คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

เมธี เมืองแก้ว

พีระพล จันฝาก

เรื่อง/ภาพ

การสืบสวน คลี่คลายคดีฆาตกรรม ต้องอาศัยพยานหลักฐานที่แน่นหนา เพื่อ มายืนยันความผิด โดยเฉพาะหลักฐานทางวิทยา ศาสตร์ มีความน่าเชื่อถือมากกว่าคำให้การของพยานบุคคล หรือแม้แต่คำรับสารภาพของ ผู้ต้องหาเองก็เถอะ บางครั้งก็ดูเหมือนไม่น่า เชื่อถือ แต่พอคดีไปถึงชั้นศาล ก็กลับคำให้การ ทำคดีเข้ารกเข้าพงมานักต่อนักแล้ว

นักสืบยุคใหม่ จึงเน้นไปที่หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ มากกว่าคำรับสารภาพผู้ต้องหา

แน่นอนว่ามีข้อดี ก็ย่อมมีข้อเสีย ข้อเสียใหญ่หนีไม่พ้นความล่าช้าในการตรวจพิสูจน์ บางครั้งใช้เวลาเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน

ดังเช่นคดีที่เกิดขึ้น เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 24 ก.ค. ร.ต.อ.นัฐพงษ์ ชาพรหมสิทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เขาวิเศษ รับแจ้งพบศพ น.ส.ลัดดา จินดาแก้ว อายุ 33 ปี ถูกทุบศีรษะฆ่าโหดภายในห้องน้ำ โรงเรียนบ้านหนองคล้า หมู่ที่ 7 ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง

จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ถนอม อ่วมพรม ผกก.สภ.เขาวิเศษ พ.ต.ท.ชาติชาย วงศ์ปัญญา รองผกก.(สอบสวน) ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่สายตรวจ เจ้าหน้าที่วิทยาการ(พฐ.) แพทย์นิติเวชและหน่วยกู้ชีพบรรเทาเขาวิเศษ

สภาพศพ น.ส.ลัดดา สวมเสื้อยืดสีเหลือง นุ่งกางเกงขาสั้นสีครีม นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตจมกองเลือด โดยมีบาดแผลโดนตีด้วยของ แข็งที่ศีรษะ และมีร่องรอยเขียวช้ำบริเวณใบหน้า ขอบตาบวมปูด และต้นแขนทั้งสองข้างมีรอยช้ำคล้ายถูกจับมัด

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ น.ส.ลัดดา พาบุตรชายวัย 7 ขวบมาเตะฟุตบอลที่สนามหญ้าโรงเรียน ก่อนหายเงียบไปนาน หลังเลิกเล่นฟุตบอลบุตรชายไม่เจอแม่ ประกอบกับเป็นช่วงเวลามืดค่ำ จึงร้องไห้วิ่งตะโกนเรียกหา จนมีชาวบ้านช่วยออกตามหาแม่ จนมาพบกลายเป็นศพอยู่ภายในห้องน้ำของโรงเรียน

นายสมจิต ชัยเพชร ภารโรงโรงเรียนให้การว่า ได้ยินเด็กชายร้องไห้เรียกหาแม่ จึงเข้าไปสอบถาม จนทราบว่าแม่บอกจะไปเข้าห้องน้ำ ตนจึงได้ตามกลุ่มชาวบ้านมาช่วยกันระดมหา

เมื่อไปถึงที่บริเวณห้องน้ำของโรงเรียน ซึ่งเป็นเวลาช่วงค่ำประมาณ 19.00 น. ก็ได้ยินเสียงน้ำไหลจึงใช้ไฟส่องไป พบร่างของแม่เด็กนอนเสียชีวิตอยู่ที่หน้าห้องน้ำ จึงได้โทร.ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ

ด้านเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า โทรศัพท์มือถือของผู้ตายหายไป โดยเมื่อติดต่อไปยังเบอร์มือถือของผู้ตาย พบว่ายังโทร.ติดอยู่ แต่ไม่มีคนรับสาย ตรวจสอบบริเวณจุด เกิดเหตุไม่พบหลักฐานอื่นใด เจ้าหน้าที่จึงมอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิ นำส่งไปยังโรงพยาบาลวังวิเศษ เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต

ด้วยที่เกิดเหตุอยู่ในบริเวณโรงเรียน จึงสร้างความหวาดผวาให้บรรดาครู ผู้ปกครอง เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย วันรุ่งขึ้น พล.ต.ต.สมพงษ์ ทองใบ ผบก.ภ.จว.ตรัง จึงเรียกประชุมชุดสืบสวนคลี่คลายคดี พร้อมสั่งให้ไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงเรียน และตรวจสอบข้อมูลการใช้โทรศัพท์มือถือของผู้ตาย รวมทั้งสอบปากคำผู้อยู่ในเหตุการณ์และญาติๆ ของสาวผู้ตาย เพื่อเร่งหาปมสังหาร

ตำรวจได้ข้อมูลจากญาติพี่น้องเหยื่อว่า เจ้าตัวมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับนายวินิจ อัครสุวรรณกิจ ผอ.ร.ร.บ้านหนองคล้า จนถึงกับมาซื้อบ้านอยู่ตรงข้ามกัน ขณะที่สามีแยกกันอยู่ โดยฝ่ายชายไปทำงานอยู่ต่างจังหวัด แต่หลังจากทราบว่าภรรยาเสียชีวิต ก็ได้กลับมาจัดการเรื่องงานศพ ซึ่งในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายที่ลงมือน่าจะเป็นคนในพื้นที่ จึงตรวจสอบข้อมูลในทางลับ และรอรวบรวมพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ให้ได้มากที่สุด

คดีเหมือนจะเงียบๆ ไป แต่พอถึงวันที่ 27 ก.ค. นายวินิจ อัครสุวรรณกิจ ผอ.ร.ร.บ้านหนองคล้า ชิงเดินทางเข้ามอบตัวกับพ.ต.อ.ถนอม อ่วมพรม ผกก.สภ.เขาวิเศษ พร้อมให้การปฏิเสธว่า ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุดังกล่าว ทั้งที่ตำรวจยังไม่ทันเรียกตัวมาสอบสวน

นายวินิจ รู้ว่าตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ จึงชิงเข้ามอบตัวก่อนตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานจนถึงขั้นขอหมายจับ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาและนำตัวส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดตรัง ก่อนจะได้รับการประกันตัวออกไป แต่ก็ถูกผู้บังคับบัญชาสั่งให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อน

การที่นายวินิจ เข้ามอบตัว สร้างกระแสกดดันการทำงานของตำรวจ ด้วยคนที่รู้จักต่างออกมาการันตีว่าเจ้าตัวเป็นคนดี ไม่เชื่อว่าจะเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุ บ้างระบุว่าตร.ด่วนสรุป เกิดไป

ขณะที่ตำรวจก็ยืนยันในหลักฐาน ทั้งภาพวงจรปิดของโรงเรียน ที่เห็นนายวินิจ ขับรถกระบะเข้ามาในโรงเรียนก่อนขับออกไปหลังผ่านมา 18 นาที ซึ่งช่วงเวลาที่เข้าออก ใกล้เคียงกับเวลาเสียชีวิตของน.ส.ลัดดา ตามที่แพทย์นิติเวชชันสูตรพบ

แต่แค่นั้นยังไม่เพียงพอ เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์มามัดตัว แต่เนื่องจากบริเวณห้องน้ำที่เกิดเหตุไม่มีกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มามัดตัวคนร้าย โดยได้ส่งเสื้อผ้าของผู้ตายไปตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อหาดีเอ็นเอของคนร้ายที่คาดว่าจะปนเปื้อนอยู่ ระหว่างลงมือทำร้ายและฆ่าผู้ตาย

ล่าสุดก็มีข้อมูลออกมาว่า ตร.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ ร่วมสอบปากคำ เด็กชายลูกของน.ส.ลัดดา เนื่องจากเด็กชายบอกกับผู้เป็นพ่อว่า ในวันเกิดเหตุเห็นครูฉิม หรือนายวินิจ เดินตามมารดาไปที่ห้องน้ำ

แม้ตำรวจจะมั่นใจในพยานหลักฐาน แต่ผลถูกผิดก็ต้องอยู่ที่ศาลยุติธรรมจะเป็นผู้ตัดสินชี้ขาด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน