คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ชื่อของ น.ส. บุษราคัม เสาร์ทอง หรือ ‘หมวย บุษราคัม’ กลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง หลังจากเมื่อปลายปี’62 เจ้าตัวถูกหนุ่มๆ รุมแจ้งความเอาผิดใช้อุบายให้หนุ่มหลงรัก ยอมใช้ชื่อออกรถให้ ก่อนจะเชิดรถหนีเอาไปขาย ทิ้งให้หนุ่มๆ รับภาระผ่อนกุญแจรถต่อไป มีผู้เสียหายถูกหลอกออกรถถึง 12 คัน

ครั้งนั้นพอเป็นข่าวเจ้าตัวก็ชิงเข้ามอบตัวกับตำรวจพร้อมขอเจรจานำรถมาคืนให้กับ ผู้เสียหาย หลังรับมอบตัวตำรวจแจ้งข้อหา ฉ้อโกงประชาชน และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ทุจริตหลอกลวงโดยนำข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่คอมพิวเตอร์ อนุญาตให้ปล่อยตัวไปชั่วคราวโดยไม่ต้องมีการประกันตัว ระหว่างรอรวบรวมพยานหลักฐานสรุปสำนวนส่งดำเนินคดี

สาวหมวยหายไปจากหน้าสื่อ แต่เจ้าตัวยังมีพฤติกรรมเหมือนเดิม โดยเมื่อช่วงเดือนส.ค. ปี 63 นายเอ (นามสมมติ) อายุ 23 ปี ชาวอ.เมือง จ.ชลบุรี ก็เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.วุฒินันท์ นามแสง รองผกก. หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.เสม็ด เพื่อดำเนินคดีกับน.ส.หมวย

ไม่ขอพูดอะไร

นายเอให้การว่า รู้จักน.ส.หมวยผ่านทางแอพฯ หาคู่ แล้วเกิด พึงพอใจกัน จนนัดไปกินข้าว จากนั้น น.ส.หมวยอ้างว่าต้องการออกรถกระบะ แต่ตัวเองติดแบล็กลิสต์ อยากให้ใช้ชื่อเป็นผู้ออกรถ โดยน.ส.หมวยบอกว่าจะเป็นคนจ่ายเงินดาวน์และค่างวดรถเอง นายเอจึงหลงเชื่อให้เอกสารไปออกรถกระบะ ยี่ห้อ ฟอร์ด สีขาว ป้ายแดง ถึงวันนัดน.ส.หมวยไปรับรถเพียงผู้เดียว ตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา หลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อได้อีก

นายเอ เข้าแจ้งตำรวจ

หลังเข้าแจ้งความนายเอจึงได้รู้ความจริงจากตำรวจว่า คดีเก่าของน.ส.หมวยที่อยู่ที่โรงพักก็ยังไม่จบ โดยเจ้าตัวยังติดต่อกับตำรวจตลอด อีกทั้งมีผู้เสียหายมาแจ้งความดำเนินคดีแล้วมากกว่า 10 ราย ใน 4 โรงพักในจ.ชลบุรี ข้อหาฉ้อโกงประชาชนและนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จหรือพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

รูปวันรับรถ

พอรู้ความจริงนายเอถึงกับครวญว่า อยากขอให้ตำรวจช่วยติดตามตัวน.ส.หมวย มาดำเนินคดีข้อหาหลอกลวง หรือจะมาเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองรถก็ได้ เพราะขณะนี้เดือดร้อนมากต้องเป็นคนผ่อนค่างวดรถเดือนละ 10,500 บาท จำนวน 84 เดือน นานถึง 7 ปี ตามสัญญาที่น.ส.หมวยทำไว้กับไฟแนนซ์

พ.ต.ท.วุฒินันท์ นามแสง รองผู้กำกับสอบสวน สภ.เสม็ด ฝากเตือนหนุ่มๆ ที่นิยมเล่นแอพฯ หาคู่ ควรที่จะดูให้ดี เพราะเมื่อหากมีผู้ใดนำเอกสารไปซื้อ-ผ่อน ส่งของที่มีมูลค่าแล้วเป็นภาระผูกพันกับเรา เราก็จะต้องถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้เสียหายบางรายถูกไฟแนนซ์ฟ้องเรียกค่าเสียหาย โดยบางรายศาลพิจารณาลงโทษให้ผ่อนชำระใช้หนี้กับทางบริษัทรถยนต์ หรือไฟแนนซ์นั้นๆ อีกด้วย

สุดท้ายก็จนมุม โดยวันที่ 11 ก.ย. ที่สภ.ดอนหัวฬ่อ จ.ชลบุรี พ.ต.ท. จิรวัฒน์ จันทร์ศรีเพชร รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้นำตัว น.ส. บุษราคัม ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลแขวงจังหวัดชลบุรี ที่ 146/2563 ในข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ มาสอบสวนเพิ่มเติม ก่อนส่งตัวฟ้องศาล

หลังร่วมกับตำรวจ สภ.หัวหิน จ.ประจวบ คีรีขันธ์ จับกุมได้บริเวณร้านแห่งหนึ่ง ใน ต.หัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยตำรวจแกะรอยจากเฟซบุ๊กที่ น.ส.บุษราคัม ได้โพสต์ว่ามาเปิดร้านสปานวดเพื่อสุขภาพที่หัวหิน จึงได้นำหมายศาลไปแสดงและควบคุมตัวมาดำเนินคดี เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การภาคเสธ พร้อมเผยว่าจะให้การในชั้นศาลเท่านั้น

ข้อความคุยกับเหยื่อ

ด้าน พ.ต.ท.จิรวัฒน์กล่าวว่า ได้จับกุมตามหมายจับของศาลแขวงจังหวัดชลบุรี 3 หมายจับด้วยกัน ที่ออกโดย สภ.ดอนหัวฬ่อ เนื่องด้วยมีผู้เสียหายได้มาแจ้งความไว้ว่า น.ส.บุษราคัมได้ตีสนิทและรู้จักกันทางโลก โซเชี่ยล ก่อนติดต่อกันมาตลอด ได้ให้เงินกับผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้ชายเพื่อให้ไปดาวน์รถยนต์ และได้ไปรับรถยนต์ที่บริษัทแต่เพียงผู้เดียว

ต่อมาทางศูนย์จำหน่ายรถยนต์ที่ฝ่ายผู้เสียหายไปออกรถมานั้น ได้ติดตามทวงผู้เสียหายให้ไปชำระค่างวด ซึ่งมาทราบว่าได้ถูก น.ส.บุษราคัมหลอกเอารถไป ทั้งนี้ไม่ได้มีคดีแค่ สภ.ดอนหัวฬ่อ ที่เดียว ยังมีคดีอีกที่ สภ.แสนสุข, สภ.เสม็ด, สภ.เมืองชลบุรี และสภ.พานทอง อีกด้วย

เบื้องต้นได้คัดค้านประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะไปต่อรองกับทางผู้เสียหาย อีกทั้งอาจจะมีการหลบหนีออกนอกประเทศ เพราะเป็นคดีต่างกรรมต่างวาระ คดีโทษจำคุก 3 ปี ต่อ 1 คดี จึงอยากฝากถึงผู้เสียหายที่โดน น.ส.บุษราคัมฉ้อโกงไปนั้นให้มาแจ้งความเพิ่มเติมได้ที่พื้นที่เกิดเหตุ เพื่อที่จะได้ดำเนินคดีตั้งข้อหาเพิ่มแยกเป็นคดีๆ ต่อไป

สวัสดิ ผลชัยภูมิ

เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน