จาตุรนต์ แสวงนาม
เรื่อง/ภาพ
“ปู” พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ คงไม่มีใครปฏิเสธความโด่งดังของศิลปินนามอุโฆษนามนี้ที่เป็นอีกหนึ่งตำนานแวดวงการเพลงเพื่อชีวิต
บทเพลงมากมายที่กลั่นออกจากหัวใจ ปลายปากกา และเสียงร้องของเขา ได้รับความชื่นชอบจากผู้ฟังจนกลายเป็นอมตะ ทำให้มีแฟนคลับแห่แหนไปรับฟัง รับชมศิลปินในดวงใจ จนแน่นขนัดทุกคอนเสิร์ต ที่เขาเปิดแสดง
ไม่ว่าจะเป็นงานใหญ่อลังการระดับประเทศ ระดับภูมิภาค ระดับจังหวัด หรือแม้แต่ตามผับบาร์
แต่คงไม่มีครั้งใดที่ทำให้ศิลปินดังคนนี้จะต้องอึ้งเท่า ครั้งที่ไปเปิดคอนเสิร์ตที่ผับแห่งหนึ่งใน จ.อำนาจเจริญ
เมื่อจู่ๆ ถูกคนเอาปืนจ่อใส่ ทั้งๆ ที่กำลังยืนร้องเพลงอยู่บนเวที ท่วมกลางสายตาผู้คนนับพัน
หลังมีผู้ถ่ายคลิปเหตุการณ์ในช่วงเกิดเหตุนำไปเผยแพร่ในโลกโซเชี่ยล จนมีผู้วิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง
เหตุระทึกครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกวันที่ 2 ส.ค. ต่อเนื่องวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ ปู-พงษ์สิทธิ์ กำลังร้องเพลงและเล่นกีตาร์อยู่บนเวที
มีชายร่างใหญ่สวมเสื้อสีดำ เดินเข้าไปหาที่หน้าเวทีพร้อมชูมือซ้ายขึ้นเพื่อขอจับมือ แต่ขณะนั้นปูกำลังเล่นดนตรีจึงไม่ได้มาจับมือด้วย จากนั้นชายคน ดังกล่าวก็ชูมือขวาที่ถือปืนพกเล็งเข้าใส่ศิลปินคนดังก่อให้เกิดเสียงฮือฮา
ก่อนที่ปูจะหยุดร้องเพลงแล้วโถมตัวลงจากเวที พุ่งเข้าชาร์จชายถือปืน ส่วนคนร้ายก็วิ่งหนีไปในกลุ่มคนดู ปูก็จับไมค์ประกาศว่าช่วยกัน จับไว้ ถ่ายรูปไว้ด้วย เพราะมีปืน จากนั้นก็เกิดชุลมุนกันขึ้นก่อนจะช่วยกันจับไว้ได้ พร้อมปืนพกขนาด 9 ม.ม. ที่ใช้ก่อเหตุ ส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอำนาจเจริญ ดำเนินคดี
พล.ต.ต.พจน์ บุญมาภาคย์ ผบก.ภ.จว.อำนาจเจริญ เผยว่า ผู้ก่อเหตุชื่อ พ.อ.อ.ภพไตร นาคสุวรรณ อายุ 48 ปี สังกัดกองทัพอากาศ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สอบสวนและแจ้งความเอาผิด 2 ข้อหาคือ พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ และข่มขู่ โดยไม่ได้ดำเนินคดีข้อหาพยายามฆ่า
เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าปืนที่ใช้ข่มขู่นักร้องดังยังไม่ได้ขึ้นลำไว้ จึงไม่ได้แจ้งเอาผิดข้อหานี้
รุ่งขึ้น วันที่ 4 ส.ค. พ.อ.อ.ภพไตรก็เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอำนาจเจริญ อีกครั้ง เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม พร้อมเปิดใจให้สัมภาษณ์ว่า เป็นแฟนพันธุ์แท้ของ ปู-พงษ์สิทธิ์ และติดตามผลงานตั้งแต่ต้น
วันเกิดเหตุอยู่ในช่วงว่างงาน และเห็นว่าผับดังกล่าวมีคอนเสิร์ต ปู-พงษ์สิทธิ์ ที่ชื่นชอบจึงได้ไปเที่ยว อยากสัมผัสมือกับศิลปินในดวงใจสักครั้งในชีวิต ที่ได้มาดูเขาเล่นสดๆ
โดยเดินเข้าไปขอจับมือรอบแรก แต่ไม่เป็นผลจึงกลับไปนั่งที่โต๊ะ
หลังจากผ่านไปอีก 4-5 เพลง จึงเข้าไปขอจับมืออีกครั้ง แต่ ปู- พงษ์สิทธิ์ กลับเดินถอยหลังออกห่าง ทำให้เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ
ด้วยความเมาผสมกับความผิดหวัง อารมณ์ชั่ววูบที่คุมสติไม่อยู่ จึงยกปืนขึ้นไปโชว์ว่าตนมีปืนนะ อยากให้ศิลปินคนดังเกรงใจและยอมมาจับมือด้วยเท่านั้น
ไม่ได้คิดว่าจะไปยิง “ปู พงษ์สิทธิ์” แต่อย่างใด ปืนก็ไม่ได้ขึ้น ลำกล้องไว้
แต่พอเห็นว่าไม่เป็นผลจึงเดินฉากออกมา แต่ขณะกำลังจะเก็บปืน ก็โดนคนในผับดังกล่าวกรูเข้ารุมกระชากตัวจับส่งตำรวจ
“ผมอยากจะขอความเป็นธรรมด้วย ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผม ไม่ได้ตั้งใจที่จะยิงปู พงษ์สิทธิ์ อยากให้สงสารครอบครัวของผมด้วย เพราะข่าวที่แพร่สะพัดออกไปทำให้เสียชื่อเสียง และเสียหน้าที่ การงาน ที่ทำไปทั้งหมดก็เพียงเพราะอยากจะได้ใกล้ชิดกับนักร้องดังที่ผมชื่นชอบเพียงเท่านั้น” พ.อ.อ.ภพไตรครวญเสียงเศร้า
แม้ข้อเท็จจริงจะเป็นตามที่พันจ่าทหารอากาศแฟนพันธุ์แท้ “ปู พงษ์สิทธิ์” สารภาพ แต่การกระทำที่อุกอาจจึงไม่อาจพ้นผิดไปได้
นอกจากต้องถูกลงโทษตามอาญาบ้านเมืองแล้ว ยังต้องถูกสอบสวนทางวินัยด้วย ตามคำสั่งของ พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผบ.ทอ. ที่ให้หน่วยต้นสังกัดรายงานเรื่องทั้งหมดโดยด่วน
รวมถึงให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนเรื่องดังกล่าว เพราะการพกพาอาวุธไปในพื้นที่สาธารณะในขณะที่ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่นั้น ผิดกฎหมายและผิดวินัยชัดเจน โดยนำตัวไปคุมที่ มทบ.22 จ.อุบลราชธานี เพื่อสอบสวนวินัย และรอขึ้นศาลทหาร
แม้นต่อมานักร้องดังจะเขียนจดหมายระบุว่าไม่ขอเอาเรื่อง และ ให้ทนายความขอถอนแจ้งความ แต่เนื่องจากเป็นคดีอาญา ตร.จึง ไม่สามารถยอมความได้ พ.อ.อ.ภพไตรยังคงถูกดำเนินคดีตามข้อหาเดิม ถือเป็นบทเรียนที่ต้องจดจำไปอีกนาน