เจาะคดีหึงสยองสงขลา! – คดีอาชญากรรมเกี่ยวกับเรื่องราวพิศวาสฆาตกรรมไม่เคยห่างหายไปจากหน้าหนังสือพิมพ์
ล่าสุดเกิดเรื่องผัวเก่าที่เลิกรากันไปหลายปียังรำลึกถึงน้ำพริกถ้วยเก่า พยายามตามงอนง้อขอคืนดีอดีตเมียหวังกลับไปใช้ชีวิตคู่ด้วยกันอีกครั้ง
แต่เมื่อทราบว่าอีกฝ่ายกำลังจะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่กับชายอื่นก็เกิดหน้ามืดจนต้องการเป็นฆาตกร
เรื่องราวสลดครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา เมื่อมีผู้ไปพบศพน.ส.วรรณดี ศรีไสย อายุ 34 ปี ถูกจ่อยิงเสียชีวิตในสวนยางพารา พื้นที่หมู่ 5 บ้านควนดินแดง ต.เขาพระ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา
น.ส.วรรณดี ศรีไสย ผู้เสียชีวิต
หลังรับแจ้งเหตุ ร.ต.อ.สมปอง แก้วศิริ รองสารวัตรสอบสวน สภ.รัตภูมิ ก็รายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ก่อนรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมพล.ต.ต. ทิวธวัช นครศรี ผบก.ภว.สงขลา พ.ต.อ.บัญชา มีบุญ ผกก.สภ.รัตภูมิ พ.ต.อ.ดุสิต พรหมสิน ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์ หลักฐาน 9 แพทย์เวรนิติเวช ร.พ.รัตภูมิ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยรัตภูมิธรรมาวาส
ที่เกิดเหตุพบร่างผู้ตายสภาพหงายหน้า สวมชุดกรีดยาง เสื้อเชิ้ตแขนยาว กางเกงวอร์ม รองเท้าบู๊ตและสวมหมวกแก๊ป บริเวณหน้าอกมีบาดแผลลักษณะถูกจ่อยิงระยะประชิดถึง 7 นัดซ้อน และใกล้กับศพพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. ตกอยู่รวม 9 ปลอก
สอบสวนพยานแวดล้อมทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุไม่ใช่ใครที่ไหน คือ นายยุทธวี อินทะริ อายุ 43 ปี อดีตสามีของผู้ตาย ซึ่งเป็นคนในพื้นที่หมู่ 17 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา
นายยุทธวี อินทะริ ผู้ก่อเหตุ
ก่อนเกิดเหตุขี่รถจักรยานยนต์มาหาผู้ตายที่กำลังกรีดยางอยู่ในสวนยางพาราเพื่อเคลียร์ปัญหากัน แต่คุยกันไม่รู้เรื่องจึงใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิง 7 นัดซ้อน จนตายคาที่และหลบหนีไป
ส่วนสาเหตุทราบว่า มาจากเรื่องเงิน ความหึงหวง และความแค้น เพราะทั้งคู่แม้ว่าจะเลิกรากันมา 3 ปี แล้วและมีลูกชายด้วยกัน 1 คน อายุ 13 ปี ปรากฏว่าระยะหลังอดีตภรรยา มีสามีใหม่และพาเข้าไปอยู่ในบ้านที่สร้างด้วยกันมา นายยุทธวีไม่พอใจและขอเงินสร้างบ้านคืน 2 แสนบาท
แต่อดีตภรรยาไม่ยอมคืน ทำให้มีปัญหากันเรื่อยมา เคยถูกสามีขู่ฆ่าหลายครั้ง ทั้งเรื่องเงินและความ หึงหวงที่พาผู้ชายคนใหม่เข้าไปอยู่ ในบ้าน
กระทั่งมาลงมือก่อเหตุขึ้นในที่สุด
ขณะที่ตำรวจกระจายกำลังออกล่าตัวผัวเก่าเหี้ยมรายนี้ นาย ยุทธวีก็ติดต่อขอเข้ามอบตัวต่อตำรวจแต่โดยดี พร้อมนำอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. และรถจักรยานยนต์ที่ใช้เป็นพาหนะในการก่อเหตุ
หลังใช้เวลาสอบปากคำนานเกือบ 4 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาดำเนินคดี 3 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร ซึ่งผู้ต้องหาก็ยอมรับผิดและยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา
ญาติพี่น้องเศร้าร่วมงานศพผู้ตาย
ด้านนายบัญชา อินทะริ พี่ชายของผู้ต้องหาเปิดเผยว่า น้องชายสำนึกผิดขอเข้ามอบตัวเองโดยไม่ได้ติดต่อผ่านญาติหรือใครๆ และยอมรับผิดและยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหาขอไปรับโทษในคุก จะไม่สู้คดีหรือยื่นประกันตัวทั้งในชั้นพนักงานสอบสวนหรือในชั้นศาล เพราะกล้าทำก็กล้ารับ
สาเหตุที่ยิงอดีตภรรยาเท่าที่คุยกันทราบว่าไม่ได้ตั้งใจจะไปยิงภรรยา แต่จะไปหาบุคคลที่สามที่เข้ามาเกี่ยวพันกับภรรยาและเข้ามาอยู่ในบ้าน
แต่ตอนที่ไปไม่แน่ใจว่าอยู่ในบ้านหรือไม่ ส่วนที่ก่อเหตุยิงภรรยาน่าจะมาจากบันดาลโทสะ น้องชายสำนึกผิดและอยากจะไปขออโหสิกรรมภรรยา แต่หากไปสถานการณ์อาจจะไม่เอื้ออำนวย
ขณะที่ น.ส.วรรณา ศรีไสย อายุ 32 ปี น้องสาวของผู้ตาย กล่าวว่า เรื่องที่ผู้ต้องหาอ้างว่าพี่สาวมีชายอื่นมาติดพันนั้นไม่เป็นความจริง
เพราะรู้จักกับผู้ชายคนดังกล่าวไม่ถึง 2 เดือน และไม่ได้คบหาเป็นแฟนเป็นอะไรกัน เป็นเรื่องที่ปากชาวบ้านพูดกันไปเอง
ไม่ว่าเหตุผลที่แท้จริงของเหตุสลดครั้งนี้จะมีสาเหตุมาจากสายสนกลในอย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้ต้องหาต้องระเห็จเข้าไปใช้ชีวิตหลังแดนตะราง เพราะทำผิดอาญาบ้านเมือง
สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือลูกชายที่วัยเพียง 13 ปี นับต่อแต่นี้ต้องใช้ชีวิตลูกกำพร้าตามลำพัง ที่นอกจากขาดแม่แล้ว อยู่ดีๆ ก็ต้องยังกลายเป็นลูกฆาตกรในสายตาผู้อื่น
อนงค์ วงศ์ช่วย เรื่อง/ภาพ
