ตามกองปราบฯลุยล้างบางทลายรง.ผลิตปืนเถื่อน – ความสามารถในเชิงช่างของช่างชาวไทยนั้นจัดว่าไม่เป็นสองรองใคร ทั้งความรู้เรื่องวัสดุศาสตร์ โลหวิทยา ที่ถูกสั่งสมถ่ายทอดกันมาในการผลิตศาสตราวุธ แต่สำหรับอาวุธปืนนั้นมันต่างกันออกไป ด้วยมีพ.ร.บ.ควบคุมอาวุธปืนกำกับเอาไว้อย่างเข้มงวด ชนิดที่เรียกว่าแทบไม่เปิดโอกาสให้ช่างชาวบ้านสามารถผลิตอาวุธปืนได้เองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

เมื่ออาวุธปืนที่ถูกต้องตามกฎหมายถูกนำเข้าจากต่างประเทศและมีราคาแพง ความต้องการปืนราคาถูกมีมากขึ้น อาวุธปืนเถื่อนจึงถูกลักลอบผลิตขายกันในหมู่ชาวบ้านตามชนบท ทั้งปืนแก๊ป ปืนลูกซองทั้งยาวและสั้น แต่ก็เป็นการหาซื้อกันได้ในกลุ่มแคบๆ ในท้องถิ่น

แต่เมื่อหาซื้อได้ทางอินเตอร์เน็ต ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป อาวุธปืนเถื่อนถูกซื้อขายกันไม่ต่างกับสินค้าทั่วไป กระทั่งถูกนำมาใช้ก่อเหตุในหลายๆ คดี ตำรวจจึงต้องเปิดปฏิบัติการปราบปรามอย่างจริงจัง

ย้อนไปเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 20 ส.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป. พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ ผกก.สสน.บก.ป. และ พ.ต.ท.สุพจน์ พุ่มแหยม รอง ผกก.5 บก.ป. ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติการจับกุมแก๊งค้าอาวุธปืนเถื่อนออนไลน์ ‘ใจเจ็บ เจ็บใจ’ หลังจากเปิดปฏิบัติการเข้าตรวจค้น 71 จุดใน 39 จังหวัดทั่วประเทศ

เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 48 ราย พร้อมตรวจยึดอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ของกลาง ขนาด .22 แอลอาร์ และขนาด .22 แม็กนั่ม จำนวน 120 กระบอก ลำกล้องปืน จำนวน 82 ชิ้น ชุดลั่นไก และลูกเลื่อน จำนวน 9 ชุด พานท้ายปืน จำนวน 12 ชิ้น โก่งไกปืน จำนวน 31 อัน ซองกระสุนปืน 39 อัน และเครื่องกระสุนปืนขนาดต่างๆ รวม 2,216 นัด

พล.ต.ต.จิรภพเปิดเผยว่า ปฏิบัติการครั้งนี้มาจากการขยายผลคดียิงกันตายที่ สภ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี โดยพบว่าอาวุธปืนที่นำมาใช้ก่อเหตุ เป็นปืนเถื่อนที่ซื้อมาจากเพจเฟซบุ๊ก “ใจเจ็บ เจ็บใจ” ซึ่งเป็นเพจใหญ่มีผู้ติดตามมากกว่า 5 หมื่นคน รวมทั้งยังมีช่องทางให้ติดตามผ่านโซเชี่ยลต่างๆ หลายช่องทาง เช่น ยูทูบ ซึ่งปัจจุบันมี ผู้ติดตามกว่า 5 แสนคน รวมถึงไลน์กลุ่มออฟฟิเชี่ยลอีกหลายกลุ่ม อาวุธปืนส่วนใหญ่ที่ลักลอบจำหน่ายจะเป็นปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 ที่ผลิตเลียนแบบอาวุธปืนยี่ห้อดัง เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับและหมายค้น นำไปสู่ปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด

พล.ต.ต.จิรภพเผยรายละเอียดของขบวนการผลิตและขายปืนเถื่อนรายนี้ว่า สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คนโดยแบ่งหน้าที่กันชัดเจนคือ 1.นายธนัทนันท์ นันท์ชัยวงศ์ อายุ 26 ปี ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าขบวนการ คอยทำหน้าที่เป็นแอดมิน กลุ่มบริหารจัดการลูกค้าและสินค้าต่างๆ รวมถึงยังเป็นผู้ผลิตปืน 2.นายขันตรี แก้วคุณนอก อายุ 37 ปี ทำหน้าที่เป็นผู้ผลิตพานท้ายปืนสำหรับรุ่นพิเศษที่ลูกค้าต้องการ และ 3.นายกนกพล รักตน อายุ 19 ปี ทำหน้าที่คอยแพ็กของส่งสินค้าให้กับลูกค้า

ทั้ง 3 คนเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ร่วมกันทำ ประกอบซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มีหรือจำหน่ายซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต”

นอกจากทั้ง 3 คนยังมีอีก 45 คน ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้า เป็นการจับกุมในฐานความผิดซึ่งหน้าเกี่ยวกับความผิดตามพ.ร.บ.อาวุธปืน เพราะมีการครอบครองปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต

“สำหรับอาวุธปืนของกลางที่ตรวจยึดได้นั้นพบมีการทำเลียนแบบปืนยี่ห้อดังจากต่างประเทศ ราคาเริ่มต้น 9.5 พันบาท แต่หากต้องการแบบคุณภาพสูงราคาก็เพิ่มขึ้นไปอีกเป็น 2.2 หมื่นบาท” พล.ต.ต. จิรภพกล่าว

พ.ต.ท.สุพจน์กล่าวว่า ช่วงเวลา 4 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มผู้ต้องหามีการส่งสินค้าไปยังลูกค้าแล้วนับหลายร้อยครั้ง หากรวมกับก่อนหน้านี้เชื่อว่าน่าจะมียอดส่งสินค้าไม่ต่ำกว่าพันกระบอก

จากการตรวจสอบประวัติของนายธนัทนันท์เป็นตัวการหลัก ก็พบว่าจบการศึกษาระดับ ปวส. ด้านคอมพิวเตอร์ ก่อนจะไปมีอาชีพกรีดยางและขายอุปกรณ์ตกปลา แต่ด้วยสนใจและชื่นชอบอาวุธปืน จึงลองศึกษาผ่านอินเตอร์เน็ต แล้วสั่งซื้ออุปกรณ์ต่างๆ มาประกอบขายเอง ได้กำไรกระบอกละประมาณ 5,000 บาท โดยมีฐานการผลิตอยู่ที่ จ.เชียงราย ส่วนพานท้ายปืนมีฐานผลิตที่ จ.นครราชสีมา รูปแบบการส่งสินค้าจะใช้วิธีทยอยส่งแบบกระจายชิ้นส่วนหรือส่งทั้งกระบอก

สำหรับผู้ต้องหาตัวการทั้ง 3 คนนั้น ทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ลักลอบขายมาแล้ว 2 ปี จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป. ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งเตรียมขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการที่เหลือต่อไป

ธานี ทวีเกิด-เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน