คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

พิรยุทธ นิมนนท์

ณเดช โรจนประดิษฐ์

เรื่อง/ภาพ

เสียงเอะอะโวยวาย บริเวณทางเดินเชื่อม ต่อรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีสนามกีฬาแห่งชาติและห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงบ่าย วันที่ 1 ส.ค. ทำให้ผู้คนแถวนั้นรับรู้ได้ทันทีว่า กลุ่มนักเรียน 2 สถาบันดัง เจ้าถิ่นย่านนั้น เปิดฉากซัดกันเข้าให้อีกแล้ว

แต่ครั้งนี้ดูจะรุนแรงกว่าคราวก่อนๆ เนื่องจากตรงกับวันสถาปนาโรงเรียนช่างกล ปทุมวันพอดี ทำให้มีนักศึกษาจำนวนมากเดินทางมาร่วมงาน

ร.ต.ท.สกลวิชญ์ เทพมา รอง สว. (สอบสวน) สน.ปทุมวัน รับแจ้งเหตุในเวลาต่อมา จึงรีบรายงานให้ พ.ต.อ.ภพธร จิตต์หมั่น ผกก.สน.ปทุมวัน รับทราบ ก่อนประสานกำลังสายตรวจและฝ่ายสืบสวนไประงับเหตุ

ในที่เกิดเหตุตำรวจพบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายจักพันธ์ ตวงศรีจันทร์ อายุ 22 ปี ถูกทุบที่ศีรษะ นายภูวดล อมาตยกุล อายุ 22 ปี บาดเจ็บถูกแทงบริเวณหลัง ด้านข้างซี่โครง และนายชานน ชวนขุนทด อายุ 20 ปี ถูกแทงบริเวณท้องบาดเจ็บสาหัส

คนเจ็บทั้งสามรายเป็นนักศึกษามหา วิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลภาคตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย จึงรีบนำตัวส่ง ร.พ. ตำรวจ แต่นายชานนเสียชีวิตในเวลาต่อมา

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า วันดังกล่าวเป็นวันสถาปนาสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน จึงมีการจัดกิจกรรมภายในสถาบัน ขณะที่กลุ่มนักศึกษาอุเทนถวายที่ยังอยู่ระหว่างปิดภาคเรียนได้นัดรวมตัวกัน ก่อนที่ทั้งสองกลุ่มมาเจอกันบริเวณสกายวอล์ก สนามกีฬาแห่งชาติ และเกิดการไล่ทำร้ายร่างกายกันและกันจนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว

คดีเด็กนักเรียนไล่ฆ่ากันกลางเมืองย่อมไม่ใช่เรื่องธรรมดา ด้วยมันกลายเป็นชนวนเหตุของการล่าล้างแค้นไล่ฆ่าเอาคืนกันไปมา ที่มีมานานจนเรียกว่า คู่กันมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งสถาบัน

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร. ชี้แจงว่า ปัญหาที่เกิดขึ้น ผู้บริหารสถาบันทั้ง 2 แห่งพยายามแก้ไขปัญหาตรงนี้ เหตุที่เกิดทราบว่า น.ศ.สถาบันอุเทนถวาย เป็นผู้หาเรื่องก่อน เหตุเกิดที่สถานีรถไฟฟ้าสนามกีฬาแห่งชาติ ไปถึงเห็นเด็กช่างกลปทุมวัน ออกมา มีการเรียกพวกออกมาสมทบกันทั้ง 2 ฝ่าย มีฝ่ายละ 7-8 คนยกพวกตีกัน จนมีผู้เสียชีวิต รองโฆษกตร. ระบุว่าขณะนี้ฝ่ายสืบสวน สน.ปทุมวัน ทราบตัวและเบาะแสมือมีดผู้ก่อเหตุแล้ว อยู่ระหว่างดำเนินการขอศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับ ส่วนบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล หาก พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

“มูลเหตุเชื่อว่าไม่ได้มาจากเรื่องตัวบุคคล เป็นเพราะเรื่ององค์กร ส่วนมาตรการป้องกันเหตุ ตำรวจทำหน้าที่ในการป้องกันเหตุอยู่แล้ว โดยหลังจากนี้ก็จะเพิ่มมาตรการเข้มงวดมากขึ้น อาทิ เพิ่มความถี่ของสายตรวจในการเฝ้าระวัง ร่วมกับสถาบันการศึกษา อีกทั้งฝากถึงเยาวชน และนักศึกษา ให้เลิกแนวคิดในเรื่องความขัดแย้งระหว่างสถาบัน หมดยุคแบบนั้นแล้ว” รองโฆษก ตร.กล่าว

ต่อมาที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ พล.ต.ต.พรชัย สุธีรคุณ ผบก.สถาบันนิติเวช รรท. รองนายแพทย์ใหญ่ (สบ 7) ร.พ.ตร. เปิดเผยผลการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นของนายชานน ว่ามีบาดแผลถูกของแข็ง มีคมหรือมีด แทงทะลุเส้นเลือดใหญ่ในช่องท้องทำให้เสียชีวิต

นางสุพรรณี รุ่งเรือง อายุ 47 ปี มารดาพร้อมด้วยญาติ และเพื่อนร่วมสถาบัน เดินทางเข้ารับศพ กล่าวทั้งน้ำตาว่า เหตุที่เกิดขึ้นตนยังทำใจไม่ได้ ขอให้ลูกของตนเป็นศพสุดท้าย เพราะครอบครัวจะเป็นผู้ที่เสียใจมากที่สุด

ก่อนที่ลูกจะเข้ามาเรียนที่สถาบันนี้ก็เคยห้ามแล้วแต่ไม่สำเร็จ ได้แต่ทำใจไว้ระดับหนึ่งแล้ว ลูกชายก็ยืนยันว่าจะเข้าเรียน เพื่อจะนำความรู้ไปประกอบวิชาชีพเลี้ยงครอบครัวในอนาคต ตนก็ได้แต่ให้พรลูกก่อนไปเรียนทุกเช้าขอให้ปลอดภัย

“ฝากไปยังนักศึกษา และเยาวชนที่มักก่อเหตุความรุนแรง ขอให้คิดถึงครอบครัวให้มาก แต่จะให้ไปห้ามความคิดใครก็ไม่สามารถทำได้ เพียงหวังว่าไม่ควรใช้อาวุธในการก่อเหตุ ชกต่อยก็น่าจะพอแล้ว จะได้ไม่เกิดการสูญเสียแบบนี้” นางสุพรรณีกล่าว

ส่วนความคืบหน้าทางคดี ที่กองบัญชา การตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เปิดเผยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เตรียมขออนุมัติศาลขอออกหมายจับผู้ต้องหา 1 คน โดยตำรวจจะเร่งรัดประสานอาจารย์เข้ามาพูดเพื่อป้องกันเหตุไม่ให้กลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว เรื่องที่เกิดขึ้นอาจเกิดจากความเข้าใจผิดกัน ทั้ง 2 สถาบัน

การวางกำลังตำรวจเพื่อป้องกันเหตุ มันไม่ได้แก้ต้นเหตุแต่แก้ที่ปลายเหตุ ถ้า ทั้ง 2 สถาบันละเลิกไม่คิดฝังใจในค่านิยมผิดๆ ไม่ตีกันหรือไม่แก้แค้นกัน ถึงจะเป็น การป้องกันระยะยาวได้ ผู้ที่คิดก่อเหตุควรนึกถึงพ่อแม่ ผู้ปกครอง คนรัก และครูบา อาจารย์ เพราะทำให้ตัวเองเสียอนาคต

ล่าสุดศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติหมายจับ นายศราวุธ โซ๊ะประสิทธิ์ อายุ 25 ปี นักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีช่างกลปทุมวัน ชั้นปีที่ 3 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมเครื่องกล ในข้อหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกาย ผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย ทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” ซึ่งทางชุดสืบสวนอยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี

วัยรุ่นอารมณ์ร้อน พอมาอยู่ร่วมกันก็ต้องการแสดงความเป็นผู้นำ ต้องการให้เพื่อนๆ ยอมรับ แต่เมื่อวิธีการมันผิด ผลลัพธ์มันก็ไม่มีวันจะถูกไปได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน