ย้อนตร.จับ2อดีตคนคุก – สังคมที่ไม่ให้โอกาสผู้กระทำผิดที่รับโทษตามกฎหมายแล้ว ได้มีงานทำ มีที่ยืน ในสังคมอีกครั้ง ก็เท่ากับมีส่วนในการผลักคนเหล่านี้ให้ต้องหันกลับไปเดินในเส้นทางผิดอีกครั้ง

หากแต่ในสภาพเศรษฐกิจยุคนี้ ยุคที่สุจริตชนยังพากันตกงานเพิ่มขึ้นทุกวัน จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหางานทำ สุดท้ายหลายรายก็หันหน้ากลับไปสู่วังวนเก่าๆ

คุมทำแผนในร.พ.

ย้อนไปเมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่ สภ.ย่อย เมืองอุดรธานี สาขา ร.พ.อุดรธานี นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.อุดรธานี พร้อมด้วย พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี, พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธุ์ ผกก.สส.ภ.จว.อุดรธานี, พ.ต.อ.อารี สินธุรา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี, พ.ต.ท.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี, พ.ต.ท.อรรคพล ยี่เกาะ สว.สส.ภ.จว.อุดรธานี และชุดสืบสวน ควบคุมตัวนายพัฒน์ภพงษ์ บัวสุวรรณ อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาลักทรัพย์ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพภายใน ร.พ.อุดรธานี

จับคาห้องพัก

โดยผู้ต้องหาชี้จุดที่ลงมือลักทรัพย์ ซึ่งได้เดินเตร่ไปเรื่อยๆ เพื่อเลือกเหยื่อที่ส่วนใหญ่เป็นญาติคนไข้ ที่นั่งหันหลังไม่ทันระวังตัว, นอนหลับตามม้านั่ง หรือมีพยาบาลวางโทรศัพท์มือถือ กระเป๋าเงิน กระเป๋าใส่ทรัพย์สินวางไว้ตามโต๊ะ ม้านั่ง ก็จะฉกฉวย

ก่อนจะเดินทางไปตามต่างจังหวัดเพื่อหลบหนีและก่อเหตุไปเรื่อยๆ ค่ำไหนนอนนั่น วันไหนได้เงินมาก ก็จะนอนรีสอร์ต กระทั่งถูกจับกุมตัวได้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร ขณะนอนพักผ่อนเพื่อเตรียม ก่อเหตุต่อใน ร.พ.สกลนคร

ยาของกลางในห้อง

พล.ต.ต.พิษณุกล่าวว่า สืบเนื่องจากมีเหตุลักทรัพย์ กระเป๋าเงิน โทรศัพท์มือถือ ใน ร.พ.อุดรธานี บ่อยครั้ง สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ป่วย ญาติผู้ป่วย และบุคลากรของโรงพยาบาล กระทั่งชุดสืบสวนได้เบาะแสคนร้าย เคยก่อเหตุแบบเดียวกันตามโรงพยาบาลทั่วภาคอีสาน

‘อู๊ด ไผ่เขียว’ จนมุม

ต่อมา พ.ต.ท.อรรคพล สืบทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้หลบซ่อนตัวในรีสอร์ต เขต อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร จึงนำกำลังไปจับกุมตัวได้ เบื้องต้นรับสารภาพว่า ก่อเหตุมาแล้วหลายสิบครั้ง ตั้งแต่เดือน พ.ค.63 เป็น ต้นมา ได้แก่ ร.พ.อุดรธานี, ร.พ.กุมภวาปี, ร.พ.หนองคาย, ร.พ.โพนพิสัย จ.หนองคาย, ร.พ.กาฬสินธุ์, ร.พ.ขอนแก่น, ร.พ.นาแก จ.นครพนม, ร.พ. โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร และ ร.พ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี

ด้าน พ.ต.ท.อรรคพลเปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า เคยถูกจับติดคุกในคดีพยายามฆ่า, ลักทรัพย์ ถูกต้องโทษที่เรือนจำ จ.สุรินทร์ เพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อเดือน มี.ค.63 จึงเดินทางกลับบ้านที่ จ.นครพนม

วงจรปิดมัด

แต่ไม่มีใครต้อนรับและถูกตราหน้าว่า “ไอ้ขี้คุก” ไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ เพราะเห็นลายสักเต็มตัว เลยตัดสินใจตระเวนลักทรัพย์ตามโรงพยาบาล เพราะเห็นว่าง่ายดี โดยเลือกเหยื่อที่กำลังนอนหลับ หรือเผลอวางทรัพย์สินไว้ห่างตัว ก็จะฉกฉวยลักทรัพย์เอาแล้วหลบหนีไปเรื่อยๆ ทั่วภาคอีสาน หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะคุมตัวไปดำเนินคดีในข้อหา “ลักทรัพย์ในสถานที่ราชการในเวลากลางคืน” ต่อไป

ขณะที่เรื่องราวของอีกรายเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 7 ส.ค. พ.ต.ท.ธนวัต เส้งสุย รอง ผกก.สส.สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ร.ต.อ.พงศ์ศักดิ์ หนูบูรณ์ รอง สว.สส. หน.ชปส.สภ.หาดใหญ่ และร.ต.ท.ณัฐฤกษ์ ขติยะสุนทร รอง สว.สส.สภ.หาดใหญ่ พร้อมตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.หาดใหญ่ จับกุม นายโกมล คุ้มภัย หรือหลวง หรือ ‘อู๊ด ไผ่เขียว’ อายุ 54 ปี พร้อมยาบ้าจำนวนหนึ่งที่ถนนแก้วสมนึก ชุมชนทุ่งเสา ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

จากนั้นเจ้าหน้าที่ขยายผลค้นห้องพัก 618 อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งภายในซอย ซ.3 ถ.ทุ่งเสา 1 ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ ยึดของกลาง ยาไอซ์ น้ำหนัก 38.70 กรัม ยาบ้า 430 เม็ด และของกลางอื่นๆ อีก 6 รายการ ซึ่งเจ้าตัวรับสารภาพและรับยาบ้ามาจากเพื่อนที่เคยติดคุกด้วยกัน

นาทีฉกทรัพย์

นายโกมลให้การว่า ตนเคยติดคุกมาแล้ว 2 ครั้ง รอบแรก 17 ปี ครั้งที่ 2 ประมาณ 10 ปี แต่ได้อภัยโทษ ติดคุกทั้งหมด 25 ปี ที่จำได้และครั้งล่าสุดได้ออกจากเรือนจำเมื่อปี 62 ที่ผ่านมาเคยหางานสุจริตทำแต่ทำได้ไม่นาน สุดท้ายเลยหันกลับมาค้ายาเสพติดอีกครั้ง

หลังสอบสวนตำรวจจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ ดำเนินคดีในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและพยายามจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายและเสพสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย

ทำผิดแล้วจะกลับมามีที่ยืนในสังคมอีกครั้งนั้นไม่ง่ายเลย ทางที่ดีจึงไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับเส้นทางสายนี้ตั้งแต่แรกจะดีกว่า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน