สดจากสนามข่าว
ตามบิ๊กแป๊ะแถลงจับยา
ล็อตมหึมา !1,600ล้าน
ผ่านด่านเจดีย์สามองค์
สดจากสนามข่าว – ตามบิ๊กแป๊ะแถลงจับยา ล็อตมหึมา!1,600ล้าน ผ่านด่านเจดีย์สามองค์ – นโยบายป้องกับปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง ทำให้ขบวนการยาเสพติดพยายามปรับเปลี่ยนเส้นทางลำเลียงใหม่ๆ เพื่อป้องกันการตรวจจับของเจ้าหน้าที่
ด้วยชายแดนที่ติดกับประเทศเมียนมา เป็นระยะทางกว่า 370 กิโลเมตร มีช่องทางเข้า-ออกประมาณ 43 ช่องทาง จังหวัดกาญจนบุรี จึงเป็นเป้าหมายใหม่ที่ขบวนการค้ายาใช้เป็นช่องทางลำเลียงยาเสพติดเข้าไทย
ย้อนไปเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่หน้าสภ. ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. นำทีมพร้อมด้วย พล.ต.อ. สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผบ.ตร., พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วยผบ.ตร., พล.ต.ท. อภิชิต เทียนเพิ่มพูน ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ตร., พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.สส.ภาค 7, พล.ต.ต.วรณัน สุขเจริญ ผบก.กาญจนบุรี พล.ต.ต.ไพโรจน์ ทานธรรม ผบก.ตชด. ภาค 1 ร่วมกับ พล.ต.สุวิทย์ เกตุศรี รองแม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต.ฐกัด หลอดศิริ ผบ.พล.ร.9 เจ้าหน้าที่สำนักงานป.ป.ส. และฝ่ายปกครอง แถลงผลจับกุมยาเสพติด ล็อตใหญ่ รวมมูลค่ากว่า 1,600 ล้านบาท
ขนของกลาง
ของกลางประกอบด้วยเฮโรอีน 77 กิโลกรัม ยาไอซ์ 1,385 กิโลกรัม ยาเคตามีน 500 กิโลกรัม รถบรรทุก 12 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ หมายทะเบียน 72-5155 นครปฐม ถูกดัดแปลงสำหรับซุกซ่อนยาเสพติด และโทรศัพท์มือถือ รวมทั้งนายศักดิ์ชัย หรือ โก้ แกรอด อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55/5 หมู่ 15 ต.บ้านคา อ.บ้านคา จ.ราชบุรี ผู้ต้องหา
ผบ.ตร.แถลงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเฝ้าติดตาม และเพิ่มความ เข้มข้นในการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดในช่วงสถานการณ์โควิด และสำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดให้ปราบปรามยาเสพติดในทุกมิติ โดยบช.ภาค 7 กำชับการปฏิบัติเร่งปราบปรามยาเสพติดตามนโยบายรัฐบาล และคำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมบูรณาการกับกระทรวงมหาดไทย กองพลทหารราบที่ 9 และสำนักงานป.ป.ส.
กระทั่งเมื่อวันที่ 24 ส.ค. ตำรวจ สภ.ทองผาภูมิ บช.ภาค 7 ร่วมกันบูรณาการกับทหารหน่วย ฉก.ลาดหญ้า ฝ่ายปกครอง อ.ทองผาภูมิ ป.ป.ส.ภาค 7 และ ตชด.135 ร่วมกันจับกุมนายศักดิ์ชัย พร้อมของกลางยาเสพติดจำนวนมากดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพบเห็นผู้ต้องหาขับรถเก๋งไปทาง อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี พฤติกรรมมีพิรุธ จึงให้สายลับเฝ้าติดตาม และได้รับแจ้งจากสายลับว่าเมื่อผู้ต้องหาเดินทางไป อ.สังขละบุรี ได้เปลี่ยนเป็นรถบรรทุก
ช่องลับซ่อนยา
ต่อมาเวลา 23.00 น.วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่พบผู้ต้องหาขับรถบรรทุก 12 ล้อ ทะเบียน 72-5155 นครปฐม ตรงตามที่สายลับแจ้งเบาะแส เมื่อมาถึงจุดตรวจร่วมสามแยกหมู่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จึงเรียกขอตรวจค้น พบยาเสพติดของกลางจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ในช่องดัดแปลงในกระบะบรรทุกจึงตรวจยึดเอาไว้ และแจ้งข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์ เฮโรอีน) มีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ได้เกินกว่า 20 กรัมขึ้นไปไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย มียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (เคตามีน ยาเค) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”
คุมตัวไปทำแผนฯ
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนนายศักดิ์ชัยให้การรับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างให้ขับรถเก๋งขึ้นมาพักค้างคืนที่รีสอร์ตในพื้นที่ด่านเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรีเพื่อรอที่จะขับรถบรรทุกกึ่ง 12 ล้อคันดังกล่าว ออกจากบริเวณด่านเจดีย์สามองค์ บริเวณช่องทางบ้านบ่อญี่ปุ่น ตรงข้ามจุดตรวจด่านความมั่นคงบ้านน้ำเกิ๊ก มุ่งหน้าไปยังจังหวัดนครปฐม เพื่อนำไปส่งให้กับลูกค้า โดยได้รับการว่าจ้างมาในราคาเที่ยวละ 150,000 บาท จากนี้เจ้าหน้าที่จะสืบสวนขยายผลเครือข่ายยาเสพติดของนายศักดิ์ชัยต่อไป
ผบ.ตร.สอบผู้ต้องหา
บ่ายวันที่ 27 ส.ค. ตำรวจคุมตัวนายศักดิ์ชัยไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนจะนำตัวส่งศาลเพื่อขอฝากขัง สำหรับผู้ร่วมขบวนการและเป็นผู้ที่นำรถบรรทุก 12 ล้อข้ามไปซุกซ่อนยาเสพติด แล้วนำกลับมาให้นายศักดิ์ จากการสอบสวนผู้ต้องหาคือนายโก๊ะ อายุประมาณ 39 ปี และเป็นเจ้าของร้านธนกิจ เจดีย์ โดยนายโก๊ะ เป็นชาวเมียนมา ที่เข้ามาอาศัยอยู่ที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู โดยคาดว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถรวบรวมพยานหลักฐานในการขออนุมัติหมายจับได้ในเร็วๆ นี้
ชี้เส้นทางลอบขนยา
จากข้อมูลในเชิงลึกพบว่า การลำเลียง ยาเสพติด 3 ครั้งที่ผ่านมานายศักดิ์ชัยได้ลำเลียงไปส่งในพื้นที่ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี จำนวน 2 ครั้ง สำหรับครั้งที่ 3 ลำเลียงไปส่งในพื้นที่ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยจะได้ค่าจ้างประมาณ 70,000-150,000 บาท ส่วนครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน
เมื่อยังมีความต้องการ สงครามระหว่าง เจ้าหน้าที่กับขบวนการค้ายานรกคงยังไม่จบ ลงง่ายๆ
ยุทธศักดิ์ สุขเจริญ/ศุภมาศ จงสกุล/เกตุแก้ว จงเจริญ
เรื่อง/ภาพ
