คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ณเดช โรจนประดิษฐ์

เรื่อง/ภาพ

ท่ามกลางกระแสรักสุขภาพเบ่งบาน การปั่นจักรยานออกกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เหลียวไปทางไหนก็พบผู้คนนำรถจักรยานคู่ใจออกมาปั่น ราคาของรถจักรยานแต่ละคันก็ไม่ใช่ถูกๆ มีตั้งแต่หลักหมื่นบาทไปถึง หลักแสนก็ยังมี

เมื่อความนิยมมีมาก ความต้องการของดีราคาถูกก็เพิ่มขึ้น ตลาดรถจักรยานมือสองก็พลอยคึกคักตามไปด้วย รถจักรยานมือสอง รวมทั้งชิ้นส่วนอุปกรณ์ประกอบรถจักรยาน ที่เป็นของมียี่ห้อ ราคาแพง ถูกวางขายแบกะดินเกลื่อน ตามตลาดมือสอง

แน่นอนว่าที่มาของอะไหล่จักรยานเหล่านี้ ย่อมมีทั้งที่เจ้าของขายเอง และเป็นของที่ถูกขโมยมาปะปนอยู่

เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 22 ก.ค. พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี ผกก.สส.บก.น.8 พ.ต.ท.ทวิช เพ็ญอัมพร สว.กก.สส.บก.น.8 และ ร.ต.อ.สามารถ วงศ์สายจันทร์ รอง สว.กก.สส.บก.น.8

ร่วมกันนำกำลังเข้าจับกุมนายเจริญ จันทร์ศรีทอง หรือลุงเริญ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 5 ต.นางหลง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงธนบุรี เลขที่ 317/2560 ลงวันที่ 21 ก.ค.2560 ในข้อหาลักทรัพย์

พร้อมของกลางคีมตัดเหล็กขนาดใหญ่ 1 ตัว ไขควง 1 อัน และกระเป๋าสะพายใส่เครื่องมือช่าง 1 ใบ โดยสามารถควบคุมตัวได้ภายในบ้านเช่าไม่มีเลขที่ บริเวณซอยจอมทอง 5 ถนนจอมทอง แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กทม.

พ.ต.อ.ประสงค์ เปิดเผยที่ไปที่มาของการจับกุมครั้งนี้ว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. มีนักศึกษาของมหา วิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ ว่า ถูกคนร้ายลักทรัพย์รถจักรยานเสือภูเขา จากบริเวณจุดจอดใกล้สถาบันการศึกษา

มูลค่าความเสียหายประมาณ 20,000 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด กระทั่งพบผู้ต้องหาเพศชาย อายุประมาณ 55-60 ปี สวมชุดคล้ายนักปั่นจักรยาน เดินมาที่รถจักรยานของกลาง ก่อนล้วงคีมออกจากกระเป๋าสะพายแล้วตัดโซ่ที่คล้องออก พร้อมทั้งปั่นรถจักรยานหลบหนีไป

เจ้าหน้าที่ไล่ตรวจสอบภาพวงจรปิดตามถนนในเส้นทาง ที่คนร้ายใช้หลบหนี พบว่าคนร้ายขี่รถจักรยานอย่างใจเย็น ระหว่างทางยังได้แวะจอดตามสถานที่ต่างๆ แบบเรื่อยๆ เปื่อยๆ คาดว่าเป็นวิธีการลวง การตรวจสอบภาพจากกล้องวงวรปิด ของตำรวจ

กระทั่งทางเจ้าหน้าที่ไล่ ไปตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณร้านคาร์แคร์ของปั๊มน้ำมันบางจาก ถนนราษฎร์บูรณะ ห่างจาก สน.ราษฎร์บูรณะ และกก.สส.บก.น.8 เพียง 100 เมตร พบผู้ต้องหาขณะปั่นรถจักรยานของกลางเข้ามาใช้บริการล้างรถ ในราคาคันละ 30 บาท ซึ่งจุดนี้สามารถเห็นใบหน้าคนร้ายอย่างชัดเจน

 

จากนั้นทางพนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนขออนุมัติหมายจับตามภาพจากกล้องวงจรปิด พร้อมทั้งประสานฝ่ายสืบสวนติดตามจนทราบว่า ผู้ต้องหาคือ นายเจริญ หรือฉายา ‘ลุงเริญ สายปั่น’ จนสามารถจับกุมตัวได้ดังกล่าว

นายเจริญ ให้การรับสารภาพแต่ โดยดีว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง โดยเมื่อปีพ.ศ.2541 เคยถูกดำเนินคดี ในข้อหาลักทรัพย์ โดยศาลจังหวัดสกลนคร ตัดสินโทษจำคุกนาน 5 ปี เมื่อพ้นโทษจึงตัดสินใจเดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยตนไม่มีอาชีพหรือบ้านพักเป็นหลักแหล่ง เป็นบุคคลเร่ร่อนกินอยู่หลับนอนตามท้องสนามหลวง

เมื่อประมาณ 1 ปีที่ ผ่านมา ตนออกตระเวนลักทรัพย์รถจักรยานตามจุดจอดที่ทางกทม.จัดเตรียม ไว้ให้ ประกอบด้วยสถานีรถไฟฟ้าสยาม บริเวณจามจุรีสแควร์ และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

โดยทุกครั้งที่ลงมือจะแต่งตัวให้กลมกลืนกับนักปั่นจักรยาน ก่อนใช้คีมตัดโซ่และปั่นหลบหนีไปเรื่อยๆ จากนั้นจะนำไปขายต่อให้พ่อค้าย่านศาลเจ้าพ่อเสือ หากเป็นรถจักรยานแม่บ้านจะได้ราคาคันละ 900 บาท แต่ถ้าเป็นรถเสือหมอบ เสือภูเขา หรือรถดีราคาแพง จะได้คันละ 3,000 บาท ด้วยความที่แต่งตัวเป็นนักปั่น จึงมีฉายาว่า ‘ลุงเริญ สายปั่น’

 

นายเจริญรับว่า เงินที่ได้จากการขโมยรถจักรยานมาขาย จะนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ค่าเช่าห้องและรักษาตัวจากอาการป่วยโรคไตเรื้อรัง เจ้าตัวให้การยอมรับว่าเคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาประมาณ 4-5 ครั้ง ซึ่งเป็นการรับ แต่เฉพาะคดีที่ทางตำรวจหาหลักฐาน จากกล้องวงจรปิดมามัดตัวได้เท่านั้น

พ.ต.ท.ทวิชเผยว่า หลังจากนี้จะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ เพื่อแจ้งข้อหาลักทรัพย์ ก่อนประสานฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน มาอายัดตัวตาม หลักฐานที่มี รวม 3 คดี

ท้ายสุดตำรวจฝากว่า หากผู้เสียหายรายใดคาดว่าเคยตกเป็นเหยื่อ ถูก ‘ลุงเริญ สายปั่น’ ลักทรัพย์รถจักรยานคันโปรดไป สามารถมาดูตัวได้ที่ สน.ราษฎร์บูรณะ เพื่อตำรวจจะได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน