ตร.ลุยปิดคดีขืนใจแม่เฒ่าหนุ่มหื่นลงมือกลางทุ่งนาสำนึกผิดกราบเท้าขอขมา : สดจากสนามข่าว
ตํารวจเมืองศรีสะเกษต้องเปลี่ยนแผนกะทันหันหลังรับรายงานว่ามีชาวบ้าน ต.ทุ่ม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ และญาติๆ ของนางสวย (นามสมมติ) อายุ 66 ปี ไปดักรอกันอยู่เต็มทุ่งนาของนางสวย เพื่อรอดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ในคดีข่มขืนนางสวย
ด้วยเกรงว่าผู้ต้องหาจะถูกชาวบ้านที่ โกธรแค้นรุมประชาทัณฑ์เสียก่อนที่จะทันได้รับโทษตามกฎหมาย จึงนำตัวผู้ต้องหาไปที่ทุ่งนาอีกแห่งหนึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุ 3 ก.ม. แล้วจำลองเหตุการณ์ขึ้นมาแทน
คดีข่มขืนแม่เฒ่าคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อเช้าวันที่ 17 ก.ค. โดยขณะที่นางสวย วัย 66 ปี กำลังก้มๆ เงยๆ ถอนหญ้าที่ขึ้นปกคลุมนาข้าวของตนเองอยู่นั้น มีชายอายุประมาณ 55-60 ปี ขับขี่รถ จยย.มาจอด แล้วทำทีเดินหางมหอยในทุ่งนา ก่อนเดินเข้ามาประชิดตัว จากนั้นใช้มือทั้งสองข้างบีบที่ลำคอพร้อมกดตัวนางสวยลงกับพื้นกลางนาข้าว
คนร้ายลงมือข่มขืนโดยไม่สนใจเสียงร้องห้ามของเหยื่อจนสำเร็จความใคร่ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 5 นาที ก่อนรีบใส่เสื้อผ้าลุกขึ้นเดินจากไปที่รถ จยย.ที่จอดไว้ข้างทาง ขี่หลบหนีไปอย่างใจเย็น
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ นำโดย พ.ต.ท.พิเนตร ดาวเรือง รอง ผกก.สส.สภ.เมืองศรีสะเกษ พ.ต.ท.ฐานะกิจ รัตนพันธ์ สว.สส.สภ.เมืองศรีสะเกษ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน รีบลงพื้นที่ติดตามหาข้อมูลคนร้าย
เพียงวันเดียวก็ทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุคือนายนารี (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี ชาวบ้าน ต.พยุห์ อ.พยุห์ จ.ศรีสะเกษ จึงรวบรวมหลักฐานไปขอศาลจังหวัดศรีสะเกษ อนุมัติหมายจับที่ จ.246/2563 ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2563 ในความผิดฐาน “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้”
ชุดสืบสวนติดตามไปจับกุมตัวนายนารีได้ในวันเดียวกันนั้นเอง ซึ่งผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ที่ข่มขืนนางสวยจริงๆ เนื่องจากว่าภรรยาของตนเองไม่ค่อยแข็งแรงไม่สามารถมีอะไรกันได้ เมื่อมาเจอนางสวยจึงเกิดมีอารมณ์ทางเพศ และได้ข่มขืนนางสวยกลางทุ่งนา
วันรุ่งขึ้น พ.ต.อ.เทพพิทักษ์ แสงกล้า ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ พร้อมด้วย พ.ต.ท.พิเนตร ดาวเรือง รองผกก.สส. พ.ต.ท.ธานินทร์ อินทร์กอง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองศรีสะเกษ พ.ต.ท.เจษฎาพร รองทอง พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี นำกำลังตำรวจควบคุมตัวนายนารีไปทำแผนประทุษกรรมประกอบคำรับสารภาพ ที่บริเวณกลางทุ่งนา ต.ทุ่ม อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ที่เกิดเหตุ
แต่เมื่อถึงเวลาทำแผนฯ ปรากฏว่ามีญาติพี่น้องของผู้เสียหาย และชาวบ้านมาเฝ้ารอกันเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่หวั่นเกรงว่าอาจเกิดเหตุรุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหา จึงนำตัวผู้ต้องหาไปที่ทุ่งนาอีกแห่งหนึ่งห่างจากจุด เกิดเหตุ 3 ก.ม. แล้วจำลองเหตุการณ์ทำแผนฯ
เริ่มจากนายนารีนั่งอยู่บนรถจักรยานยนต์ เดินลงไปในทุ่งนาที่ผู้เสียหายกำลังถอนหญ้าอยู่ แล้วผลักผู้เสียหายลงไปนอนกับพื้น ใช้กำลังบังคับ บีบคอ และข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ และขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไป
นายนารี ผู้ต้องหาคดีนี้ กล่าวว่า ตนมีอาชีพหาจับปลาและหาหอยตามทุ่งนาไปเรื่อยๆ ที่มีน้ำในทุ่งนา ในวันที่เกิดเหตุตนมาจอดรถ จยย.นั่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ นางสวยขี่รถจักรยานมาแล้วได้ทักตนว่า หากมีต้นบัวขอด้วยนะ จากนั้นนางสวยได้เดินลงไปในทุ่งนา
ตนได้ต้นบัวก็เลยถือลงไปให้ เมื่อเดินเข้าไปใกล้ถึงตัวนางสวยได้เกิดอารมณ์ชั่ววูบ จึงได้ผลักนางสวยล้มลง บีบคอแล้วข่มขืน โดยที่ตนไม่รู้จักนางสวยมาก่อน จากนั้นตนกลับมาบ้านและสำนึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ต้องนอนร้องไห้ตลอดคืน จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ ตร.จับกุมได้
ตนได้ไปกราบเท้านางสวยเพื่อเป็นการขอขมากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้แล้ว และนางสวยได้ให้อภัยพร้อมยังสอนตนว่า อย่าไปทำแบบนี้กับคนอื่นอีกจะทำให้เป็นบาปติดตัวตนเองไปจนตาย ซึ่งตนจะจำคำสอนของนางสวยเอาไว้
คนเราต่างจากสัตว์ก็ตรงที่รู้จักยับยั้งชั่งใจ ไม่ปล่อยไปตามอารมณ์ดิบ สังคมถึงจะอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข
ศิริเกษ หมายสุข
เรื่อง/ภาพ