คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

นพรัตน์ คุ้มศรี

พิชัย ศรีรุ่งเรือง

ภัทรภณ แก้วสกุณี

เรื่อง/ภาพ

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 26 ก.ค. ที่หน้าโรงพักประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิรัสธำรง รอง ผบช.ภ.ภาค 1 พ.ต.อ.อริยะ พันธุฟัก ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายวัฒนา ไกรเดช หรือเอก อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/5 หมู่ที่ 1 ต.บ้านใหม่ อ.สามพราน จ.นครปฐม พร้อมของกลางเงินสด 20,000 บาท อาวุธมีด 1 เล่ม

นายวัฒนาถูกจับกุมโดย 3 หนุ่มฮีโร่พลเมืองดี หลังจากก่อเหตุใช้อาวุธมีดจี้ชิงทรัพย์ ภายในธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสะพานแดง ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี

ปฐมบทของเรื่องราวดังกล่าว ต้องย้อนไปเมื่อเวลาประมาณ 13.10 น. วันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ รับแจ้งเกิดเหตุชิงทรัพย์ ภายในธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสะพานแดง จึงเดินทางไปตรวจสอบ

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ธนาคารให้การว่า คนร้ายได้เข้ามาทำทีขอฝากเงิน จากนั้นใช้มีดข่มขู่เจ้าหน้าที่ธนาคารให้เอาเงินใส่ถุงให้ เจ้าหน้าที่ธนาคารเกิดความกลัว จึงส่งเงินสดให้จำนวน 20,000 บาท จากนั้นคนร้ายได้วิ่งหลบหนีไป

ระหว่างนั้นตำรวจได้รับแจ้งว่าผู้ก่อเหตุวิ่งหลบหนีไป ขึ้นรถจักรยานยนต์รับจ้าง โดยใช้เส้นทางคู่ขนานถนนพหลโยธินขาเข้า และมีพลเมืองดี 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ ไล่ติดตามไป ตำรวจจึงรีบประสานศูนย์วิทยุ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ แจ้งตำรวจสายตรวจออกสกัดจับตามเส้นทางหลบหนี

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปรามและฝ่ายสืบสวน เร่งติดตาม คนร้ายไปตามเส้นทางที่ได้รับแจ้ง จนพบว่าพลเมืองดีทั้ง 2 ราย รวมทั้ง ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างได้ ช่วยกัน จับกุมตัวนายวัฒนาผู้ก่อเหตุไว้ได้พร้อมด้วยเงินและอาวุธมีดของกลาง ที่บริเวณริมทางคู่ขนาน ถนนพหลโยธินขาเข้า ก่อนถึงปั๊มน้ำมัน ปตท. ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จึงควบคุมตัวมาสอบสวน

นายวัฒนาที่จนมุมด้วยหลักฐานรับสารภาพสิ้น ว่าเป็นผู้ก่อเหตุชิงทรัพย์ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสะพานแดงจริง โดยเมื่อได้เงินแล้วได้วิ่งหลบหนี มาที่บริเวณสะพานฟ้า จากนั้นได้ขึ้นรถจักรยานยนต์รับจ้างเพื่อจะหลบหนี จนกระทั่งถูกจับกุม

นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติ พบว่าเมื่อปี 2555 นายวัฒนาเคยต้องโทษคดียาเสพติดให้โทษ ที่ สภ.โชคนาสาม อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ อีกด้วย

ขณะที่ นายวิชาญ จับเฟือย อายุ 43 ปี อาชีพขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างวินสะพานฟ้า หนึ่งในพลเมืองดีที่มาร่วมแถลงข่าวด้วยกล่าวว่า คนร้ายได้วิ่งมาเรียกรถตนเองให้ไปส่ง ตนเองจึงรับขึ้นมาแต่ก็เอะใจที่เห็นคนร้ายกำเงินมาด้วยปึกหนึ่ง

จักรยานยนต์รับจ้างพลเมืองดีกล่าวต่อว่า ตนขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งคนร้ายที่บริเวณโรงพยาบาลธัญญารักษ์ ขณะนั้นมี นายสุทธิโชค แซ่อึ้ง อายุ 19 ปี และนายธนากร ฤทธิ์สำอางค์ อายุ 17 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามมา พร้อมตะโกนบอกว่าเป็นคนร้ายที่ชิงเงินจากธนาคารมา ตนจึงจอดรถและช่วยจับกุม ต่อมา ไม่นานก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามมาควบคุมตัวคนร้ายไป

ขณะที่ พล.ต.ต.ธนายุตม์กล่าวว่า นายวัฒนาถูกตั้งข้อหา “ชิงทรัพย์ โดยมีอาวุธ พร้อมพกพาอาวุธไปในเมือง ถนน หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร” ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวไปดำเนินคดี

ถึงแม้ว่าคดีนี้คนร้ายจะได้ทรัพย์สินไปไม่มาก แต่กระทบกระเทือน ต่อความเป็นอยู่ของประชาชน และเป็น การกระทำอย่างเหิมเกริมไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย คนร้ายลงมือทั้งที่มีลูกค้าและพนักงานธนาคารอยู่จำนวนมาก

หลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว ตำรวจควบคุมตัวนายวัฒนาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างละเอียด ทั้งที่ภายในธนาคารที่เกิดเหตุ วินรถจักรยานยนต์รับจ้างของนายวิชาญ และจุดที่ 3 ฮีโร่หนุ่ม ช่วยกันจับกุมตัวนายวัฒนา ส่งให้ตำรวจที่ติดตามมารับตัวไปดำเนินคดี จากนั้นจึงนำตัวส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดธัญบุรีต่อไป

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบกระเช้าของขวัญเป็นกำลังใจกับ นายวิชาญ จับเฟือย นายสุทธิโชค แซ่อึ้ง และ นายธนากร ฤทธิ์สำอางค์ 3 ฮีโร่พลเมืองดี ที่ช่วยตำรวจจับกุมคนร้ายได้ทันควัน ทั้งนี้ ทางตำรวจจะมอบใบประกาศเกียรติคุณให้อีกครั้ง เพื่อตอบแทนและยกย่องว่าเป็นพลเมืองดี

คนทำความดี ช่วยเหลือผู้อื่น ช่วยเหลือสังคม สมควรแล้วที่จะได้รับการชื่นชมยกย่อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน