คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
พนม คงเจริญ
อดิศร จิตตเสวี
เรื่อง/ภาพ
หลายคนคงเคยตั้งคำถามเหมือนกันว่า ทำไมเด็กนักเรียนชอบตีกัน คำถามง่ายๆ ที่ตอบยาก บ้างก็ว่าเพราะฮอร์โมนที่พลุ่งพล่าน บ้างก็ว่าเพราะความรักศักดิ์ศรี รักชื่อเสียงสถาบัน จะให้ใครมาใหญ่กว่า มาดูถูกเป็นไม่ได้ หรือบ้างก็ว่าที่ทำตัวเป็นหัวโจกไล่ตีเขาไปทั่ว เพราะต้องการการยอมรับจากพรรคพวก เพื่อนพ้องเท่านั้นเอง
จะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม ปัญหาเด็กนักเรียนตีกันกลายเป็นปัญหาเด็กๆ ที่ไม่เล็กนะครับ ก็เพราะเด็กสมัยนี้ไม่ใช้ไม้ที เหล็กฟุตอีกต่อไป แต่หันมาใช้ทั้งปืน มีด หรือแม้แต่ระเบิดเข้าห้ำหั่นกัน หวังให้ตายดับดิ้นกันไปข้างหนึ่ง
อีกปัญหาสำคัญคือเรื่องการตีฝาก การไล่ทำร้ายพวกที่ไม่ได้มีเรื่องกัน ขอแค่เรียนอยู่โรงเรียนคู่อริก็ใส่ไว้ก่อนแล้ว ทำให้เด็กที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ต้องพลอยรับเคราะห์แทน
เหตุการณ์หนุ่มอดีตน.ศ.ช่างกลย่านบางจาก วัย 19 ก่อเหตุสยองขี่จยย.ประกบเด็กนักเรียนโรงเรียนดังย่านพระโขนง อายุ 14 ก่อนถีบรถล้มแล้วใช้ดาบที่พกมาฟันแขนซ้ายเกือบขาด ก่อนหลบหนีไปลอยนวล ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง
เมื่อเวลาประมาณ 07.30 น. ของ วันที่ 31 ก.ค. ตำรวจโรงพักพระโขนง รับแจ้งเกิดเหตุเด็กนักเรียนถูกคู่อริไล่ทำร้าย บริเวณปากซอยอ่อนนุช 7/1 (วัดมหาบุศย์) แขวงและเขตสวนหลวง กทม. เมื่อสายตรวจไปถึงก็พบผู้บาดเจ็บเป็นนักเรียนโรงเรียนดังย่านพระโขนง มีแผลฉกรรจ์จากการถูกมีดฟันบริเวณต้นแขนซ้าย
นักเรียนที่ถูกฟันระบุก่อนเกิดเหตุขี่จยย.ไปเรียนตามปกติ แล้วก็ผิดสังเกต เห็นชาย 2 คนขี่จยย.ตามมาแบบมีพิรุธ เห็นท่าไม่ดีจึงพยายามหลบหนี แต่มาถึงที่เกิดเหตุ กลับถูกประกบถีบรถล้มแล้วไล่ฟันจนบาดเจ็บ ตร.คาดปมความแค้นต่างสถาบันหรือปัญหาส่วนตัว
ตำรวจนำภาพวงจรปิด ที่สามารถบันทึกภาพนาทีเกิดเหตุเอาไว้ได้ชัดเจนมาตรวจสอบ รวมทั้งไปตรวจสอบที่โรงเรียนช่างกลดังย่านบางจาก พูดคุยกับอาจารย์และเด็กๆ จนทราบว่า คนร้ายคืออดีตนักศึกษาของสถาบันดังกล่าว
รุ่งขึ้นวันที่ 1 ส.ค. ที่สน.พระโขนง พ.ต.ท.ณัฏฐ์ พิพัฒน์สวัสดิ์ รองผกก.สส.สน.พระโขนง เผยความคืบหน้าคดีว่า ขณะนี้ประสานให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุรวมทั้งเส้นทางการหลบหนีของคนร้ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
พบว่าผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นเด็กนักเรียนของโรงเรียนชายล้วน ย่านพระโขนง อายุ 14 ปี ส่วนผู้ก่อเหตุนั้นเป็นอดีตนักศึกษาย่านบางจาก ทั้งนี้ จากการสืบสวนทราบตัวคนร้ายแล้ว เป็นชายอายุ 19 ปี พักอาศัยอยู่ย่านอ่อนนุช ลาออกจากสถาบันดังกล่าวไปประมาณ 6 เดือน ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
เย็นวันที่ 2 ส.ค. พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.มงคล วรุณโณ ผบก.น.5 พ.ต.อ.ชนิน วชิรปาณีกูล ผกก.สน.พระโขนง พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ ภิญโญ ผกก.สส.บก.น.5 พ.ต.ต.นิธิ ตรีสุวรรณ สว.กก.สส.บก.น.5 และฝ่ายสืบสวนสน.พระโขนง
ก็ร่วมกันแถลงผลจับกุม นายไอซ์ อายุ 19 ปี และนายเอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี 2 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง เลขที่ จ.404/2560 และ จ.405/2560 ลงวันที่ 2 ส.ค.60 ข้อหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น และร่วมกันพกพาอาวุธมีด”
โดยสามารถจับกุมตัวได้พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า อาร์ 15 เอ็มวาย สีดำ ทะเบียน 5กฆ 7774 กทม. มีดดาบยาว 1 เล่ม เสื้อคลุมลายพราง 1 ตัว ทั้งนี้นายไอซ์ ถูกจับกุมได้ที่หอพักย่านบางพลี จ.สมุทรปราการ และจับกุมนายเอ ได้ที่หน้าโรงเรียนช่างกลชื่อดังแห่งหนึ่งย่านอ่อนนุช
พล.ต.ท.ศานิตย์เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าสาเหตุเป็นเรื่องของสถาบัน โดยที่กลุ่มของผู้ก่อเหตุพบว่าฝั่งของเด็กนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นโรงเรียนคู่อริในย่านเดียวกัน ได้ไปพ่นสีสเปรย์ใส่ตราสัญลักษณ์ของโรงเรียนช่างของผู้ก่อเหตุ จึงเกิดความแค้น
กระทั่งมาพบผู้บาดเจ็บซึ่งไม่เคยรู้จักกันและไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน เพียงแค่อยู่โรงเรียนคู่อริ จึงได้ก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งทำไปด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
“นายไอซ์ คนที่ใช้มีดดาบฟันเด็กนักเรียนผู้บาดเจ็บ เป็นอดีตเด็กนักเรียนช่างกล ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเคยเข้ามาเรียนและลาออกจากโรงเรียนถึง 2 ครั้ง โดยจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเชิญอาจารย์ของนักเรียนทั้ง 2 แห่งมาปรึกษาหารือ เกี่ยวกับการเฝ้าระวังและวางมาตรการป้องกันเหตุ เนื่องจากใกล้วันคล้ายวันสถาปนาของโรงเรียนทั้ง 2 แห่ง ส่วนนักเรียนที่บาดเจ็บนั้น ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้วและแพทย์ให้กลับมาบ้านพักฟื้นเพื่อดูอาการ 5 วัน” พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าว
ทางด้าน ผอ.โรงเรียนปทุมคงคา ระบุที่ผ่านมาทั้ง 2 สถานศึกษามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดในการทำกิจกรรมต่างๆ แต่อาจ จะมีนักเรียนบางกลุ่มที่อาจจะไปก่อเหตุ ยั่วยุ ขณะที่ ผอ.วิทยาลัยเทคโนโลยีกรุงเทพ ระบุว่า
ที่ผ่านมาทางสถาบันได้ประชาสัมพันธ์ ทำความเข้าใจ ไม่ให้เกิดเหตุทะเลาะวิวาท แต่เหตุครั้งนี้ยอมรับว่าแปลกใจ ที่ทางเด็กของสถาบันไปมีปัญหากับเด็กโรงเรียนมัธยม
ทั้ง 2 สถาบันรับว่า จากนี้จะกลับไปดูแลกลุ่มเด็กที่เข้าข่ายจะใช้ความรุนแรงให้มากยิ่งขึ้น