คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
สภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ยังไม่เห็นแสงสว่างจากปลายอุโมงค์ และยังไม่พบว่าภาครัฐจะมีทิศทางกอบกู้ให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้งได้อีกเมื่อไหร่
เมื่อไร้ความหวังทำให้หลายคนมืดมนอับจนหนทางที่จะแก้ไขปัญหาที่รุมเร้าอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินผู้อื่นมาประทังชีวิตและกิจการ
สุดสลดนอนตายเรียงกัน
ล่าสุดก็เกิดเหตุสลดขึ้นที่เมือง กล้วยไข่ในช่วงเช้าวันที่ 2 ก.ย. เมื่อร.ต.อ.ปรัชญา ทาบ้านฆ้อง รองสว.สอบสวน สภ.เมืองกำแพงเพชร รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิต 3 ศพ ภายในบ้านไม่มีเลขที่ ม.13 ต.นิคมทุ่งโพธิ์ทะเล อ.เมือง จ.กำแพงเพชร
หลังรับแจ้งจึงรีบรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นก่อนนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมพ.ต.อ.ศุภชัย ชัยสุวรรณ ผกก. พ.ต.ท.ไพฑูรย์ นัยเจริญ รองผกก.สอบสวน พ.ต.ท. เทวิน นาจารย์ รองผกก.สส. เจ้าหน้าที่สายตรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่พฐ. แพทย์ร.พ.นิคมทุ่งโพธิ์ทะเล และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยสว่างกำแพงเพชรธรรมสถาน
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ยกสูงมุงด้วยสังกะสีอยู่ในสวนมะนาว พบศพนาย พยอม ศรีทอง อายุ 59 ปี เจ้าของบ้าน นอนหงายอยู่บริเวณข้างที่นอนติดกับมุ้ง มีบาดแผลถูกอาวุธปืนลูกซองยิงเข้าใต้คาง โดยพบปืนลูกซองยาวตกอยู่บริเวณปลายเท้าข้างซ้าย
ชาวบ้านรู้ข่าวถึงช็อก
ส่วนบนที่นอนพบศพนางสำราญ ศรีทอง อายุ 53 ปี ภรรยานายพยอม นอนคว่ำหน้ามีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนลูกซองเข้าด้านหลัง ใกล้กันพบศพน.ส.วิภาวรรณ ภูนากเกี้ยว อายุ 20 ปี นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.พะเยา ลูกสาวบุญธรรมของทั้งคู่ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่หน้าอกซ้ายมีผ้าห่อคลุมอยู่
ทั้งหมดมีที่อยู่ตามบัตรประชาชนเลขที่ 1/2 ม.5 ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.กำแพงเพชร
ในที่เกิดเหตุยังพบข้างฝาบ้านมีรอยกระสุนทะลุออกไป 4 รู ทรัพย์สินภายในบ้านยังอยู่เป็นปกติ ไม่มีร่องรอยรื้อค้นหรือต่อสู้
นางศุภวรรณ พุ่มเจริญ อายุ 44 ปี ญาติของนางสำราญและเป็นผู้พบศพคนแรกให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนายพยอมพิมพ์ข้อความสั่งเสียในไลน์กลุ่มญาติด้วยความเป็นห่วงจึงรีบมาดู
พบกับนายพยอมนั่งร้องไห้อยู่ภายในบ้านปิดประตูล็อกข้างในไว้จึงมองไปที่ช่องหน้าต่างพยายามชวนคุยถามถึงภรรยากับลูกไปไหน
นายพยอมตอบว่าไม่อยู่แล้วจากนั้นชักลำปืนขึ้นบอกให้ตนเองกลับไป ด้วยความกลัวจึงถอยห่างออกมา และได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัดแล้วเงียบไป จึงได้ไปตามญาติมาดู เมื่อเปิดประตูเข้าเข้าไปทั้ง 3 คน เสียชีวิตหมดแล้ว
สอบญาติและเพื่อนบ้าน
ขณะที่ชาวบ้านข้างเคียงให้การว่า ปกตินายพยอมเป็นคนที่นิสัยดีอารมณ์ดีเป็นคนตลกขบขัน ใครเจอนายพยอมแล้วจะต้องมีความสุขไม่เคยมีอารมณ์เครียด
แต่ก่อนหน้านี้นายพยอมเคยพูดเป็นลางไว้ว่า ถ้าเขาเครียดเขาจะก่อเหตุยิงทั้งบ้านเลย ซึ่งชาวบ้านคิดว่าเป็นแค่พูดเล่นขำๆ เท่านั้น เพราะเรื่องที่พูดนั้นต่างจากลักษณะนิสัยนายพยอมที่เป็นคนใจดี ไม่เคยคิดว่าจะมาก่อเหตุสลดยิงภรรยาตัวเองและลูกบุญธรรม
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทราบว่า นาย พยอมเป็นอดีตส.อบต.สระแก้ว แต่มาทำสวนมะนาวที่บ้านหลังดังกล่าว ก่อนหน้านี้มีฐานะค่อนข้างดี มีรถกระบะ 1 คัน รถจักรยานยนต์ 2 คัน และรถไถอีก 2 คัน
แต่ระยะหลังมีปัญหาเรื่องหนี้สิน จนต้องแบ่งสวนมะนาวบางส่วนให้คนอื่นมาเช่าทำ เหลือเพียงบางส่วนไว้ทำกินเอง
ก่อนเกิดเหตุน.ส.วิภาวรรณลูกสาวบุญธรรมที่ขอจากญาติมาเลี้ยงดูตั้งแต่เด็ก และศึกษาอยู่ที่ จ.พะเยา กลับบ้านมาขอเงินค่าเทอมจำนวน 20,000 บาท นายพยอมที่กำลังขัดสนจึงออกไปหยิบยืมหาเงินนอกบ้าน แต่ไม่สามารถยืมใครได้
คาดเป็นสาเหตุให้เกิดความเครียดใช้อาวุธปืนลูกซองยาว 5 นัด ปลิดชีพยกครัวเพื่อยุติปัญหาในช่วงก่อนรุ่งสาง
เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า นายพยอมใช้อาวุธปืนยิงภรรยาและลูกบุญธรรมก่อน จากนั้นได้ส่งข้อความแช็ตไปในไลน์กลุ่มของญาติเพื่อสั่งเสีย
ขณะเดียวกันนางศุภวรรณญาติของภรรยาเดินทางมาดูด้วยความห่วงใย และพบนายพยอมเพียงคนเดียว หลังจากพูดคุยกันได้ไม่นานนายพยอมไล่นางศุภวรรณ ให้กลับไปและมีเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด เสียชีวิตเป็นคนสุดท้าย
เบื้องต้นส่งศพผู้เสียชีวิตให้แพทย์ผ่าชันสูตรอย่างละเอียด ก่อนสอบสวนญาติและคนใกล้ชิด เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
จากคนที่เคยมีอันจะกิน แต่วันนี้ไม่มีแม้แต่เงินจะจ่ายค่าเทอมให้ลูก สุดท้ายเรื่องราวก็ต้องจบลงด้วยโศกนาฏกรรม
