาแก้ไขปัญหา เพราะทุกวันนี้รายได้หดหาย ขณะที่รายจ่ายกลับเพิ่มสูงขึ้น ทำให้หลายรายอับจนหนทาง

เมื่อมองไม่เห็นแสงสว่างจากปลายอุโมงค์ บางคนจึงเลือกที่จะตัดช่องน้อยแต่พอตัว เพื่อหลีกหนีความทุกข์ทรมานในชีวิต

ล่าสุดเกิดเหตุสลดขึ้น เมื่อร.ต.ท.พสิฐ เงินยวง รอง สว.(สอบสวน) สน.หนองแขม รับแจ้งมีผู้จุดไฟเผาตัวเองภายในรถยนต์ที่จอดอยู่บริเวณลานกว้างฝั่งตรงข้ามวัดทองเนียม ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ แขวงและเขตหนองแขม กรุงเทพฯ ในช่วงบ่าย วันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา

หลังรับแจ้งเหตุจึงรีบรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ก่อนนำกำลังรุด ไปตรวจสอบ พร้อม พ.ต.อ.อภิชาติ ทองจันดี ผกก.สน.หนองแขม กองพิสูจน์หลักฐาน กลุ่มงานเก็บกู้ฯ บก.สปพ.บช.น. แพทย์นิติเวชร.พ.ศิริราช และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นลานดินเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามวัดทองเนียม จากการตรวจสอบภายในลานด้านในพบรถยนต์โตโยต้า รุ่นวีออส สีดำ ทะเบียน 6 กข 7367 กรุงเทพมหานคร ใช้น้ำมันระบบเดียว จอดอยู่ในสภาพถูกเพลิงลุกไหม้ภายในห้องโดยสารได้รับความเสียหายทั้งหมด

อุทาหรณ์สังเวยพิษศก.

นายกฤษณะพงศ์ เพชรดี ผู้เสียชีวิต

พบศพผู้เสียชีวิต 1 รายที่เบาะคนขับ ทราบชื่อต่อมาคือ นายกฤษณะพงศ์ เพชรดี อายุ 40 ปี พำนักอยู่ย่านถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งเหนือ แขวงและเขตหนองแขม สภาพศพนอนตะแคงซ้ายถูกไฟเผาจนกลายเป็นตอตะโก

บริเวณหว่างขาผู้ตายนั่งทับขวดแก้วลักษณะคล้ายขวดเบียร์บรรจุน้ำมันเชื้อเพลิง 1 ขวด นอกจากนี้ ที่เบาะข้างคนขับพบยาจุดกันยุงวางไว้จำนวนหลายขดรวมกับกองเอกสารซึ่งเป็นกระดาษและสมุดบัญชีเงินฝากที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

นายสมนัส โพธิ์งาม อายุ 58 ปี เจ้าของร้านกาแฟบริเวณด้านหน้าที่ดินดังกล่าวให้การว่า ที่ดินบริเวณนี้เป็นที่จอดรถของโรงงานใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ ปกติช่วงกลางดึกจะมีรถบรรทุกขนส่งเข้าจอดรับส่งสินค้าหลายคัน แต่ถ้าเป็นช่วงกลางวันจะไม่มีใครมาใช้สอย

ส่วนรถผู้ตายเห็นขับเข้ามาตอน 13.00 น. เลี้ยวเข้าไปจอดได้ไม่เกิน 20 นาที ก็ได้ยินเสียงระเบิดขึ้น 1 ครั้ง

เมื่อชะโงกออกจากร้านดู พบรถคันดังกล่าวยังปิดประตูและปิดกระจกอยู่ทุกบาน แต่มีกลุ่มควันเกิดขึ้นลอยออกมาจากด้านในห้องโดยสาร กระทั่งมีแสงเพลิงขึ้น ทำให้เกิดแรงอัดจนกระจกแตก จึงรีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาตรวจสอบและใช้น้ำดับจนเพลิงสงบ

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารที่พบใน รถและเดินทางไปยังภูมิลำเนาตามบัตรประชาชนของผู้ตาย ปรากฏว่าไม่พบใครอยู่ที่บ้าน

แต่เมื่อตรวจสอบเฟซบุ๊กของผู้ตายแล้วทราบว่าเจ้าตัวมีชื่อเล่นว่า ตี๋ เป็นชาวจ.ศรีสะเกษ มีอาชีพขับรถแท็กซี่ของสหกรณ์ปทุมวันแท็กซี่ จำกัด

โดยโพสต์ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 เม.ย. โพสต์รูปประจำตัวยืนถ่ายภาพข้างรถยนต์ส่วนตัวคันที่เกิดเหตุ พร้อมแคปชั่น สู้โควิดไปด้วยกัน

ต่อมาน.ส.อารีรัตน์ ไกรเพชร อายุ 46 ปี เพื่อนของผู้ตายซึ่งเจ้าหน้าที่ติดต่อผ่านข้อมูลในเฟซบุ๊กของผู้ตายเดินทางมาที่จุดเกิดเหตุ ให้การกับตำรวจว่า เป็นเพื่อนสนิทของผู้ตาย รู้จักกันมานานหลายสิบปี

อุทาหรณ์สังเวยพิษศก.

ตร.สอบปากคำเพื่อนสนิท

ก่อนหน้านี้ผู้ตายเคยบ่นให้ฟังว่าตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รายได้ก็น้อยลง ต้องนำรถยนต์ส่วนตัวคันที่ใช้ก่อเหตุออกมาวิ่งงานแกร็บคาร์เป็นรายได้เสริม แต่ก็ยังไม่พอใช้

ประกอบกับเจ้าตัวมีปัญหาทะเลาะเบาะเเว้งกับภรรยาซึ่งมีบุตรชายด้วยกันแต่ไม่ยอมพูดจากันมานาน 3 ปี ทำให้เกิดความเครียดเคยคิดจะฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดน้ำและวิ่งให้รถชนมาแล้ว แต่ลงมือไม่สำเร็จ มาทำสำเร็จคราวนี้เป็นครั้งที่สาม

ชีวิตของ ตี๋-กฤษณะพงศ์ อาจยังไม่ใช่รายสุดท้ายที่เป็นเหยื่อของเศรษฐกิจที่ตกต่ำ

แต่ชาวบ้านร้านตลาดคงไม่มีปัญญาจะไปเปลี่ยนแปลงอะไร ได้แต่หวังให้รัฐบาลจะทำตามคำสัญญา เหมือนในเพลง คืนความสุขให้ประเทศไทย

เพราะทุกคนให้เวลาสักพักใหญ่แล้ว!!?

พนม คงเจริญ

เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน