คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ภูษณิศา สัญญารักษกุล

เรื่อง/ภาพ

เที่ยงคืนครึ่ง วันที่ 17 ก.ค. พ.ต.ท.เกรียงไกร ศรีธัญรัตน์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.แม่ทะ จ.ลำปาง รับแจ้งจากโรงพยาบาลแม่ทะ ว่ามีชายหนุ่มสองคนนำร่างของหญิงสาวถูกยิงมาส่งที่โรงพยาบาลแล้วขับรถหายออกไปทันที ก่อนที่แพทย์ตรวจอาการพบว่าเสียชีวิตก่อนที่จะมาถึงโรงพยาบาล

หลังรับแจ้งจึงร่วมกับ พ.ต.อ.หาญชัย รัตนกิจธรรม ผกก.สภ. แม่ทะ พ.ต.ท.สงวน แสงคำ รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.กฤตเมธ ทาคำ สว.(สอบสวน) และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เดินทางไปสอบสวนเหตุการณ์

ในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่พบร่างไร้วิญญาณของ น.ส.กรรณิการ์ สงฆ์วัฒนะ อายุ 27 ปี เป็นชาวบ้าน ม.2 ต.แม่ถอด อ.เถิน จ.ลำปาง นอนอยู่บนเตียง มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนไม่ทราบขนาด เข้าที่หน้าผากเหนือคิ้วขวา 1 นัด กระสุนฝังใน

สอบถามพยาบาลที่เข้าเวรและเป็นผู้รับตัวคนเจ็บทราบว่า ก่อนหน้านี้ได้มีชายหนุ่มสองคน ขับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีฟ้า ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน นำร่างของ น.ส.กรรณิการ์ มาส่งที่ โรงพยาบาล

ทั้งคู่แจ้งว่า น.ส.กรรณิการ์ ถูกคนร้ายยิงที่บริเวณสะพานบ้านหัวเสือ ม.2 ต.แม่ทะ และจะรีบไปแจ้งให้ญาติของคนเจ็บทราบเรื่องก่อน จากนั้นก็ขับรถหายไป เมื่อตรวจดูอาการจึงพบว่า น.ส.กรรณิการ์ เสียชีวิตก่อนที่จะมาถึงโรงพยาบาลแล้ว

ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังสอบถามพยาบาลอยู่นั้น ชายหนุ่มทั้งสองคน ก็ขับรถกลับยังโรงพยาบาล ทราบต่อมาว่าชื่อ นายไพโรจน์ อะตังแก หรือ ติ๊ก อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 530/2 หมู่ 1 ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง ส่วนอีกคนชื่อ นายบุญมา กันทวงค์ หรือ โน้ต อายุ 29 ปี แต่ทั้งคู่ไม่มาลำพังยังหนีบทนายความมาด้วย นัยว่าหากตกเป็นผู้ต้องสงสัยก็จะได้คอยช่วยแก้ต่างให้

ตำรวจขอให้ทางโรงพยาบาลตรวจสารเสพติดในร่างกายของทั้งสองคน พบว่าปัสสาวะเป็นสีม่วง จึงได้คุมตัวไปยัง สภ.แม่ทะ เพื่อสอบสวนเบื้องต้น

นายไพโรจน์ และ นายบุญมา ให้การตรงกันว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถยนต์เก๋งไปทำธุระกัน แต่เกิดปวดปัสสาวะจึงได้จอดรถบริเวณสะพานบ้านหัวเสือ ม.2 แล้วลงไปทำธุระส่วนตัว ขณะยืนหันหลังให้กับรถก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด

เมื่อหันมาดูเห็นชายวัยรุ่นรีบขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไป จึงวิ่งไปที่รถพบว่า น.ส.กรรณิการ์ถูกยิงจึงพามาส่งโรงพยาบาล ก่อนจะขับรถออกไปเพราะความตกใจ และกลัวว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสงสัยว่าตัวเองจะเป็นคนทำ จึงได้นำเรื่องไปบอกพ่อแม่ที่บ้าน พร้อมกับติดต่อทนายความให้มาเป็นเพื่อนที่โรงพยาบาล โดยไม่ทราบว่าเพื่อนหญิงเสียชีวิตแล้ว

พ.ต.ท.เกรียงไกร ยังติดใจในคำให้การและพฤติกรรมของทั้งคู่ เชื่อว่าทั้งสองคนต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของน.ส.กรรณิการ์ อย่างแน่นอน เพียงแต่ขณะนี้ทั้งสองคนยังคงปากแข็งไม่ยอมรับสารภาพเท่านั้น จึงได้ให้เจ้าหน้าที่วิทยาการตรวจหาเขม่าดินปืนที่มือของทั้งคู่เป็นไว้เป็นหลักฐาน

ขณะเดียวกันก็ให้ตรวจสอบประวัติของทั้งผู้เสียชีวิตและพรรคพวก จนทราบว่าน.ส.กรรณิการ์ มีประวัติเคยถูกจับกุมคดียาเสพติดที่ อ.เถิน เมื่อ 2 ปีก่อน และเพิ่งจะพ้นโทษออกมาได้ไม่นาน จึงตั้งประเด็นในเรื่องของยาเสพติดและเรื่องชู้สาวไว้ก่อน

คดีนี้ พ.ต.อ.พีระ เต็มแย้ม รอง ผบก.ภ.จว.ลำปาง ให้ความสำคัญ ลงมาสอบสวนปากคำผู้ต้องสงสัยทั้งคู่ด้วยตัวเอง และแล้วความจริงก็ปรากฏ หลังถูกเค้นสอบอยู่ทั้งวัน นายไพโรจน์ก็เปิดปากรับสารภาพ ว่าเป็นคนทำปืนลั่นใส่แฟนสาวจนเสียชีวิตเอง

นายไพโรจน์ให้การว่าก่อนเกิดเหตุได้ขับรถออกจากบ้านพักที่ อ.ห้างฉัตร มากับผู้ตาย และแวะมารับนายบุญมา กับนายอาทิตย์ พันธุ์สุริยวงค์ หรือต่อ อายุ 31 ปี ที่ อ.เมือง จ.ลำปาง จากนั้นจึงเดินทางมาที่หมู่บ้านหัวเสือ เพื่อนัดเจอและพูดคุยตกลงปัญหากับนายเดชฤทธิ์ หนิ้วหยิ่น หรือเดช อายุ 50 ปี

เมื่อขับรถมาถึงที่เกิดเหตุมี นายเชษฐ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี รออยู่ที่จุดนัดหมาย ได้ขึ้นไปนั่งในรถ เพื่อรอนายเดชฤทธิ์ ระหว่างที่นั่งรอกันอยู่ในรถนั้น ตนนำอาวุธปืนลูกโม่ ไม่ทราบขนาด ของผู้ตายที่เก็บซุกซ่อนอยู่ที่บริเวณซอกเบาะขึ้นมาถือ

ผู้ตายได้ใช้มือมาปัดปืนจึงทำให้ปืนลั่น กระสุนถูกเข้าที่หน้าผากจนแน่นิ่งไป ต่อมาหลังเกิดเหตุนายเดชฤทธิ์ มาถึงและนำเอาอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวไป ตนกับพวกจึงนำผู้ตายส่งโรงพยาบาลแม่ทะ

นายไพโรจน์ให้การต่อว่า จากนั้นตนกับนายบุญมา ก็ขับรถกลับไปตั้งหลักที่บ้าน ก่อนจะกลับมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจจนถูกสอบสวนจนกระทั่งยอมรับสารภาพดังกล่าว

ภายหลังสอบเค้นจนยอมรับสารถภาพ ตำรวจก็ควบคุมตัวนายไพโรจน์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ยังจุดที่เกิดเหตุ ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน รับไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน