ย้อนเหตุสลด!ซ้ำรอย – ทุกครั้งที่มีเหตุการณ์สลดเกิดขึ้นกับเด็กๆ ก็มักจะมีผู้ตั้งความหวังว่าขอให้เป็นรายสุดท้าย แต่ความหวังเช่นนั้นไม่เคยเป็นจริง มิฉะนั้น น้องกองบิน หรือ ด.ช.ธนกฤต ยอดมณี คงไม่เสียชีวิตด้วยวัยเพียง 2 ขวบ

เรื่องราวสลดถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 11 ส.ค.ที่ผ่านมา น้องกองบิน นักเรียนชั้นบริบาล ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดศรีมาราม อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช ถูกคนขับลืมทิ้งไว้ในรถตู้รับส่งนักเรียน จอดกลางแดดร้อนจัด ตั้งแต่เวลา 07.30-13.30 น. ส่งผลให้น้องกองบินอยู่ในอาการโคม่า ถูกนำตัวส่งรักษาตัวอยู่ที่ห้อง P.I.C.U. หรือหอภิบาลผู้ป่วยวิกฤต และวิกฤตเด็ก ร.พ.มหาราชนครศรีธรรมราช

น.ส.สุวภัทร ไชยธรรม อายุ 26 ปี แม่น้องกองบินเล่าว่า ช่วงเช้าวันที่ 11 ส.ค. ส่งลูกขึ้นรถตู้ของศูนย์เด็กเล็กตามปกติที่หน้าบ้าน แต่เหมือนเป็นลาง ปกติลูกจะได้นั่งข้างหน้า แต่วันนั้นถูกสั่งให้ไปนั่งหลัง ช่วงบ่ายโมงกว่าครูได้ส่งภาพในห้องมาให้ เมื่อไม่เห็นลูก จึงถามไปว่ากองบินไปไหน ครูตอบว่าไม่ได้มาโรงเรียน หลังจากนั้นได้รีบตามไปโรงเรียนจนทราบว่าได้นำตัวน้องกองบินไปส่งโรงพยาบาล แล้วจึงตามไปที่โรงพยาบาลพบว่าลูกอยู่ในสภาพชักอย่างรุนแรง

สดจากสนามข่าว

ญาติเฝ้ารอปาฏิหาริย์

แม่น้องกองบินกล่าวต่อเสียงเศร้าว่า แพทย์แจ้งว่าน้องมีอาการตับไตไม่ทำงาน ไม่ตอบสนอง หมอบอกให้ทำใจ ทุกอย่างไม่ทำงานแล้ว ตนขอร้องหมอบอกว่าอย่าถอดเครื่องช่วยชีวิตอยากให้โอกาสเด็กไว้ก่อน วันนั้นเหมือนกับการส่งลูกครั้งสุดท้ายจูบครั้งสุดท้ายไม่นึกว่าไปส่งลูกครั้งสุดท้ายแบบนี้ อย่าให้มีรถตู้ส่งเด็กแบบนี้อีกเลย มีแค่รถสองแถวพอจะได้เห็นว่ามีเด็กค้างอยู่ในรถหรือไม่

ต่อมาวันที่ 15 ส.ค. พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยพ.ต.อ.อาทิตย์ เกิดก่อ ผกก.สภ.พิปูน เข้าเยี่ยมอาการของน้องกองบิน พร้อมให้กำลังใจ น.ส.สุวภัทร ไชยธรรม อายุ 26 ปี และนายธวัชชัย ยอดมณี อายุ 29 ปี พร้อมมอบเงินให้จำนวนหนึ่งเพื่อเป็นกำลังใจ และช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในระหว่างการเฝ้าดูแลอาการของลูก และได้ให้คำปรึกษาและชี้แจงขั้นตอนการดำเนินคดีกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

พล.ต.ต.สนธิชัยกล่าวว่า ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนเร่งสอบปากคำแม่ของเด็ก เพื่อให้ทราบขั้นตอนการส่งลูกชายขึ้นรถ หลังจากนั้นจะเรียกผู้ขับขี่รถและครูที่ควบคุมดูแลนักเรียนในรถ โดยจะต้องถูกแจ้งข้อกล่าวหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายสาหัส

ขณะที่การสอบสวนพบว่ารถตู้คันที่เกิดเหตุเป็นรถส่วนตัวของรักษาการผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาเด็กเล็กวัดศรีมาราม ซึ่งอยู่ในความดูแลของเทศบาลตำบลกะทูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช ไม่ใช่รถของทางราชการ

สดจากสนามข่าว

พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ให้กำลังใจ

โดยนางสุนิษฐา ผูกพานิช หัวหน้าศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์วัดศรีมาราม ชี้แจงว่า ตนทำหน้าที่ขับรถตู้คันดังกล่าว ช่วงเช้าวันเกิดเหตุได้ขับรถตระเวนรับนักเรียนทั้งหมด 17 คนตามปกติ โดยมีครูเวรนั่งไปด้วย พอถึงศูนย์ก็ขับเข้าจอดด้านหน้าโรงเรียน ข้างเสาธง เพื่อให้นักเรียนลงจากรถ

ยอมรับว่าตอนแรกคิดว่านักเรียนลงจากรถหมดแล้ว ครูเวรจึงปิดประตูรถ แต่ไม่ได้ตรวจสอบให้ดีว่ามีนักเรียนยังติดอยู่ในรถตู้หรือไม่ ซึ่งรถตู้คันดังกล่าวมีที่นั่งจำนวน 4 แถว ส่วน ด.ช.ธนกฤต หรือน้องกองบิน นั่งแถวที่สองริมหน้าต่างซ้ายมือ

น.ส.สุนิษฐากล่าวว่า จากนั้นก็สอนนักเรียนตามปกติ กระทั่งบ่ายโมงครึ่ง ผู้ปกครองโทรศัพท์สอบถามหาลูก เพราะไม่เห็นลูกวิ่งเล่นกับเพื่อนในโรงเรียน จึงสำรวจในห้องเรียนพบว่าไม่พบน้องกองบินอยู่ในห้องเรียน จึงช่วยกันหาทั่วทั้งโรงเรียน แต่ไม่พบ สุดท้ายมาพบว่าน้องกองบินนอนหมดสติอยู่ในรถตู้ จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล

เมื่อไม่มีปาฏิหาริย์นาทีแห่งความสูญเสียก็มาถึงเมื่อน้องกองบินจากไปอย่างสงบในเวลา 17.20 น.

ด้านพล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ในทางคดีสภ.พิปูน ได้ลงประจำวันไว้แล้วตั้งแต่วันเกิดเหตุและสอบปากคำในเบื้องต้น แต่เด็กยังอยู่ในห้องไอซียู จึงยังไม่แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหา หลังตนได้เข้าเยี่ยมเด็กได้กำชับให้ตำรวจดำเนินการอย่างเต็มที่

สดจากสนามข่าว

พ่อร่ำไห้

หลังจากน้องกองบินเสียชีวิต ทางนางสุนิษฐา ผูกพาณิช รักษาการหัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ซึ่งเป็นคนขับรถตู้และน.ส.วิลัยวรรณ ริยาพันธ์ ครูผู้ดูแล ก็เข้ามอบตัวกับตำรวจที่ สภ.พิปูน ก่อนถูกแจ้งข้อหา กระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ให้ผู้ต้องหารับทราบไปแล้ว ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ

ส่วนที่น.ส.สุวภัทร แม่น้องกองบินยังติดใจสงสัยในประเด็นเรื่องคนขับรถ เนื่องจากเจ้าตัวยืนยันว่าเห็นคนขับเป็นผู้ชายซึ่งคาดว่าจะเป็นสามีของนางสุนิษฐา ซึ่งเมื่อสอบถามเด็กๆ ในรถก็บอกตรงกันว่าผู้ชายขับ จึงสงสัยว่าอาจมีการสลับตัวผู้มารับผิดแทนนั้น

พ.ต.อ.อาทิตย์ เกิดก่อ ผกก.สภ.พิปูน ไขข้อข้องใจดังกล่าวว่า นางสุนิษฐาให้การว่า สามีเป็นอดีตข้าราชการเกษียณอายุ ปกติจะเป็นคนขับรถรับส่งนักเรียนเป็นประจำ แต่ระยะหลังมีปัญหาสุขภาพ จึงมีการสลับกันขับ โดยสามีจะเป็นคนขับไปรับนักเรียนที่บ้านในตอนเช้า เมื่อรับครบแล้วก็จะขับกลับมาที่บ้าน เพื่อเปลี่ยนให้นางสุนิษฐาขับต่อไปโรงเรียน เพราะต้องไปทำงานอยู่แล้ว

ระหว่างวันก็จะจอดรถไว้ในโรงเรียน พอเลิกเรียนนางสุนิษฐาก็จะขับไปส่งนักเรียนที่บ้านเอง ซึ่งวันเกิดเหตุก็เป็นเช่นนั้น จึงไม่แปลกที่แม่น้องกองบินจะเห็นสามีนางสุนิษฐาเป็นคนขับ ยืนยันว่าไม่มีการสลับตัวคนขับอย่างแน่นอน

หากผู้ที่ทำงานกับเด็กๆ ยังไม่ตระหนักถึงขั้นตอนในการดูแลความปลอดภัยให้กับเด็กๆ น้องกองบินก็ย่อมไม่ใช่เหยื่อรายสุดท้าย

สุเชษฐ์ แรกรุ่น

เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน