ตามตร.หนองคายล่า-จับ หนุ่มค้ายาหนีจากโรงพัก – เพราะรู้ดีว่ามีประวัติอยู่แล้ว นายธีรภัทร ร่างกาย หนุ่มวัย 37 ปี จึงรู้ชะตากรรมดีว่าหากติดคุกงวดนี้คงนานหลายปีอยู่ พลันที่ สบโอกาสเจ้าตัวจึงตัดสินในหลบหนีจากการควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านเดื่อ จ.หนองคาย ทำเอาตำรวจต้องเปิดปฏิบัติการล่าจับตัวนานถึง 6 วันก่อนจะจับกุมตัวกลับมาได้
นาทีเผ่นจากโรงพัก
สายวันที่ 6 ก.ค. พ.ต.อ.เตชรัฐ ประทุมชาติ ผกก.สภ.บ้านเดื่อ จ.หนองคาย ได้รับแจ้งจากสิบเวร ว่าเกิดเหตุผู้ต้องหาชายคดียาเสพติดหลบหนีจากห้องควบคุมตัว สภ.บ้านเดื่อ จึงรีบประสาน ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย สภ.เหล่าต่างคำ และสภ.โพนพิสัย ช่วยติดตาม
พ.ต.อ.เตชรัฐ รีบสอบถามข้อมูลจนทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้คือ นายธีรภัทร ร่างกาย อายุ 37 ปี บ้านอยู่ ต.เหล่าต่างคำ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ถูกทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี จับกุมพร้อมยาบ้า 2,029 เม็ด คุมตัวมาส่งพนักงานสอบสวน เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา
แต่เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ พนักงานสอบสวนสั่งให้สิบเวรห้องควบคุมนำตัวมา สอบปากคำ ซึ่งระหว่างนั้นมี น.ส.บุษกร อายุ 19 ปี แฟนสาวนายธีรภัทร มาเยี่ยมพอดี
เมื่อสิบเวรคุมตัวนายธีรภัทรออกมาจากห้องขังแล้วเห็นว่าห้องขังกับห้องสอบสวนอยู่ไม่ไกลจึงไม่ได้ใส่กุญแจมือ แล้วคุมนายธีรภัทรไปยังห้องสอบปากคำ แต่ระหว่างที่พนักงานสอบสวนกำลังจัดเตรียมเอกสารอยู่
วงจรปิดห้องควบคุม
นายธีรภัทรได้ลุกวิ่งออกจากห้องลงบันไดหน้าโรงพักไปขึ้นรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีดำแดง ทะเบียน ขจจ 409 หนองคาย ที่น.ส.บุษกร ติดเครื่องรออยู่พากันหลบหนีไป เป็นไปได้ว่าอาจมีการเตรียมการนัดแนะไว้ล่วงหน้า เมื่อสบโอกาสจึงหลบหนี
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.เตชรัฐ ประทุมชาติ ผกก.สภ.บ้านเดื่อ, พ.ต.อ.ไพรวัลย์ ท้าวพรม ผกก.สส.ภ.จว.หนองคาย, พ.ต.ท.ประเสริฐ ธรรมชัย รองผกก.สส.ภ.จว.หนองคาย, พ.ต.ท.อดุลย์ ศรีทอง สวญ.เหล่าต่างคำ นำกำลังเจ้าหน้าที่กระจายออกค้นหาผู้ต้องหา
ทั้งกดดันทางครอบครัวผู้ต้องหา พร้อมขอความร่วมมือชาวบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำโขงช่วยสอดส่องเป็นหูเป็นตา ด้วยเกรงว่าอาจหนี ข้ามโขงไปฝั่งประเทศลาว
กระทั่งวันที่ 8 ก.ค. มีชาวบ้านในอ.โพนพิสัยให้ข้อมูลว่า พบผู้ต้องสงสัยคล้ายกับ ผู้ต้องหาทั้งชายและหญิงขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ ผ่านเส้นทางไปยังป่าช้าบ้านเหล่าต่างคำ อ.โพนพิสัย ซึ่งผิดวิสัยของชาวบ้านทั่วไปที่จะใช้เส้นทางนี้สัญจร ตำรวจจึงออกตรวจสอบตามเส้นทางดังกล่าว
รุ่งขึ้น พล.ต.ต.สุรชัย สังขพัฒน์ ผบก.ภ.จว. หนองคาย, พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ รองผบก.ภ.จว.หนองคาย เรียกประชุมติดตามการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติงานที่ห้องประชุม ศปก.สภ.เหล่าต่างคำ อ.โพนพิสัย
พร้อมทั้งยังได้ทำใบปลิวรูปหน้าของผู้ต้องหาทั้งสองคน ระบุรางวัลนำจับ 30,000 บาท ให้ตำรวจนำไปกระจายให้ประชาชนแจ้งเบาะแส อีกทั้งยังได้ประสานงานกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และท้องถิ่นช่วยเป็นกำลังเสริมให้กับเจ้าหน้าที่
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ยังเชื่อว่าทั้งสองคนอยู่ในพื้นที่ ต.เหล่าต่างคำ เนื่องจากไม่มีเงินติดตัวพอที่จะหลบหนีไปในพื้นที่ห่างไกล โดยเจ้าหน้าที่ได้ล็อกพื้นที่ ต.เหล่าต่างคำ ตรวจสอบบุคคลเข้าออกอย่างเข้มข้น
โพรงไม้ที่ซ่อนตัว
กระทั่งวันที่ 11 ก.ค. ย่างเข้าสู่วันที่หกของปฏิบัติการล่าจับตัว เจ้าหน้าที่กระจายกำลังค้นจนพบรถจักรยานยนต์ที่ใช้หลบหนีจอดทิ้งไว้ในป่าบ้านสันติสุข จึงตีวงจำกัดเข้ามาและใช้แผนกระจายกำลังค้นหาอย่างละเอียด จนกระทั่งไปพบโพรงต้นไม้กลางป่า ริมลำห้วยสวย บ้านสังคมพัฒนา ต.สีกาย อ.เมืองหนองคาย
พบนายธีรภัทร และ น.ส.บุษกร แฟนสาว ทั้งสองคนหลบซ่อนอยู่ เมื่อเห็นตำรวจทั้งคู่พากันตกใจวิ่งหนี แต่ น.ส.บุษกร หนีไม่พ้นถูกจับไว้ได้ ส่วนนายธีรภัทรหลบหนีหายไปในป่า น.ส.บุษกร ที่มีสภาพอิดโรยให้การว่า หลังจากพากันหลบหนีออกจาก สภ.บ้านเดื่อ ก็ขี่รถจักรยานยนต์มาทิ้งไว้ แล้วหนีเข้าป่าขอข้าวขอน้ำจากชาวนาในละแวกที่พบ ขโมยเสื้อผ้าชาวบ้านมาเปลี่ยน
เกลี้ยกล่อมให้มอบตัว
ผ่านมาหลายวันตนเหนื่อยแล้วจึงเกลี้ยกล่อมให้นายธีรภัทรมอบตัว แต่แฟนหนุ่มบอกว่าถึงมอบตัวโทษก็คงหนักอาจถึงติดคุกตลอดชีวิต คงต้องแก่ตายอยู่ในคุก ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น และมั่นใจว่าจะพากันหนีรอดได้ ช่วงแรกที่หลบหนีได้ติดต่อกับเพื่อนและญาติของแฟนครั้งหนึ่ง แต่หลังจากนั้นก็ปิดเครื่อง เพราะกลัวตำรวจตามตัวได้ โดยไม่เคยมีใครให้ความช่วยเหลือเลย
เจ้าหน้าที่ตำรวจให้น.ส.บุษกรพูดผ่านวิทยุสื่อสารของตำรวจ เกลี้ยกล่อมให้นายธีรภัทรยอมมอบตัว แต่ผ่านไปหลายชั่วโมงก็ไม่เป็นผล
กระทั่ง 16.30 น. พล.ต.ต.สุรชัย สังขพัฒน์ ผบก.ภ.จว.หนองคาย พ.ต.อ.เตชรัฐ ประทุมชาติ ผกก.สภ.บ้านเดื่อ พ.ต.ท.อดุลย์ ศรีทอง สวญ.สภ.เหล่าต่างคำ นำกำลังออกติดตามตัวนายธีรภัทร จนทั่วทุกพื้นที่ในละแวกที่จับกุมแฟนสาวได้แต่ก็ยังไม่พบ สุดท้ายจึงตัดสินใจค้นหาในลำห้วยสวย โดยกระจายกำลังค้นหา
พล.ต.ต.สุรชัย สังขพัฒน์ ผบก.ภ.จว.หนองคาย ลุยด้วย
ในที่สุดเจ้าหน้าที่พบบางอย่างลักษณะเหมือนจมูกคนโผล่อยู่กลางน้ำ เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ ก็พบว่าเป็นนายธีรภัทรซ่อนอยู่ในน้ำโดยโผล่เพียงจมูกขึ้นมาหายใจ จึงสั่งให้ขึ้นมามอบตัวโดยนายธีรภัทรมีสภาพอิดโรย และเครียดจัด
เบื้องต้นนายธีรภัทรจะถูกแจ้งข้อหานอกเหนือจากมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายแล้ว ยังจะถูกแจ้งข้อหาหลบหนีไประหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจของพนักงานสอบสวน ส่วน น.ส.บุษกรจะถูกแจ้งข้อหา ช่วยด้วยประการใดให้ผู้ที่หลบหนีจากการคุมขังตามอำนาจของพนักงานสอบสวนไม่ให้ถูกจับกุม
ปิดฉากแผนหลบหนีระทึกเมืองหนองคาย ด้วยเวลาไม่ถึงอาทิตย์
