ตามตร.ล่าจับโจรใจเหี้ยมฆ่าลุงร้านชำชิงเงิน700 อ้างถูกด่าเรื่องเติมน้ำมัน – ในยุคนิวนอร์มัลที่ผู้คนเคร่งเครียดกับการหารายได้มาจุนเจือครอบครัว ความอดทนของผู้คนก็หดหายไปตามระดับความเครียดที่เพิ่มขึ้น พูดผิดหูกันแค่คำสองคำก็อาจถึงตายได้โดยง่าย

เช่นคดีที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 ส.ค. ภายหลังร.ต.อ.ธวัช หนอสิงหา ร้อยเวร สภ.เมืองระยอง รับแจ้งเกิดเหตุปล้นทรัพย์ และทำร้ายเจ้าของร้านขายของชำ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 คน เหตุเกิดที่ร้านขายของชำในชุมชนโรงไฟฟ้าย่อย ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง จึงประสานแพทย์ร.พ.ระยอง หน่วยกู้ภัยสว่างพรกุศล เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายสืบ และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ระยอง เดินทางไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นร้านขายของชำ ภายในร้านข้าวของตกกระจายเกลื่อน พบร่าง นายยุทธพงศ์ พลกุล อายุ 62 ปี ซึ่งป่วยเป็นอัมพฤกษ์นอนจมกองเลือดอยู่กับพื้น ตรวจสอบพบร่องรอยถูกแทงด้วยของมีคมเข้าที่คอ 2 แผล และที่หน้าอก 2 แผล เลือดไหลทะลักออกมาตลอดเวลา แต่ยังหายใจรวยริน ใกล้กันพบผู้บาดเจ็บอีกรายคือ นางทองอยู่ สุวรรณ อายุ 58 ปี ถูกแทงด้วยของมีคมเข้าที่แขนซ้าย 3 แห่ง จึงรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้น แล้วนำตัวทั้ง 2 คน ส่งร.พ.ระยอง แต่นายยุทธพงศ์ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนนางทองอยู่อาการปลอดภัย

จากการสอบสวน นางสมศรี พลกุล ภรรยานายยุทธพงศ์ ผู้เสียชีวิต ให้การทั้งน้ำตาว่า ก่อนเกิดเหตุหลังจากเปิดร้านแล้วตนออกไปซื้อสิ่งของที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เพื่อเตรียมไว้จำหน่ายให้กับชาวบ้าน โดยภายในร้านมีผู้เสียชีวิตและน้องสาวที่ได้รับบาดเจ็บอยู่กัน 2 คน ตนต้องการให้จับคนร้ายให้ได้ เพราะถือว่าโหดเหี้ยมมาก ถ้าจะเอาทรัพย์สินทำไมต้องทำร้ายกันถึงตายด้วย

ด้านเพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่านาทีระทึกว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นผู้ชายใส่หมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีขาว ใส่เสื้อคลุมสีดำ กางเกงยีนส์ขายาว สวมรองเท้าผ้าใบสีดำคาดขาว ขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า คลิก สีดำ ไม่ทราบทะเบียน มาจอดที่หน้าร้านแล้วทำทีเป็นลูกค้าเดินเข้าไปในร้าน แล้วก็ชักมีดออกมาแทงใส่นายยุทธพงศ์ไม่ยั้ง หลังจากนั้น น้องสาวผู้ตายวิ่งเข้าไปดู ก็ถูกแทงที่แขนซ้าย แต่โชคดีวิ่งหนีเข้าหลบซ่อนตัวจึงรอดตาย หลังจากนั้นคนร้ายที่มาคนเดียวก็รีบรื้อค้นทรัพย์สิน แล้ววิ่งไปขี่รถหนีไปอย่างรวดเร็ว

หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ฐาปนะ คลอสุวรรณา ผกก.สภ.เมืองระยอง พร้อมพ.ต.อ.ภูมิสิทธิ์ สิงห์เถื่อน ผกก.สส.ภ.จว.ระยอง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายสืบ สภ.เมืองระยอง และ ตร.สายสืบ ภ.จว.ระยอง ลงพื้นที่หาเบาะแสคนร้าย ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด จนเห็นตัวคนร้ายขณะขี่จยย.หนี จึงตามแกะรอยจากทะเบียนรถ จนทราบชื่อคนร้ายคือ นายชูชาติ ประคำ อายุ 25 ปี ส่วนรถจยย. ที่ใช้ก่อเหตุ เป็นรถจยย. ฮอนด้า คลิก สีเขียว-ดำ ทะเบียน 1กม-8951ระยอง โดยพบว่าพักอาศัยอยู่ใต้อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งใน อ.เมืองระยอง

พอได้ข้อมูลแน่ชัดวันรุ่งขึ้นตำรวจจึงนำกำลังไปยังอพาร์ตเมนต์ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 10 ก.ม. พบตัวนายชูชาติกำลังนอนอยู่ในห้องพักชั้น 3 จึงเข้าจับกุมตัว พร้อมของกลางรถจยย. เสื้อผ้าที่ใส่ก่อเหตุ รวมถึงหมวกกันน็อก

ต่อมาเวลา 16.00 น.วันที่ 13 ส.ค. พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ฉลอง สุขจันทร์ ผบก.ภ.จว.ระยอง พ.ต.อ.ฐาปนะ คลอสุวรรณา ผกก.สภ.เมือง ระยอง ได้ควบคุมตัวนายชูชาติมาแถลงข่าวที่หน้า สภ.เมืองระยอง

โดยนายชูชาติให้การถึงสาเหตุลงมืออย่างโหดเหี้ยม ว่ากำลังตกงานอยู่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 เลยจะมามาขอยืมเงินเพื่อนในซอยดังกล่าว แต่เพื่อนไม่มาตามนัด ประกอบกับรถจยย.ที่ขี่มาเกิดน้ำมันหมด เลยไปเติมน้ำมันที่ร้านผู้เสียชีวิต โดยเติมไปก่อน 1 ขวด แล้วบอกลุงว่าขอติดค้างเงินไว้ก่อน แต่ลุงกลับด่าทอพร้อมเปิดลิ้นชักให้ดูว่าเพิ่งขายได้แค่ 700 บาท แล้วก็ด่าทออย่างรุนแรงว่ามือเท้ายังดีทำไมไม่รู้จักทำมาหากิน

ด่าไม่ด่าเปล่ายังหยิบถุงมะม่วงที่มีมีดปอกผลไม้อยู่ด้วย ขว้างใส่ ด้วยอารมณ์โมโหจึงคว้ามีดแทงใส่ลุงหลายครั้งจนล้มฟุบจมกองเลือด แล้วทางป้าวิ่งเข้ามาข้างหลังด้วยความตกใจจึงใช้มีดแทงใส่จนป้า ที่บาดเจ็บได้วิ่งหนีไป หลังจากนั้นได้เข้าไปหยิบเงินจำนวน 700 บาท ในลิ้นชักที่ผู้ตายเปิดให้ดูไปด้วยก่อนจะรีบขี่จยย.หนีกลับไปที่หัองพัก ล้างตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วโยนมีดและเสื้อผ้าทิ้งไปหลังห้องพัก แล้วก็ขี่จยย.ไปรับภรรยาที่เลิกงานกลับห้องพักตามปกติ จนกระทั่งวางแผนจะหลบหนี แต่มาถูกจับเสียก่อน

“ผมยอมรับว่าเสียใจที่ทำลงไปเพราะความใจร้อน แต่ไม่ขอโทษ ผมพร้อมรับผิด” นายชูชาติกล่าวทิ้งท้าย

ชยพล ปัญญาวิศิษฎ์กุล
เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน