คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ณเดช โรจนประดิษฐ์

อดิศร จิตตเสวี

เรื่อง/ภาพ

เหตุการณ์โจรขโมยปลาคาร์พจากบ่อเลี้ยงหน้าอาคารพาณิชย์ภายในซอยลาดพร้าว 101 สร้างความปวดใจให้กับ น.ส.เรวดี เกียรติกำจรพัฒนา อายุ 44 ปี ที่ทะนุถนอมเลี้ยงดู มานานถึง 10 ปี

เจ้าตัวจึงนำภาพจากกล้องวงจรปิดที่หน้าอาคาร โพสต์ลงเฟซบุ๊กชื่อ “Rawadee Apple” พร้อมทั้งระบุข้อความว่า “รบกวนแชร์ให้ด้วยค่ะ มีใครรู้จักหัวขโมย 3 คนนี้บ้างคะ เหตุเกิดที่ซอยลาดพร้าว 101 เวลาตี 1 คืน วันที่ 24 มิ.ย. มาขโมยปลาคาร์พตัวใหญ่ ปลาทับทิมตัวใหญ่มาก 20 กว่าตัว ผู้ชายสะพายเป้มีรอยสักที่แขนซ้าย ผู้หญิงผมยาวหัวหยิก มีรอยสักที่แขนขวา ถ้าคนที่รู้จักรบกวน โทร.แจ้งเบาะแสไปที่ สน.ลาดพร้าว ขอความกรุณาแชร์ให้ด้วยค่ะ ปลาบ่อนี้เลี้ยงมา 10 ปี นานมากมีคุณค่าทางจิตใจมากๆ ค่ะ”

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 00.53 น. ของวันที่ 24 มิ.ย. จุดเกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ เลขที่ 265/1-3 ตั้งอยู่ภายในซอยลาดพร้าว 101 ถนนลาดพร้าว แขวงเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กทม. ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ปลูกติดเรียงกัน 3 คูหา จุดที่คนร้ายเข้ามาขโมยปลาที่เลี้ยงไว้นั้นเป็นบ่อที่สร้างอยู่ด้านหน้าสำนักงานนายหน้าอาคาร มีความยาวประมาณ 3-4 เมตร และไม่มีการติดตั้งรั้วแต่อย่างใด

ขณะที่น.ส.เรวดี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า มารู้ว่าปลาหายเกือบหมดบ่อในช่วงเวลาประมาณ 08.00 น. ของวันเดียวกัน ขณะกำลังจะมาให้อาหาร ซึ่งปลาที่หายไปมีทั้งปลาคาร์พประมาณ 20 ตัว และปลาทับทิมตัวใหญ่ 1 ตัว โดยตนซื้อมาในราคาตัวละ 100 กว่าบาท บางตัวเลี้ยงมานานกว่า 10 ปี

ทั้งนี้ ปลาทั้งหมดไม่สามารถตีเป็นมูลค่าได้ เนื่องจากมีคุณค่าทางจิตใจมากกว่าและ ไม่เคยคิดจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น

“อยากให้หัวขโมยปลานำมาคืน เพราะให้อาหารปลาทุกวันรู้สึกผูกพัน ซึ่งขณะนี้เหลือเพียงปลาดุกเผือก 1 ตัว และปลาคาร์พอีก 1 ตัวเท่านั้นที่คนร้ายนำไปไม่หมด ทั้งนี้คิดว่าคนร้ายต้องพักอาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียงอย่างแน่นอน” น.ส.เรวดีกล่าว

ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะที่มีคนร้ายเป็นหญิงเดิน เข้ามาด้านหน้าสำนักงาน และทำทีนั่งอยู่ข้างบ่อเลี้ยงปลาคาร์พ จากนั้นใช้ถุงพลาสติกที่เตรียมมาตักปลาที่อยู่ในบ่อ แต่ไม่สำเร็จเนื่องจากปลามีขนาดใหญ่ ผ่านไปประมาณ 7 นาที ผู้ก่อเหตุเดินออกไปตามผู้ชายอีก 2 คนให้มาช่วย

โดยพฤติกรรมฝ่ายชายรายหนึ่งใช้ไฟฉายจากโทรศัพท์คอยส่องปลาที่อยู่ในบ่อ ส่วนชายอีกรายใช้ ที่โกยขยะซึ่งหามาจากบริเวณใกล้เคียงมาช้อนปลาก่อนช่วยกันนำปลาใส่ถุงพลาสติกที่เตรียมมา โดยใช้เวลาในการก่อเหตุประมาณ 10 นาที และแยกย้ายกันหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โชคชัย ระดมเร่งตรวจสอบภาพวงจรปิดเพิ่มเติมตามเส้นทาง เพื่อหาว่าหลังก่อเหตุแล้วคนร้ายหลบหนีไปทางไหน รวมทั้งนำภาพจากกล้องวงจรปิดที่เห็นลักษณะคนร้ายไปไล่ตรวจสอบตามชุมชนแออัดต่างๆ ที่กระจายอยู่ทั่วในพื้นที่

แม้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่เกินความสามารถ เมื่อมีผู้จดจำได้ว่าคนร้ายในรูปมีลักษณะคล้ายกับ นายเหมันต์ สุดเฉลียว อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ 12 ต.หนองหมื่นถ่าน อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด และ น.ส.ศรีสมร ลาภเหลือ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 901/12 ซอยภาวนา แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. สองสามีภรรยา ที่มีอาชีพเร่ขายพวงกุญแจตามร้านหมูกระทะ โดยทั้งคู่พักอยู่ในชุมชนลาดพร้าว

วันที่ 14 ก.ค. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผกก.สน.โชคชัย และ พ.ต.ท.สิทธิศักดิ์ นาคามาตร์ รองผกก.สส.สน.โชคชัย ก็ร่วมกันแถลงจับกุมตัวผู้ต้องหาขโมยปลาคาร์พ ซึ่งก็คือนายเหมันต์ และน.ส.ศรีสมร สองสามีภรรยานั่นเอง

พล.ต.ท.ศานิตย์เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ จนกระทั่งทราบตัวผู้ต้องหาและจับกุมตัวได้ ผู้ต้องหามีอาชีพเร่ขายพวงกุญแจตามร้านหมูกระทะ ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากันและให้การว่า วันเกิดเหตุเดินเร่ขายพวงกุญแจ ระหว่างนั้นเกิดหิว และเห็นบ่อ ปลาคาร์พ จึงเอาสวิงที่วางอยู่บริเวณนั้นช้อนปลาใส่ถุงที่เตรียมมา นำกลับบ้าน โดยผู้ต้องหาอ้างว่าเอาปลาไปปิ้ง และทอดกิน ส่วนที่เหลือแช่เย็นไว้กินวันอื่น

ขณะที่นายเหมันต์ และน.ส.ศรีสมร สองผู้ต้องหารับสารภาพว่า วันเกิดเหตุขายของไม่ได้อีกทั้งมีฝนตกและหิวมาก พอเดินมาเรื่อยๆ เห็นบ่อปลาคาร์พ จึงคิดว่าน่าจะเอาไปกินประทังความหิว พอดีเห็นที่โกยขยะจึงเอามาช้อนจับปลาและนำใส่ถุงกลับบ้านเอาไปปิ้งกินกับข้าวเหนียว ส่วนที่เหลือเก็บใส่ตู้เย็นไว้กินวันต่อมา

ระหว่างแถลงผลจับกุม ผู้ต้องหาทั้งคู่กล่าวรับสารภาพด้วยน้ำตานองหน้า พร้อมยกมือไหว้ขอโทษผู้เสียหายเจ้าของปลาคาร์พ นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องหาอีกคนอยู่ระหว่างหลบหนี ทราบชื่อ นายแจ๊ค ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง อายุประมาณ 30 ปี ซึ่งโจรรายนี้ได้ ปลาคาร์พ ไป 10 ตัว ปลาทับทิม 1 ตัว และปลาดุกเผือก 1 ตัว

หลังฟังเรื่องราว น.ส.ศรีสมร ถึงกับอึ้งที่ปลาสุดที่รักถูกขโมยไปย่างกินจนหมด เจ้าตัวเผยว่า หากคนร้ายนำปลาไปขายจะยังรู้สึกดีกว่านี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน