ผ่าชนวนฆ่าผญบ.ชัยภูมิ – ยาเสพติดที่แพร่ไปทั่วทุกหัวระแหงเป็นต้นตอของปัญหาอาชญากรรมต่างๆ มากมาย ไม่ใช่เฉพาะตำรวจเท่านั้นที่ต้องทำงานเสี่ยงภัยในการปราบปราม แต่ยังมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง โดยเฉพาะผู้นำท้องถิ่นก็ล้วนเป็นหัวหอกในการแจ้งข้อมูล จับกุมผู้เสพผู้ค้าในระดับชุมชน
แม้จะรู้ว่ามีความเสี่ยงในการทำหน้าที่แต่เมื่อสมัครใจเข้ามารับใช้พี่น้องประชาชน ได้ทำคุณประโยชน์ให้บ้านเมืองแล้ว ทุกคนก็พร้อมจะรับความเสี่ยงด้วยความเต็มใจ
ผู้ใหญ่แสวง อินเคน
ย้อนไปเมื่อเช้าวันที่ 11 ส.ค. พ.ต.อ. ไพโรจน์ ขุนหมื่น รองผบก.ผจว.ชัยภูมิ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ จันทรกานตานนท์ ผกก.สภ.ซับใหญ่ นำเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุคนถูกยิงเสียชีวิต หลังได้รับรายงานจากร.ต.อ.ศุภวรรณ มีชำนาญ พนักงานสอบสวน สภ.ซับใหญ่ ว่าเกิดเหตุยิงกันตายที่โรงสูบน้ำท้ายหมู่บ้านเขาดินวนา ต.ซับใหญ่ อ.ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ
ในที่เกิดเหตุพบร่างนายแสวง อินเคน อายุ 56 ปี เป็นผู้ใหญ่บ้าน บ้านเขาดินวนา หมู่ 13 ต.ซับใหญ่ นอนหงายจมกองเลือดอยู่ท้ายรถกระบะอีซูซุ สีน้ำเงิน ทะเบียน บย 7707 ชัยภูมิ หน้าโรงสูบน้ำประจำหมู่บ้าน สภาพไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงขาสั้นสีเทา ที่หน้าอกพบรอยกระสุน 1 นัด ไม่ทราบชนิด
ริมสระใกล้กับจุดเกิดเหตุยังพบเปลนอน 1 ผืน กาน้ำ 1 ใบ ตาข่ายดักปลา 1 ผืน ถังน้ำ 1 ใบ กระติกน้ำ 1 ใบวางอยู่ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เก็บไว้เป็นหลักฐาน คาดว่าผู้เสียชีวิตน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 2-3 ชั่วโมง
นางมาลัย อินเคน อายุ 62 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิตกล่าวว่า ช่วงเช้าของทุกวันสามีตนจะออกไปดูโรงสูบน้ำ ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใคร ก็จะมีเฉพาะการหวงห้าม ไม่ให้ลงหาปลาในอ่างเก็บน้ำประจำหมู่บ้าน เพราะน้ำมีน้อย เมื่อลงไปหาปลาก็จะทำให้น้ำขุ่น ซึ่งนำมาใช้เป็นประปาก็จะมีกลิ่นเหม็น
“อยากให้เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร็ว เพราะขนาดสามีเป็นผู้ใหญ่บ้านก็ยังกล้าทำได้ขนาดนี้” นางมาลัยกล่าว
หลังสอบสวนตำรวจตั้งไว้ 3 ประเด็นคือ ความขัดแย้งทางชู้สาว รับเหมาก่อสร้าง และหวงห้ามลงหาปลาในอ่างน้ำ โดยทางพ.ต.อ.ไพโรจน์ ขุนหมื่น รองผบก.ผจว.ชัยภูมิ สั่งการให้พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ จันทรกานตานนท์ ผกก.สภ.ซับใหญ่ เร่งประสานชุดสืบสวน เร่งแกะรอยหาผู้ที่กระทำผิดมาดำเนินคดีโดยเร็ว
เพียงชั่วข้ามคืนตำรวจก็ปิดคดีลงได้ โดยเมื่อวันที่ 12 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ ระดมตามจับคนร้าย หลังสืบทราบแล้วว่าผู้ก่อเหตุรายนี้คือนายไทย เขาดิน หรือนายอุทัย สุหร่าย อายุ 37 ปี มีภูมิลำเนาที่บ้านเขาดินวนา ต.ซับใหญ่ อ.ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ ซึ่งยังมีประวัติเป็นผู้ต้องหา หลบหนีประกันของศาลในคดียาเสพติด
พ.ต.อ.ไพโรจน์ ขุนหมื่น รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ จันทรกานตานนท์ ผกก.สภ.ซับใหญ่ นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนแกะรอยคนร้ายรายนี้จนได้ข้อมูลว่าหลังก่อเหตุเจ้าตัวหลบหนีไปกบดานที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งที่บ้านใหม่สันติ ต.มะเกลือใหม่ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา
ตํารวจรีบระดมกำลังออกติดตาม บุกเข้าจับกุมตัวในรีสอร์ตดังกล่าว พร้อมตรวจค้นยึดของกลางเป็นอาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติยี่ห้อเทารัส ขนาด 9 ม.ม. 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม.อีก 14 นัด เสื้อยืดแขนยาวสีน้ำตาล 1 ตัว เสื้อยืดแขนสั้นสีเทา 1 ตัว กางเกงขายาวลายทหาร 1 ตัว
ภายหลังจนมุมนายไทยผู้ต้องหารายนี้ให้การว่า หลังก่อเหตุยิงผู้ใหญ่บ้านรายดังกล่าวเสียชีวิตแล้วก็รีบหลบหนีไปอยู่ในรีสอร์ตแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.มะเกลือใหม่ ก่อนที่จะมาถูกเจ้าหน้าที่ออกติดตามจับกุมได้คารีสอร์ตดังกล่าว
นายไทย เขาดิน มือปืน
ส่วนสาเหตุผู้ก่อเหตุอ้างว่าเคยมีปัญหาโกรธแค้นกับผู้ใหญ่บ้านผู้ตายเรื่องการแจ้งข่าว รายงานข่าวความเคลื่อนไหวของตนให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบในเรื่องยาเสพติด จนถูกตำรวจบุกค้นบ้านจับยาเสพติดได้จำนวนหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้ตนต้องหนีประกันศาลจึงโกรธแค้น ก่อนนำปืนบุกไปยิงจนเสียชีวิต
พ.ต.อ.ไพโรจน์เผยว่า หลังผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีใน 3 ข้อหาประกอบด้วย “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันควร” ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิด กลับโทษว่าเป็นความผิดของคนอื่นคนเช่นนี้ย่อมยากจะกลับตัวกลับใจ
มัฆวาน วรรณกุล
เรื่อง/ภาพ
