คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ทำเอาตำรวจโรงพักนางรอง จ.บุรีรัมย์ วุ่นวายแทบกินไม่ได้ นอนไม่หลับ เมื่อจู่ๆ นายชัชชัย สมบัติวงค์ อายุ 35 ปีผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์วิ่งชนทะลุกระจกประตูจนแตกละเอียดหลบหนีลอยนวลไปจากโรงพักเมื่อเย็นวันที่ 25 ก.ย.

เหตุการณ์วุ่นวายเริ่มต้นขึ้นภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นางรองและตำรวจชุดสืบสวน สภ.กระทุ่มแบนจ.สมุทรสาคร จับกุมตัว นายชัชชัย สมบัติวงค์ อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาคดี “ลักทรัพย์ที่เป็นเครื่องมือกลมีไว้สำหรับประกอบกสิกรรม หรือได้มาจากการกสิกรรม(ข้าวเปลือก) ในเวลากลางวันในเคหสถาน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุมหรือรับของโจร”

หลังเจ้าตัวก่อเหตุลักเครื่องมือเกษตรของเกษตรกรรายหนึ่งในพื้นที่อำเภอนางรอง จ.บุรีรัมย์ ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนก.ค.2563 ที่ผ่านมา แล้วหลบหนีไปรับจ้างก่อสร้างที่ จ.สมุทรสาคร หลังถูกจับกุมตำรวจคุมตัวนายชัชชัยกลับมาดำเนินคดีในท้องที่เกิดเหตุที่ สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์

ต่อมาเวลา 14.30 น. วันที่ 25 ก.ย.พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี พร้อมด้วยร.ต.ต.ปรีชา ชนะกุล รอง สว.(ป) สภ.นางรองพร้อมกำลังควบคุมตัวนายชัชชัยไปทำแผนประทุษกรรมประกอบคำรับสารภาพตามจุดต่างๆ กว่า 7 จุด ที่ก่อเหตุขโมยข้าวเปลือกตามบ้านชาวบ้าน หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนควบคุมตัวมาที่ห้องสอบสวน แต่ขณะจะให้เจ้าตัวลงชื่อในสำนวนสอบสวน จึงจำเป็นต้องสลับมือที่ไพล่หลังใส่กุญแจมือ เปลี่ยนมาด้านหน้าแทน

นายชัชชัยอาศัยช่วงที่มีประชาชนเข้ามาติดต่อสอบถามพนักงานสอบสวนวิ่งหนีออกไปหน้า สภ.นางรอง โดยมีนางสาวลำไย นวลวิไล ภรรยา สตาร์ตรถมอเตอร์ไซค์จอดรออยู่ พร้อมลูกวัย 2 ขวบ ก่อนพากันซ้อนรถมอเตอร์ไซค์ 4 คน ขี่ไปทางวัดแพงพวย

ขณะนั้นร.ต.ต.ปรีชาที่อยู่บริเวณด้านหน้าสถานีตำรวจ พยายามเข้าล็อกตัวและวิ่งไล่ตามผู้ต้องหาทำให้ถูกเศษกระจกบาดได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ผู้ต้องหาแม้จะสามารถหลบหนีไปขึ้นรถจักรยานยนต์ของภรรยาได้ แต่ก็คาดว่าน่าจะได้รับบาดเจ็บเช่นกัน เพราะมีรอยเลือดหยดทั้งบริเวณที่กระจกแตก ตามบันได และทางเดินโรงพัก

ด้าน น.ส.วิลัย หนูเสน เจ้าของร้านขายของชำหน้าโรงพัก ซึ่งเห็นเหตุการณ์เผยว่าเมื่อช่วงประมาณบ่ายสาม ได้ยินเสียงกระจกของโรงพักแตกดังสนั่น ตอนแรกไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น กระทั่งสักพักเห็นตำรวจวิ่งไล่ตามผู้ชายคนหนึ่งมา และมารู้ทีหลังว่าเป็นผู้ต้องหา ก่อนที่จะเห็นผู้ชายคนดังกล่าวขึ้นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน แต่จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้โดยมีผู้หญิงผมยาวสีทองนั่งคร่อมติดเครื่องรถจักรยานยนต์ไว้ โดยมีเด็กมาด้วยพอผู้ชายคนนั้นขึ้นรถก็ขับออกไป

หลังเกิดเหตุตำรวจออกติดตามล่าตัวโจรแสบในทันที จุดแรกคือไปที่บ้านแต่ก็ไม่พบตัว แต่ก็ได้ข้อมูลจากชาวบ้านว่า พบลูกสาวคนโตของทั้งคู่เดินจูงน้องกลับมาที่บ้าน เมื่อสอบถามก็บอกว่าพ่อกับแม่เอาน้องมาทิ้งไว้ที่หน้าโรงเรียน แล้วมีคนไปบอก ส่วนพ่อกับแม่ไม่ได้เจอหน้ากัน ไม่รู้ว่าไปไหน จึงพาน้องกลับบ้าน

ขณะที่ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเมื่อช่วงที่นายชัชชัยอยู่บ้านนั้นข้าวของชาวบ้านจะหายเป็นประจำ ทั้งถังแก๊ส และของอื่นๆ แต่ก็ไม่กล้าไปแจ้งความ เพราะกลัวจะถูกทำร้าย อยากให้ตำรวจจับตัวได้โดยเร็ว และอยากให้ติดคุกนานๆ ชาวบ้านจะได้หายกังวล

สำหรับนายชัชชัยเคยติดคุกมาหลายครั้ง ส่วนใหญ่จะเป็นคดีลักทรัพย์ เคยหลบหนีการจับกุมและติดคุกมาแล้ว กระทั่งไปก่อเหตุขโมยข้าวเปลือกและเครื่องกลการเกษตรของชาวบ้านในอำเภอนางรองหลายจุด จนศาลนางรองออกหมายจับ เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา ก่อนจะหลบ
หนีไปอยู่จังหวัดสมุทรสาคร แล้วถูกตำรวจกองปราบฯ และชุดสืบสวนจับได้แล้วนำตัวมาดำเนินคดีที่ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ และหลบหนีระหว่างการสอบสวนอีกครั้ง

หลังเป็นข่าวเพียงวันเดียวตร.ก็สามารถตามจับกุมตัวกลับมาได้ทั้งสองผัวเมีย โดยเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 26 กันยายน มีผู้พบเห็นชายแปลกหน้าลักษณะเท้ามีบาดแผล เดินอยู่แถวหมู่บ้านวชิราฯต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมาจึงได้แจ้ง พ.ต.ท.กิตติกร กาศลังกา สว.(สอบสวน) สภ.ปากช่อง

ทันทีที่รับแจ้งสารวัตรกิตติกรรีบสั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนออกติดตาม แต่ก็ไม่พบตัว และต่อมาเมื่อช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่พบเสื้อกันหนาวแขนยาวสีแสดทิ้งอยู่แถวป่าข้าวโพด ต.ปากช่อง อ.ปากช่องห่างจากจุดที่พบครั้งแรกประมาณ 8 ก.ม.เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ปากช่อง ชุดสืบสวนภาค 3 และหน่วยกู้ภัยสว่างวิชาธรรมปากช่อง รวมทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จึงร่วมออกติดตาม ก่อนสามารถควบคุมตัวมาได้พร้อมภรรยา จากนั้นจึงนำตัวมายังสภ.ปากช่อง และควบคุมตัวไปยังภาค 3เพื่อประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ มารับตัวต่อไป

เรืองรุจ วังแจ่ม
สุรชัย พิรักษา
วัชรากร นามสีฐาน
เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน