สดจากสนามข่าว

พฤตินัย มั่งสวัสดิ์ – วัฒนชัย จำนงค์ทอง เรื่อง/ภาพ

จับกันไม่หมดเสียที สำหรับแก๊งค้ายาเสพติด

แม้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะกวดขันเข้มงวดอยู่ไม่เคยผ่อนคลาย แต่ขบวนการนรกเหล่านี้ก็ไม่เคยเข็ดหลาบ

ล่าสุดตำรวจภูธรภาค 4 ก็ทลายแก๊งค้ายาข้ามชาติ ที่ใช้ภาคอีสาน ดินแดนใบขวาน เป็นแหล่งพักยาก่อนส่งต่อไปยังดินแดนด้ามขวาน ภาคใต้ เพื่อส่งออกไปยังประเทศที่ปลายแหลมมลายู

เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นข่าวใหญ่เมื่อ วันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา เมื่อพล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ รอง ผบช.ภาค 4 เปิดห้องประชุมฉัตรไพฑูรย์ บก.ภ.จว.อุดรธานี แถลงจับแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สส.ภ.4 พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พล.ต.ต.ทิวา บุญดำเนิน ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ พ.ต.อ.ชวิศ ศรีจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.ทวีรัชต์ ศรีธวัชพงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ พ.ต.อ. วิธ มุทธสินธุ์ ผกก.สส.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.อ.สุกฤษณ์ ข้อร่วมคิด ผกก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ พ.อ.ประกาศิต อรดี รองผบ. กกล.สุรศักดิ์มนตรี

ผู้ต้องหาประกอบด้วย นายอรรณพ ปูเต๊ะ อายุ 44 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชนเลขที่ 39/4 ม.2 ต.บ้านน้ำบ่อ อ.ปานาเระ จ.ปัตตานี และ น.ส.สุไฮลา ดือราแม อายุ 21 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชนเลขที่ 114 ม.5 ต.ปะเสยะวอ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ภรรยานายอรรณพ

ทั้งคู่ถูกจับกุมพร้อมยาบ้าจำนวน 1 ล้าน 8 แสนเม็ด โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง ถังพลาสติกขนาดใหญ่ 1 ใบ รถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน ฆบ1481 กรุงเทพมหานคร และรถบรรทุกสิบล้อยี่ห้อฮีโน่ ทะเบียน 70-9715 เพชรบุรี

พล.ต.ต.เจริญวิทย์เปิดเผยเบื้องหลังการจับกุมบิ๊กล็อตครั้งนี้ว่า เจ้าหน้าที่สืบทราบว่าจะมีขบวนการลักลอบค้ายาเสพติดลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดนด้าน จ.บึงกาฬ เข้ามาในพื้นที่ จ.อุดรธานี เพื่อส่งต่อไปยังจังหวัดในภาคใต้ จึงวางแผนจับกุม และกระจายกำลังเฝ้าจับตากลุ่มคนที่เข้าข่ายต้องสงสัย

กระทั่งพบว่าแก๊งยาเสพติดรายดังกล่าว นัดเครือข่ายให้นำยาบ้าไปส่งมอบที่โกดังเก็บสินค้าที่ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกบ้านผือ ถนนมิตรภาพ ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงนำกำลังไปซุ่มโป่งเฝ้าติดตามพฤติกรรม

เมื่อถึงเวลานัดหมายชุดจับกุมพบ น.ส.สุไฮลา ขับรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ โดยมีนายอรรณพนั่งมาด้วย หลังจากส่งสามีที่โกดังจุดนัดหมายเสร็จ น.ส.สุไฮลาก็ขับรถออกจากบริเวณดังกล่าวไปทันที

เจ้าหน้าที่จึงแบ่งกำลังจำนวนหนึ่งสะกดรอยตามรถของน.ส.สุไฮลาไป ก่อนสกัดจับได้บริเวณริมถนนห่างไปประมาณ 10 กิโลเมตร

ขณะที่ต่อมาทางด้านโกดัง มีชาย 2 คนขับรถบรรทุกสิบล้อเข้าไปในโกดังสินค้า ก่อนช่วยกันลำเลียงสิ่งของที่บรรทุกมาเข้าไปเก็บไว้ในโกดัง เจ้าหน้าที่ซึ่งเฝ้ารออยู่นานแล้วจึงแสดงตัวเข้าจับกุมทันที

แต่ชาย 2 คน ที่มากับรถสิบล้อไหวตัวทัน เผ่นหลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด เหลือเพียงนายอรรณพอยู่ให้จับกุมเพียงคนเดียว เมื่อตรวจสอบสิ่งของบนรถสิบล้อ ก็พบว่าเป็นยาบ้าจำนวนมากถึง 1 ล้าน 8 แสนเม็ดทีเดียว

สอบสวน 2 ผัวเมียนักค้ายาบ้า สารภาพว่า น.ส.สุไฮลาเคยถูกจับกุมในคดีครอบครองยาบ้า ที่ สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อปี 2558 จากนั้นร่วมกับนายทุนต่างชาติไปเปิดร้านอาหารที่ประเทศมาเลเซีย ทำให้รู้จักกลุ่มขบวนค้ายาเสพติดในประเทศมาเลเซีย และถูกทาบทามให้รับจ้างขนยาข้ามชาติในที่สุด

ด้านพ.อ.ปกาศิตเปิดเผยว่า จากการข่าวของฝ่ายทหาร ทราบว่าแก๊งยาเสพติดนี้เป็นเครือข่ายของ “บาแคระ” ขาใหญ่ชาวมาเลย์

ผู้ต้องหาคู่ผัวเมียที่จับได้เป็นคนสนิทของบาแคระ เป็นคนเชื่อมเครือข่ายยาเสพติดโดยตรงกับพ่อค้าชาวลาว ที่แขวงบอลิคำไซ ประเทศสปป.ลาว เพื่อร่วมกันขนลำเลียงยาเสพติดผ่านประเทศไทยไปยังประเทศมาเลเซีย

โดยมีนายเฮงและนายดิง ไม่ทราบนามสกุล เป็นคนมาเช่าโกดังตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมา แล้วใช้รถบรรทุก สิบล้อขนยาบ้าจำนวนครั้งละ 2-4 ล้านเม็ดผ่านไปตามถนนสายหลัก เมื่อเจอด่านจะจ่ายค่าผ่านทางตามปกติ เพื่อไม่ให้ผิดสังเกตจนถึงจุดหมายปลายทางที่ภาคใต้

แต่ถึงจะใช้วิธีซับซ้อนขนาดไหน เหล่าอาชญากรก็ไม่อาจพ้นสายตาเจ้าหน้าที่ไปได้ คู่ผัวเมียนักค้ายาจึงต้องระเห็ดไปใช้ชีวิตในคุก

รวมถึงหัวหน้าขบวนการชาวมาเลย์ที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง ก็คงไม่แคล้วต้องถูกเจ้าหน้าที่ไทยและมาเลย์ร่วมมือกันจัดการในเร็ววันนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน