คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ด้วยความที่เข้าออกเรือนจำจนแทบจะกลายเป็นบ้านหลังที่สอง นายวุฒิชัย เตชสิทธิ์ธนวัฒน์ อายุ 35 ปี หนุ่มชาว ต.สะเดียง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ จึงมีความคุ้นเคยกับช่องทางต่างๆ ภายในเรือนจำจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นอย่างดี นำมาสู่การวางแผนแหกคุกอันสุดแยบยล ทำเอาผู้คุมเรือนจำถึงกับหน้าแตกไปตามๆ กัน

สายวันที่ 17 ก.ย. ภายในเรือนจำจังหวัดเพชรบูรณ์เกิดเสียงเอะอะโวยวายขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่นับจำนวนผู้ต้องขังแล้วพบว่ามีผู้ต้องขังหายตัวไป 1 นาย เมื่อตรวจสอบพบว่าผู้ต้องขังคนดังกล่าวชื่อ นายวุฒิชัย เตชสิทธิ์ธนวัฒน์ เป็นชาว ต.สะเดียง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ถูกจับกุมในข้อหาลักทรัพย์ (ต่อเนื่อง) เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2563 และถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำ

เมื่อตรวจเช็กภาพจากกล้องวงจรปิด ก็พบว่าในช่วงเวลาประมาณ 09.53 น. นายวุฒิชัยสวมเสื้อคลุมและเครื่องแบบเจ้าหน้าที่เรือนจำ สวมหมวกและหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า สวมถุงมือ ถือแฟ้มเอกสารเดินออกมาจากประตูเรือนจำ ทีแรกเจ้าตัวทำทีเดินเลี้ยวไปทางอาคารสำนักงาน ก่อนจะเลี้ยวกลับเดินอย่างเร็วออกหน้าประตูใหญ่เรือนจำไป

ในภาพยังเห็นนายวุฒิชัยเดินไปขึ้นรถสามล้อเครื่องที่จอดรอผู้โดยสารอยู่หน้าเรือนจำขับหายออกไป จึงรีบไปสอบถามทางผู้ขับขี่รถสามล้อเครื่อง จนทราบว่าถูกจ้างให้ไปส่งบริเวณด้านหลังห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ซึ่งอยู่ห่างจากเรือนจำประมาณ 3-4 กิโลเมตร

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่เรือนจำรีบรายงานเหตุขึ้นไปตามลำดับ พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยออกติดตาม โดย พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน ผบก.ภ.จว.เพชรบูรณ์ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกโรงพักออกสกัดเส้นทางต่างๆ ที่คาดว่าจะใช้หลบหนี

ผ่าแผนแหกคุกเพชรบูรณ์ นช.แสบปลอมตัวเป็นผู้คุม

ขณะที่การสืบสวนข้อมูลพบว่าภรรยาของนายวุฒิชัยมีบ้านอยู่ใกล้กับห้างบิ๊กซีจึงคาดว่าอาจไปหลบที่บ้านภรรยา ชุดสืบสวนไล่ล่าจึงออกติดตามไปอย่างกระชั้นชิดแต่ก็ไม่พบตัว

แม้จะคลาดกันชนิดหวุดหวิด แต่ก็ใช่ว่าตำรวจจะคว้าน้ำเหลว เพราะจากข้อมูลที่ได้พบว่าเจ้าตัวเปลี่ยนเสื้อเป็นเสื้อยืดสีเหลือง และสวมใส่หมวกกันน็อกแบบครึ่งใบสีน้ำตาล ก่อนใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้ารุ่นพีซีเอ็กซ์สีดำ ขี่หลบหนีมุ่งหน้าไปทางอำเภอหล่มสัก

ผ่าแผนแหกคุกเพชรบูรณ์ นช.แสบปลอมตัวเป็นผู้คุม

 

เย็นวันนั้นเองอิสรภาพของนายวุฒิชัยก็สิ้นสุดลงอีกครั้ง หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่เรือนจำกระจายกำลังกดดันทุกๆ เส้นทางที่หลบหนี ทั้งบ้านญาติๆ บ้านเพื่อน รวมทั้งจับตรวจจับสัญญาณโทรศัพท์ที่เจ้าตัวใช้ กระทั่งทราบว่าผู้ต้องขังยังหลบหนีอยู่ในพื้นที่รอบๆ ตัวเมืองเพชรบูรณ์ จึงได้บีบกระชับพื้นที่

กระทั่งไปพบว่ารถจักรยานยนต์ฮอนด้ารุ่นพีซีเอ็กซ์ สีดำ จอดอยู่ในป่าข้าวโพดข้างถนนในหมู่บ้านหมู่ที่ 10 ต.ชอนไพร อ.เมืองเพชรบูรณ์ จึงเข้าไปตรวจสอบก็พบว่าเป็นรถคันที่ผู้ต้องขังใช้หลบหนี จึงเข้าไปตรวจสอบภายในบ้านซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียวและเป็นบ้านญาติของนายวุฒิชัย พบว่านายวุฒิชัยนอนอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าวจึงได้ควบคุมตัวไว้

ผ่าแผนแหกคุกเพชรบูรณ์ นช.แสบปลอมตัวเป็นผู้คุม

 

นักโทษแสบให้การรับสารภาพว่าสาเหตุที่ต้องหลบหนีจากเรือนจำเพราะว่ากลัวว่าจะถูกขังเป็นเวลานาน จึงได้คิดแผนโดยรอจังหวะที่ผู้คุมเผลอได้แอบเข้าไปในห้องพักผ่อนของผู้คุมและขโมยเสื้อผ้าสวมใส่ ใส่หมวก หน้ากากอนามัย และใส่แว่นตาที่ใช้ในโรงงานในเรือนจำใส่ปิดบังใบหน้า และทำทีถือแฟ้มเอกสารเดินออกมาทางประตูซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เฝ้าประตูเห็นว่าเป็นผู้คุมจึงได้เปิดให้

ช่วงที่เดินออกมาก็ทำตัวให้ปกติที่สุด จากนั้นเดินออกมาว่าจ้างรถสามล้อเครื่องหน้าเรือนจำให้ไปส่งที่บ้าน ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 5 กิโลเมตร จากนั้นได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีวนเวียนอยู่ในพื้นที่ตัวเมืองเพชรบูรณ์และมากบดานอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว เพื่อให้รอมืดเสียก่อนจึงจะหลบหนีโดยตั้งใจไว้ว่าจะหลบหนีข้ามไปประเทศลาว เพราะมีเพื่อนที่รู้จักอยู่ที่นั่น แต่ก็มาถูกจับได้เสียก่อน

ผ่าแผนแหกคุกเพชรบูรณ์ นช.แสบปลอมตัวเป็นผู้คุม

 

พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุก สภ.สกัดเส้นทางต่างๆ ที่จะหลบหนี แต่ก็ไม่พบ รวมทั้งได้เช็กสัญญาณโทรศัพท์ทำให้ทราบว่าผู้ต้องขังรายนี้ยังคงวนเวียนอยู่ในพื้นที่ตัวเมืองเพชรบูรณ์ จึงได้ปูพรมค้นหา กระทั่งสามารถจับกุมตัวได้ดังกล่าว

สำหรับนายวุฒิชัย เตชสิทธิ์ธนวัฒน์ เป็นผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ถึง 7 คดี ถูกจับได้เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2563 และทำการฝากขังไว้ที่เรือนจำจังหวัดเพชรบูรณ์เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2563 เพื่อรอขึ้นศาล แต่ก็มาก่อเหตุหลบหนีและถูกจับกุมดังกล่าว

แผนหนีครั้งนี้อาจทำให้เรือนจำต้องยกเครื่องความปลอดภัยกันครั้งใหญ่เสียที

 

อารีย์ สีแก้ว
เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน